นับถอยหลังการประมูลวงโคจรดาวเทียมที่จะเกิดขึ้นต้นเดือนมกราคม 2566 ชุดวงโคจรทั้ง 5 ชุด รวมมูลค่าถ้าประมูลออกไปทั้งหมดกว่า 1,328 ล้านบาท ไม่ง่ายเลยที่ทุกชุดจะได้รับความสนใจทั้งหมด อุปสรรคประการสำคัญ นอกจากความน่าสนใจของชุดวงโคจร คือ ราคา ที่ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมมองว่า ราคาแพงเกินไปและจะกลายเป็นอุปสรรคต่อความสนใจ เพราะมองว่าจะเป็นต้นทุนที่เพิ่ม ในการให้บริการดาวเทียม
ร้อยโทเจษฎา ศิวรักษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการสื่อสาร คณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ให้ความเห็นถึงการจัดประมูลวงโคจรดาวเทียมในเดือนมกราคม 2566 ว่า กิจการดาวเทียมควรมองว่าไม่ใช่กิจการเฉพาะภายในประเทศ แต่เป็นกิจการที่ให้บริการระดับภูมิภาค และระดับโลก หลักการที่ยอมรับในระดับสากล คือ ดาวเทียม ไม่ควรเป็นสมบัติเฉพาะของชาติ คือ ไม่ใช่ทรัพยากรของชาติใดชาติหนึ่ง ดังนั้น การสนับสนุนผู้ประกอบการดาวเทียมในประเทศไทยให้เป็นผู้ให้บริการดาวเทียมได้ จึงควรสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเข้าถึงวงโคจรได้ง่ายที่สุด เพื่อนำวงโคจรดาวเทียมมาบริหารและให้บริการ
ธุรกิจดาวเทียมเป็นธุรกิจที่มีต้นทุนสูงมาก หากยังต้องมีการประมูลวงโคจรดาวเทียมด้วยเม็ดเงินสูงๆ ยิ่งเท่ากับเป็นการทำให้ผู้ประกอบการภายในประเทศมีต้นทุนสูง ทำธุรกิจได้ลำบาก นักลงทุนต่างประเทศก็จะให้ความสนใจน้อย
“การประมูลทำให้เกิดต้นทุนโดยไม่จำเป็น ทำให้ผู้ประกอบการไทยมีต้นทุนในการแข่งขันกับต่างชาติ การประมูลไม่ใช่หลักการที่ถูกต้อง cost ในการ Regulation สูง มันก็ไม่ดึงดูดใจ”
การกำหนดเงื่อนไขในการประมูลดาวเทียมล่าสุด ยังเป็นข้อจำกัดสำหรับผู้ประกอบการ และหารเมื่อเปิดประมูลแล้วมีคนเข้าประมูลน้อย หรือไม่เข้าเลยอาจทำให้จัดสรรวงโคจรออกไปไม่ได้ เป็นความเสี่ยงที่จะถูกสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (Internal Telecommunications Union :ITU) เรียกคือสิทธิในการใช้วงโคจร
“ประเทศไทยจัดสรรวงโคจรดาวเทียมได้ล่าช้ามาก จนตอนนี้มีความเสี่ยงที่จะมีวงโคจรดาวเทียม หนึ่งวงที่จะถูกไอทียูเรียกคืนสิทธิ ถ้ายิ่งจัดสรรวงโคจรล่าช้าออกไปอีก็ยิ่งทำให้เกิดความเสี่ยงมาก เพราะหากถูกเรียกคืนสิทธิไปแล้วจะเรียกกลับคืนมาจะยิ่งยากมากต้นทุนเวลาและต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ต้องไปเจรจาเพื่อได้วงโคจรกลับมายื่งจะสูงขึ้นอีก ด้วยกฎหมายที่เขียนไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงจึงทำให้เกิดปัญหา ถ้าเขียนกฎหมายแบบนี้แล้วไม่มีคนเข้าประมูลและเสียสิทธิวงโคจรดาวเทียม เมื่อเราบอกว่าวงโคจรดาวเทียมเป็นสมบัติชาติ แล้วไม่มีคนเข้าประมูลทำให้เสียสมบัติชาติใครจะรับผิดชอบ”
วิธีที่ดีที่สุดในการใช้วงโคจรคือ First Come First Serve ใครอยากใช้วงโคจรให้ไปแจ้งกับ กสทช. เพื่อประสานแจ้งไปที่ไอทียู ผู้ให้บริการเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการติดต่อ ในหนึ่งวงโคจรไม่ใช่จะมีดาวเทียมด้วยเดียว แต่มีได้หลายดวงได้ ถ้าเราต้องการสนับสนุนให้กิจการอวกาศเราเติบโตเราต้องสนับสนุนผู้ประกอบการของไทยให้ทำผู้ประกอบการทำธุรกิจได้ ในต่างประเทศส่วนใหญ่ใช้วิธีจัดสรรวงโคจรด้วยการประมูลน้อยมาก
ร้อยโทเจษฎา ศิวรักษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการสื่อสาร คณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ให้ความเห็นถึงการจัดประมูลวงโคจรดาวเทียมในเดือนมกราคม 2566 ว่า กิจการดาวเทียมควรมองว่าไม่ใช่กิจการเฉพาะภายในประเทศ แต่เป็นกิจการที่ให้บริการระดับภูมิภาค และระดับโลก หลักการที่ยอมรับในระดับสากล คือ ดาวเทียม ไม่ควรเป็นสมบัติเฉพาะของชาติ คือ ไม่ใช่ทรัพยากรของชาติใดชาติหนึ่ง ดังนั้น การสนับสนุนผู้ประกอบการดาวเทียมในประเทศไทยให้เป็นผู้ให้บริการดาวเทียมได้ จึงควรสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเข้าถึงวงโคจรได้ง่ายที่สุด เพื่อนำวงโคจรดาวเทียมมาบริหารและให้บริการ
ธุรกิจดาวเทียมเป็นธุรกิจที่มีต้นทุนสูงมาก หากยังต้องมีการประมูลวงโคจรดาวเทียมด้วยเม็ดเงินสูงๆ ยิ่งเท่ากับเป็นการทำให้ผู้ประกอบการภายในประเทศมีต้นทุนสูง ทำธุรกิจได้ลำบาก นักลงทุนต่างประเทศก็จะให้ความสนใจน้อย
“การประมูลทำให้เกิดต้นทุนโดยไม่จำเป็น ทำให้ผู้ประกอบการไทยมีต้นทุนในการแข่งขันกับต่างชาติ การประมูลไม่ใช่หลักการที่ถูกต้อง cost ในการ Regulation สูง มันก็ไม่ดึงดูดใจ”
การกำหนดเงื่อนไขในการประมูลดาวเทียมล่าสุด ยังเป็นข้อจำกัดสำหรับผู้ประกอบการ และหารเมื่อเปิดประมูลแล้วมีคนเข้าประมูลน้อย หรือไม่เข้าเลยอาจทำให้จัดสรรวงโคจรออกไปไม่ได้ เป็นความเสี่ยงที่จะถูกสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (Internal Telecommunications Union :ITU) เรียกคือสิทธิในการใช้วงโคจร
“ประเทศไทยจัดสรรวงโคจรดาวเทียมได้ล่าช้ามาก จนตอนนี้มีความเสี่ยงที่จะมีวงโคจรดาวเทียม หนึ่งวงที่จะถูกไอทียูเรียกคืนสิทธิ ถ้ายิ่งจัดสรรวงโคจรล่าช้าออกไปอีก็ยิ่งทำให้เกิดความเสี่ยงมาก เพราะหากถูกเรียกคืนสิทธิไปแล้วจะเรียกกลับคืนมาจะยิ่งยากมากต้นทุนเวลาและต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ต้องไปเจรจาเพื่อได้วงโคจรกลับมายื่งจะสูงขึ้นอีก ด้วยกฎหมายที่เขียนไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงจึงทำให้เกิดปัญหา ถ้าเขียนกฎหมายแบบนี้แล้วไม่มีคนเข้าประมูลและเสียสิทธิวงโคจรดาวเทียม เมื่อเราบอกว่าวงโคจรดาวเทียมเป็นสมบัติชาติ แล้วไม่มีคนเข้าประมูลทำให้เสียสมบัติชาติใครจะรับผิดชอบ”
วิธีที่ดีที่สุดในการใช้วงโคจรคือ First Come First Serve ใครอยากใช้วงโคจรให้ไปแจ้งกับ กสทช. เพื่อประสานแจ้งไปที่ไอทียู ผู้ให้บริการเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการติดต่อ ในหนึ่งวงโคจรไม่ใช่จะมีดาวเทียมด้วยเดียว แต่มีได้หลายดวงได้ ถ้าเราต้องการสนับสนุนให้กิจการอวกาศเราเติบโตเราต้องสนับสนุนผู้ประกอบการของไทยให้ทำผู้ประกอบการทำธุรกิจได้ ในต่างประเทศส่วนใหญ่ใช้วิธีจัดสรรวงโคจรด้วยการประมูลน้อยมาก