ปี 2026 คอนเทนต์ 90% อาจสร้างโดยเอไอ เป็นไปได้แค่ไหน?

ในปี 2026, 90% ของคอนเทนต์ออนไลน์ จะสร้างโดยเอไอ (Generative AI) 

ข้อมูลนี้มาจากรายงาน Europol Innovation Lab ที่พูดถึงภัยคุกคามจากเทคโนโลยี Deepfakes ที่ลอกเลียนใบหน้าบุคคลได้อย่างแนบเนียน

ตัวเลขดังกล่าวกำลังวาดภาพอนาคตให้ดู ‘น่ากลัว’ เกินจริง? 

อาจใช่ ถ้ามองช่วงเวลาที่รายงานฉบับนี้เผยแพร่ (28 เมษายน 2022) แต่หลังการมาถึงของ Chat GPT-4, Bard, Midjourney, DALL-E ฯลฯ 

ตัวเลข 90% อาจไม่ใช่เรื่องเซอร์เรียลอีกต่อไป 

90% เป็นตัวเลขที่สูงเกินไปไหม? หลายคนสงสัย 

มนุษย์จะปล่อยให้เอไอเป็นผู้สร้าง หรือมีส่วนร่วมในการสร้างคอนเทนต์ขนาดนี้เลยหรือ? อีกหลายคนกังขา 

 ไม่แปลก ถ้าจะมีคำถามกับเรื่องที่ยังไม่มีบทสรุป เพราะคลื่นเอไอเพิ่งก่อตัว แต่ใช่ว่าคลื่นเล็กๆ จะไร้ซึ่งสัญญาณของการเปลี่ยนแปลง 

นี่คือบางเหตุการณ์ที่เป็นเหมือนจิ๊กซอว์ชิ้นเล็กๆ ที่กำลังก่อตัวเป็นสึนามิในอนาคตอันใกล้ อนาคตที่เอไอจะเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตใหม่ของมนุษย์ 

ซึ่งอาจกินความหมายถึงการเป็นผู้สร้างคอนเทนต์กว่า 90% บนโลกออนไลน์ 

• จำนวนผู้ใช้ ChatGPT พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ข้อมูลล่าสุด (16 พฤษภาคม) มีผู้ใช้เกิน 100 ล้านบัญชี 
• ChatGPT คืออะไร หลายคนคงรู้แล้ว แต่สำหรับคนที่ยังไม่รู้ มันคือ AI Chatbot ที่พูดคุย ตอบโต้ คิด เรียนรู้ ต่อยอด และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ได้ไม่ต่างจากมนุษย์ 
• อัตราการเติบโตของ ChatGPT เร็วทำลายสถิติทุกแพลตฟอร์ม ผู้ใช้ถึง 1 ล้านบัญชี ภายใน 5 วันแรกหลังเปิดตัวเมื่อพฤศจิกายน ปี 2022 
• โตเร็วกว่า อินสตาแกรม (อันดับ 2) ที่ใช้เวลา 2 เดือน 15 วัน ถึง 1,500% หรือ 15 เท่าตัว 
• ก่อนจะแตะผู้ใช้หลัก 100 ล้านบัญชี ในเวลาไม่นาน เมื่อเดือนมกราคม ปี 2023 

• จำนวนผู้ใช้กำลังบอกเราว่า มนุษย์จำนวนมากใช้เอไอมากขึ้นทุกวัน ขณะเดียวกันเอไอกำลังเข้ามาในอาณาเขตการสร้างสรรค์ของมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ 
• 8 นาที 32 วินาที คือระยะเวลาเฉลี่ยที่คนใช้โต้ตอบกับ ChatGPT บนเว็บไซต์ ซึ่งระยะเวลาเท่านี้บอกว่า “ไม่ได้ใช้เล่นๆ” 
• ข้อมูลน่าสนใจยังมีอีกมาก แนะนำดูเพิ่มเติมได้ที่ Number of ChatGPT Users (2023) แต่สิ่งที่น่าสนใจมากกว่าจำนวนผู้ใช้ คือคนใช้ทำอะไร 
• เคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับนักศึกษาใช้เอไอ เช่น ChatGPT ช่วยทำการบ้านใช่ไหม หรือข่าวศิลปินส่งผลงานเข้าประกวดแล้วได้รางวัล จากนั้นคนก็ฮือฮา หลังรู้ว่าเอไอเป็นผู้สร้างผลงาน 

• ข่าวทั้งหมดมาจากต่างประเทศ บางคนอาจรู้สึกไกลตัว แต่ความจริงแล้ว โลกไร้พรมแดนมาหลายสิบปีแล้ว และสิ่งนี้กำลังเกิดขึ้นนอกประตูบ้านของคุณ 
• ใครที่อยากรู้ว่า กระแสเอไอในไทยเป็นอย่างไร แนะนำลองเข้ากรุ๊ปไลน์ชื่อ ‘ผมเชื่อว่า AI จะครองโลก’ ที่เป็นกรุ๊ปอัพเดทข่าวสารและความรู้เรื่องเอไอ 
• กรุ๊ปนี้รับสมาชิกจำกัด 5,000 คน หลังเปิดกรุ๊ปได้ 6 วัน (เปิดวันที่ 3 มิถุนายน) มีคนเข้าเป็นสมาชิกแล้ว 4,567 คน คิดเป็น 91% ของจำนวนสมาชิกที่เปิดรับ 
• จากการเข้าไปสังเกตการณ์พบว่า นอกจากแชร์ข่าวและแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องเอไอ คนจำนวนมากจะถามในทำนอง มีเอไอตัวไหนช่วยทำ ‘งาน’ นี้ได้บ้าง? แนะนำหน่อย 
• ‘งาน’ ที่ว่ามีสารพัด เช่น ออกแบบโลโก้ เขียนโค้ด ทำบัญชี แต่งเพลง ตัดต่อวิดีโอ คิดคำโฆษณา เขียนอีเมลหาคู่ค้าเป็นภาษาอังกฤษ 
• มีแชทของสมาชิกคนหนึ่งน่าสนใจ เขาแชร์คลิปงานวิดีโอที่ทำ แล้วบอกว่า ใช้ Midjourney ออกแบบตัวละครและภาพประกอบ ใช้ Bard ช่วยเขียนเนื้อเรื่อง แปลเป็นไทย (เจ้าตัวแก้ไขนิดหน่อย นอกเหนือจากนี้คือใช้โปรแกรมทำการ์ตูน 2D และพากษ์เสียงเอง) ‘คลิปนี้ใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ลองดูเป็นแนวทางได้ครับ’
• คลิปด้านล่าง คือคลิปที่สมาชิกคนนั้นพูดถึง 

• สิ่งที่เอไอทำได้ ในฐานะนักสร้างสรรค์ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจ แต่คือเรื่องปกติ และในเวลาไม่ช้า มันจะเก่งมากขึ้นแบบทวีคูณ (อ่านเพิ่มเติมได้ใน Generative AI ทางแยกของประวัติศาสตร์ นักสร้างสรรค์แห่งศตวรรษที่ 21?) 
• ปัจจุบัน ประเทศไทยมีคนสร้างเอไอมาช่วยเขียนคอนเทนต์ ‘ภาษาไทย’ โดยเฉพาะ เอไอตัวนั้นชื่อ Anissa - อนิสสา 
• คำโฆษณาในหน้าแรกของเว็บไซต์ระบุว่า มันคือผู้ช่วยเขียน... คอนเทนต์, บทความ SEO, แคปชัน, การบ้าน งานวิจัย 
• ผู้เขียนได้ทดลองใช้ บอกให้ Anissa เขียนแคปชั่นสำหรับเฟซบุ๊กของธุรกิจร้านอาหาร ตั้งหัวข้อว่า ข้าวไข่เจียว และนี่คือผลลัพธ์ที่ได้... 

• จากผลลัพธ์ที่ได้ ถือว่า ‘พอใช้’ หยิบมาใช้เป็นไอเดียหรือเกลาให้ดีขึ้นได้ เรียกว่าช่วยผ่อนแรงได้พอสมควร แต่ยังเอาไปใช้งานจริงไม่ได้ 
• บรรทัดที่แล้ว ต้องระบุว่าเป็นผลการประเมินวันนี้ เดือนหน้า ปีหน้า ผลลัพธ์จะเปลี่ยนไปแน่นอน เพราะเอไอพัฒนาและเรียนรู้ทุกวินาที 
• การใช้เอไอช่วยสร้างสรรค์งาน โดยเฉพาะคอนเทนต์ ด้านดีก็มี แต่ด้านร้ายก็มีเช่นกัน โดยเฉพาะ Fake News และข้อมูลที่บิดเบือน 
• เหตุเพราะเอไอดึงข้อมูลที่ไหลเวียนมหาศาลในโลกอินเทอร์เน็ตมาต่อยอดและสร้างสรรค์ แต่ข้อมูลเหล่านั้นไม่ใช่ข้อมูลคุณภาพหรือถูกต้องครบถ้วนทั้งหมด 
• ถ้านับรวมถึงคนที่มีเจตนาใช้เอไอบิดเบือนข้อเท็จจริงด้วยแล้ว เรื่องนี้ต้องระวังอย่างมาก ยกตัวอย่างเมื่อไม่นานมานี้ (เป็นตัวอย่างที่ไม่ซีเรียส) มีการแชร์รูป ทอม ครูซ แล้วมีข้อความระบุว่า ‘สตั๊นดับเบิ้ลของ ทอม ครูซ กำลังฉลองปิดกล้องกองถ่ายภาพยนตร์ Mission Impossible 7’ 

• คนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่า นี่เป็นเรื่องจริง แถมมีสำนักข่าวบางแห่งรีบฉวยนำเสนอ โดยไม่ตรวจสอบว่า ภาพนี้ (ความจริงมีหลายภาพ) เป็นภาพที่เอไอสร้างขึ้นมา 
• ภาพที่เอไอสร้างขึ้นมา นับวันยิ่งดูเหมือนมนุษย์จริงๆ มากขึ้นทุกวัน จนบางทีแทบจะแยกไม่ออก 
• ความสามารถของเอไอก้าวเข้าสู่พรมแดนแห่งการสร้างสรรค์ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์และสงวนไว้สำหรับมนุษย์ 
• ความฉลาดล้ำที่ไม่มีใครจินตนาการถึงขอบเขตของเอไอได้ ทำให้มนุษย์หวาดหวั่นว่า อาจไม่มีที่ยืนในอนาคต หลังมีรายงานระบุว่า งาน 1 ใน 4 จะถูกแทนที่โดยเอไอ 
• การมาถึงของเอไอกำลังพามนุษยชาติเดินเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์อีกครั้ง และการเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้นทุกมิติ ตั้งแต่การศึกษา การเกษตร สุขภาพ หรือแม้กระทั่งความมั่นคง
• ท่ามกลางความตื่นเต้นกับสิ่งที่เอไอมอบให้ อีกด้านหนึ่งของเหรียญคือความกังวลหวั่นวิตกว่าเอไอจะมาแย่งงาน (AI Anxiety) หลายคนแสดงออกชัดเจน หลายคนเก็บซ่อนความกังวลไว้ใต้ใบหน้า 
• ถามว่า ควรรับมือกับสึนามิของความเปลี่ยนแปลงอย่างไร ผู้เขียนนึกถึงคำตอบของพระอาจารย์ชยสาโร ที่ตอบคำถามผู้เขียน เมื่อ 5 ปีก่อน... 

“โลกวันนี้เปลี่ยนเร็วมาก หลายคนกังวลถึงอนาคตของอาชีพการงานที่กำลังทำอยู่ กลัวตกงานบ้าง กลัวไม่มีงานทำบ้าง มองไปในอนาคตก็ดูเหมือนจะมีแต่ความกลัวและความไม่รู้ เมื่อโลกเป็นแบบนี้ เราควรจะวางตัว วางใจ และวางชีวิตอย่างไร?” 

พระอาจารย์ชยสาโรยิ้มน้อยๆ แล้วตอบว่า… “ในแต่ละยุคสมัย เราทุกคนก็ต้องมีความกลัวความหวาดหวั่นเป็นเรื่องธรรมดา”

“อย่างรุ่นอาตมาตอนสมัยยังเด็ก ผู้คนก็กลัวสงครามนิวเคลียร์มาก กลัวคอมมิวนิสต์ ไม่ใช่ว่าเฉพาะยุคใหม่ แต่ในปัจจุบันก็ถือว่าเป็นกรณีพิเศษ เพราะมนุษย์ทำลายสิ่งแวดล้อม จนถึงจุดที่ยากจะแก้ไขได้แล้ว อันนี้ข้อหนึ่ง แต่ข้อสองก็คือความก้าวหน้าของเทคโนโลยี โดยเฉพาะของเอไอ อาจเป็นไปได้ว่าอาชีพต่างๆ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ก็จะไม่อยู่แล้ว…” 

“มีคำถามที่ผู้เขียนหนังสือ (เกี่ยวกับแอลฟาโกะ) ถามว่า แล้วคุณคิดไหม กูเกิ้ลใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงพัฒนาคอมพิวเตอร์ถึงขั้นนี้ได้ คำตอบคือ หนึ่งเดือน”
 
“อาตมาคิดว่าไม่ใช่แค่ทุกสิ่งกำลังเปลี่ยนแปลง แต่ความเร็ว อัตราความเปลี่ยนแปลงมันเร็วขึ้นๆ ถ้าถามว่าเราจะเตรียมตัวอย่างไร”

“พระพุทธองค์บอกว่าสิ่งทั้งหลายมีความเสื่อมเป็นธรรมดา เพราะฉะนั้นให้เราถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด ดังนั้นความพร้อมที่จะรับมือกับความเปลี่ยนแปลง ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด” 

พระอาจารย์ชยสาโรยกตัวอย่างสั้นๆ จากความทรงจำ “ตอนที่อาตมาบวชใหม่ๆ ยังจำได้ หลวงพ่อสุเมโธ ท่านเล่าว่า ตอนที่ไปอยู่อังกฤษใหม่ๆ จะมีชาวต่างชาติเข้ามาลองภูมิบ้าง ท้าทายบ้าง แล้วมีผู้ถามท่านว่า ท่านเนี่ยไม่เบียดเบียนสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงอย่างเด็ดขาด แล้วสมมติฆาตกรจะไปฆ่าโยมแม่ท่าน ท่านจะทำอย่างไร 

“หลวงพ่อสุเมโธก็ตอบว่า ขณะนี้อาตมาพูดไม่ได้ แต่อาตมาเชื่อว่าถ้าในขณะนั้นอาตมามีสติ อาตมาจะตัดสินใจทางที่ดีที่สุดในเวลานั้น”

“ดังนั้นการรับมือกับอนาคตจึงไม่ใช่ว่า เราจะต้องวางแผนล่วงหน้า หรือต้องพยายามคิดไปไกลว่าถ้าอนาคตจะต้องเปลี่ยนแปลงอย่างนั้นอย่างนี้ เราจะต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ มันทำไม่ได้หรอก เพราะว่ามันจะเปลี่ยนในทางที่ไม่มีใครพยากรณ์ได้”

“แต่ที่รู้ได้คือ ถ้าเราตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาท เราจะมีความพร้อมที่จะรับมือกับความเปลี่ยนแปลง”

“ไม่ว่าความเปลี่ยนแปลงนั้น จะอยู่ในรูปแบบไหนก็ตาม” 

• ในปี 2026 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า คอนเทนต์ออนไลน์กว่า 90% จะเป็นผลผลิตจากเอไอหรือไม่ ไม่มีใครรู้ แต่ที่แน่ๆ เอไอเป็นสิ่งที่มีอานุภาพมหาศาล และจะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งมโหฬารของโลกในอนาคตอันใกล้ 
• จงเตรียมตัวให้ดี เพราะเอไอมาแน่ และอาจมาเร็วกว่าที่คิด!