วันศุกร์ที่ผ่านมา (22 กันยายน) ภาพ iPhone 15 น่าจะผ่านตาคุณอย่างน้อยหนึ่งครั้ง
หลังเมื่อเช้าที่ผ่านมา iPhone 15 ได้วางขายอย่างเป็นทางการวันแรกในประเทศไทย ร้านกำหนดเปิดประตู 8 โมง
แต่สาวกแอปเปิ้ลมารอต่อคิวตั้งแต่เช้ามืด!

ข่าวรายงานว่า คนแรกที่ได้ครอบครอง iPhone 15 ณ Apple Store สาขาเซ็นทรัลเวิร์ล เป็นสาวไทยมารอตั้งแต่ตีสาม
ส่วนที่สาขาไอคอน สยาม เป็นสาวเวียดนาม เนื้อข่าวไม่ได้ระบุเวลา แต่ลงว่าเธอมารอตั้งแต่เช้ามืด
กระแสมารอต่อคิวซื้อ iPhone 15 แม้จะมีริ้วคลื่นให้เห็นตั้งแต่วันพฤหัส (21 กันยายน) จากการนำเสนอข่าว 'พรุ่งนี้เปิดขายวันแรก' แต่กระแสเริ่มสูงขึ้น หลังสื่อและชาวเน็ตนำเสนอภาพบรรยากาศและคนจำนวนมหาศาลที่มารอต่อแถว

หลังจากนั้น แนวโน้มกระแส iPhone 15 ยังคงไต่ระดับสูงขึ้น จากคอนเทนต์ที่เกิดขึ้นมากมาย สื่อยังคงนำเสนอข่าวที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่าคนสนใจ และ 'ขาย' ได้
ฝั่งแบรนด์ โดยเฉพาะแบรนด์ค่ายมือถือ เช่น AIS ก็โปรโมทแพคเกจ 'เรียกแขก' จน #iPhone15xAIS แรงขึ้นจนติดเทรนด์ทวิตเตอร์
รวมถึงแบรนด์อื่น เช่น เนื้อแท้ สาขาเซ็นทรัลเวิร์ล ที่ขอ 'โหนกระแส' ทำโปรโมชั่น 'โชว์ iPhone 15 รับไปเลยส่วนลด 15%' เรียกความสนใจและยอดขายไปในตัว
ส่วนสาวกแอปเปิ้ลที่ได้ครอบครอง iPhone 15 ต่างโพสต์โชว์สมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ว่า ในที่สุดก็ได้มาอยู่ในมือ
ขณะที่ชาวเน็ตต่างกดไลก์ แชร์ และแสดงความเห็นกันไปต่างๆ นานาตามความคิดและอารมณ์ในใจ
"คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก" ความคิดเห็นที่มีต่อภาพคนเข้าคิวรอซื้อ iPhone 15
"14 ยังใช้ไม่คุ้มเลย ใช้ไปก่อนๆ" เพื่อนในเฟซบุ๊กแชร์ภาพ iPhone 15 แล้วแปะอิโมจิจุ๊ปากห้อยท้าย สื่อเป็นนัยว่า ในใจเธออาจคิดตรงกันข้าม
"...โพสต์ด้วย iPhone 15 Pro Max สีไทเทเนียมธรรมชาติ" อินฟลูเอนเซอร์คนหนึ่งลงท้ายสเตตัสที่แสดงความเห็นต่อปรากฏการณ์วางขาย iPhone 15 วันแรกว่า "ขายดีกว่าปีที่แล้ว" คล้ายต้องการบอกว่า เขาได้ iPhone 15 มาครองแล้ว
"เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา ทำไมถึงอยากได้กันขนาดนั้น" ชายหนุ่มคนหนึ่งที่น่าจะมีอารมณ์ขบถ ตั้งคำถามกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น
ความจริงถ้าย้อนไปก่อนหน้าปี 2007 คงไม่มีใครคาดคิดว่า สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับไอโฟน (มากขนาดนี้) เช่นเดียวกับ หุ้นแอปเปิ้ล มือถือ และชีวิตในโลกยุคหลัง iPhone ที่พลิกผันรุนแรงอย่างยากที่จะหวนกลับ

คำถามคือแอปเปิ้ลทำได้อย่างไร? นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นคำถามที่มีคนเคยสงสัย และตั้งกระทู้ถามใน Qoura แพลตฟอร์ม Q&A สัญชาติอเมริกัน เมื่อ 4 ปีที่แล้ว (ปี 2019) ว่า "ทำไมผู้คนถึงชอบที่จะซื้อ iPhone รุ่นใหม่ล่าสุด ทั้งที่ฟังก์ชั่นโดยพื้นฐานแล้ว มันไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไหร่?"
บทความงานวิจัยการตลาดที่ศึกษาการซื้อสินค้าแฟชั่นอย่างเสื้อและรองเท้า (5 Surprising Findings About How People Actually Buy Clothes and Shoes) ที่เผยแพร่ใน Harvard Business Review มีข้อมูลที่น่าจะตอบคำถามนี้ได้
บทความนี้ระบุว่า เรื่องหนึ่งที่นักการตลาดเข้าใจกันผิด คือ ลูกค้าต้องการสิ่งใหม่อยู่ตลอดเวลา แต่ความจริงบ่อยครั้งลูกค้ายินดีที่จะซื้อซ้ำสินค้าแบบเดียวกันหรือคล้ายกัน
83% ของการช้อปปิ้งคือการซื้อซ้ำ ถ้าสินค้านั้นเป็นสิ่งที่พึงใจอยู่แล้ว
Harvard Business Review

"ความสำเร็จอาจหมายถึงการค้นหาว่าลูกค้าชอบอะไร แล้วขายสิ่งนั้นให้พวกเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า" คือข้อความสำคัญในบทความที่ย้ำสะกิดใจนักการตลาด
สิ่งที่แบรนด์ควรทำ คือการส่งเสริมการขายสินค้าที่คล้ายกัน ใส่ใจกับการโฆษณาสินค้าเวอร์ชั่นใหม่ เตือนเมื่อเวลาสินค้าใหม่ใกล้มาถึง เพื่อให้ลูกค้ารู้ว่าถึงเวลาเปลี่ยนแล้ว ที่สำคัญควรออกแบบประสบการณ์การซื้อที่ง่าย ลื่นไหล และทำกำไร
ไม่จำเป็นต้องคิดสิ่งใหม่ แต่เสนอขายสิ่งที่ใช่ (อยู่แล้ว) ในเวอร์ชั่นที่ดีกว่า "ลูกค้าต้องมาก่อน ไม่ใช้สินค้า"
ไม่รู้ว่า ทิม คุก ซีอีโอแอปเปิ้ลคนปัจจุบันรู้ความลับในใจนี้ของลูกค้าแค่ไหน แต่ที่แน่ๆ แอปเปิ้ลน่าจะเข้าใจสิ่งนี้ดี เมื่อดูจากสัดส่วนรายได้ในรอบ 10 กว่าปีที่ผ่านมา

ปัจจุบัน iPhone ครองสัดส่วนรายได้สูงสุด 48.5% หรือเกือบราว 50% และทำสถิติสูงสุด 69.74% ตอนไตรมาส 1 ปี 2018
อันดับสอง กลุ่มสินค้าประเภท Services บรรดามีในระบบนิเวศของแอปเปิ้ล เช่น iTunes Store, App Store, iCloud, Apple Care เป็นต้น ครองสัดส่วนรายได้ 25.93% และมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี รายได้ส่วนนี้น่าสนใจ เพราะแสดงถึงฐานแฟนที่เหนียวแน่นของแอปเปิ้ล และบริการในระบบนิเวศของแอปเปิ้ลที่ออกแบบได้ดีจนหลายคน 'ติดหนึบ' และยากจะปันใจไปที่อื่น
ส่วน Wearables, home and accessories เช่น Apple Watch ครองสัดส่วนรายได้ 10.13%, Mac 8.36%, iPad 7.08% ตามลำดับ
83% ของการช้อปปิ้งคือการซื้อซ้ำ ถ้าสินค้านั้นเป็นสิ่งที่พึงใจอยู่แล้ว ภาพคนแห่ซื้อ iPhone 15 ทั่วโลก ตอกย้ำประโยคนี้ให้มีน้ำหนักมากขึ้น
แต่เบื้องหลังการพยายามซื้อและเป็นเจ้าของ iPhone 15 มีเหตุผลมากกว่านั้น ระหว่างการค้นหาข้อมูลเพื่อหาคำตอบ เราลองพิมพ์ความสงสัยนี้ถามเอไอ ChatGPT
คำตอบที่ได้ค่อนข้างชวนขนลุกทีเดียว อยากรู้ไหมว่า ChatGPT ตอบว่าอย่างไร?