ญี่ปุ่น เล็งย้ายฐานการผลิต จากจีนมาไทยเพิ่มขึ้น

17 มีนาคม 2566 - 02:38

Thai-Japan-Joint-Trade-and-Economic-Committee-2023-SPACEBAR-Thumbnail
  • เอกชนไทย-ญี่ปุ่น ร่วมลงนาม MOU ดันการค้า การลงทุน ระหว่างกัน เน้นด้าน BCG และ Low Carbon Society

  • ชี้ ญี่ปุ่นหวังใช้ไทยเป็นฐานการผลิตในอาเซียน พร้อมเล็ง ย้ายฐานการผลิตจากจีนมาไทยเพิ่ม

เกรียงไกร เธียรนุกุล  ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. เผย การประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าและเศรษฐกิจ ไทย – ญี่ปุ่น  สมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น หรือ เคดันเร็น ยกทัพนักธุรกิจยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น มาตกลงความร่วมมือในการค้าและการลงทุนกับเอกชนไทย เพื่อตอกย้ำความมั่นใจและความเชื่อมั่น เน้นหนักด้าน BCG และ Low Carbon Society โดยญี่ปุ่นยังให้ความสำคัญกับประเทศไทยในการเป็นฐานการผลิตในอาเซียน และมีแผนที่จะย้ายฐานการผลิตจากจีนมาไทยเพิ่มขึ้น 

ทั้งนี้ ในปี 2565 ที่ผ่านมา ประเทศญี่ปุ่น โดย คิชิดะ ฟูมิโอะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนพฤษภาคม ในฐานะแขกของรัฐบาลไทย โดยเป็นการเยือนไทยครั้งแรกในรอบ 9 ปี ของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น  

ผลหารือระหว่างผู้นำทั้งสองครั้งนั้น ได้บรรลุผลเพื่อเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทยกับญี่ปุ่น โดยได้ยกระดับสถานะความสัมพันธ์จาก หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน (Comprehensive Strategic Partnership) อันเป็นผลทำให้เกิดการริเริ่มและความร่วมมือที่เพิ่มขึ้นอีกหลายด้าน
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/3DXFVwDAjhdbNJL9tDA1Ui/5d141519130b1fae5e02361e8fe0cbc2/Thai-Japan-Joint-Trade-and-Economic-Committee-2023-SPACEBAR-Photo01
สำหรับการจัดประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าและเศรษฐกิจ ไทย-ญี่ปุ่น  (Thai-Japan Joint Trade and Economic Committee 2023) ในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) อันประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และ สมาคมธนาคารไทย (กกร.) ร่วมกับ สมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น หรือ เคดันเร็น ซึ่งเป็นองค์กรภาคเอกชนขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น โดยทั้ง กกร. และ เคดันเร็น ได้มีความร่วมมือที่ใกล้ชิดกันมาเป็นระยะเวลานาน  

ทั้งนี้ เคดันเร็น ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อส่งเสริมความร่วมมือของภาคเอกชนไทย-ญี่ปุ่น โดยมีบริษัทขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก และในการประชุมระหว่างภาคเอกชนของทั้งสองฝ่ายในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสอันดียิ่งที่จะได้แลกเปลี่ยนความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ ที่ทั้งสองฝ่ายสนใจร่วมกัน นอกจากนี้ ผู้แทนฝ่ายไทยและญี่ปุ่นได้เห็นชอบลงนาม MOU ระหว่างกัน ซึ่งจะส่งเสริมความร่วมมือให้มีความใกล้ชิดกันมากขึ้น รวมถึงผลักดันประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญต่อไป  

สาโรช ชยาวิวัฒน์กุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า การจัดประชุมร่วมทางการค้าฯ ไทย - ญี่ปุ่น ถือเป็นโอกาสที่ดีในการพบปะผู้แทนระดับสูงระหว่างสองประเทศ กว่า 120 คน
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/6wclmRvi4AnshhoWwFzHqJ/445be5f8dda3a76b896479d7493576a0/Thai-Japan-Joint-Trade-and-Economic-Committee-2023-SPACEBAR-Photo02
นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจาก Mr.Kazuya Nashida เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย, เมธี สุภาพงษ์ รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ในการบรรยายและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เข้าร่วมประชุม อีกด้วย และการลงนามความร่วมมือฯ จะเป็นโอกาสที่ภาคเอกชนทั้งสองประเทศ จะได้มีการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันมากขึ้น  โดยการหารือครั้งนี้ ประกอบด้วย 3 ส่วน 
ส่วนที่ 1 หัวข้อ ‘สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ และแนวโน้มการลงทุนของไทยและญี่ปุ่น’ 
ส่วนที่ 2 หัวข้อ ‘มุมมองที่สำคัญของความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างไทยและญี่ปุ่น’ 
และส่วนที่ 3 หัวข้อ ‘การส่งเสริมการค้าการลงทุนทวิภาคีระหว่างไทยและญี่ปุ่น’ 

กอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ ได้มีผู้ทรงคุณวุฒิจากทั้งสองประเทศ ร่วมให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และนำไปสู่การหารือเชิงลึก โดยมีประเด็นที่ที่มีความสนใจร่วมกัน เป็นหัวข้อที่สะท้อนถึงมุมมองที่กว้างขวางและหลากหลายของพัฒนาการทางด้านเศรษฐกิจในยุคปัจจุบันของทั้งสองประเทศ อันได้แก่ เศรษฐกิจ BCG, การบริหารจัดการพลังงานสะอาด,  การลงทุนด้าน EV, การบริหารจัดการด้าน Logistics ร่วมทั้ง การขยายการผลิตในไทย เป็นต้น
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/5Ody2ntq3ORepIP66ejxkM/e9d0e4a2c707edc7f6edef96619c233e/Thai-Japan-Joint-Trade-and-Economic-Committee-2023-SPACEBAR-Photo03

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์