ม.หอการค้าไทย เผย ปีใหม่ 2566 คึกคักเงินสะพัดกว่า 1 แสนล้านบาท ประชาชนไม่กังวลโควิด-19 ออกมาจับจ่ายใช้สอยปกติ คาด เศรษฐกิจไตรมาสแรก ขยายตัว 3.5% จากความพยายามใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เผย ‘พฤติกรรมและการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี 2566 และทัศนะต่อประเด็นต่างๆ’ โดยพบว่า การใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 มีเงินสะพัดอยู่ที่ 103,039 ล้านบาท ขยายตัว 20.1% ซึ่งเป็นการขยายตัวสูงสุดครั้งแรกในรอบ 17 ปี นับตั้งแต่ปี 2550 และเป็นครั้งแรกที่มียอดเงินสะพัดทะลุแสนล้านบาท
นอกจากนี้ จะพบว่าประชาชนมีการจับจ่ายในช่วงเทศกาลอย่างคึกคักและเป็นกลับมาจับจ่ายที่มีความสุขในรอบ 3 ปี และจะส่งผลให้เศรษฐกิจทะยานขึ้นอย่างสดใส และประกอบกับการให้ของขวัญปีใหม่ประชาชนที่รัฐบาลประกาศออกมา อย่างช้อปดีมีคืน และเราเที่ยวด้วยกัน ถือเป็น 1 ในมาตรการพยุงเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 1 โดยคาดว่า จะทำให้มีเม็ดเงินสะพัดเฉลี่ยกว่า 60,000 บาท จะส่งผลให้เศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 1 ขยายตัวเพิ่ม 0.1- 1% จะทำให้เศรษฐกิจไทยไตรมาส 1 ขยายตัว 3.5%
“เงินสะพัดในช่วงปีใหม่ 2566 ที่ทะลุ 1 แสนล้านบาท กลับมามีมูลค่าใกล้เคียงปกติก่อนสถานการณ์โควิด -19 สะท้อนว่าสถานการณ์โควิด-19 ได้ปิดฉากลงแล้ว ให้เศรษฐกิจกลับมาคึกคักอีกครั้ง ประกอบกับการท่องเที่ยวเริ่มกลับ และและยังไม่เห็นสัญญาณเศรษฐกิจโลกทรุดตัวลง จึงเชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลัง เศรษฐกิจไทยจะเริ่มฟื้นตัว” ธนวรรธน์ กล่าว
ขณะที่การวางแผนออกนอกพื้นที่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ส่วนใหญ่จะไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด โดยภูมิภาคที่นิยมไปเที่ยวมากสุด คือ ภาคเหนือ รองลงมาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงเวลาที่วางแผนท่องเที่ยวอยู่ในช่วง 29 ธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 2 มกราคม 2566
ในด้านผลกระทบต่อการใช้จ่ายช่วงปีใหม่ นั้น ภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ประชาชน 54.4% บอกว่า มีผล ส่วนการแพร่ระบาดของโควิด 80.4% ไม่มีผล ภาระหนี้สิน 55.6% มีผล สำหรับแหล่งที่มาของการใช้จ่าย 63.6% ยังมาจากเงินเดือนรายได้ตามปกติ บรรยากาศในช่วงเทศกาลปีใหม่ 48.3% มองว่าคึกคักกว่าปีที่แล้ว และการใช้จ่ายโดยรวมของประชาชนอยู่ที่ประมาณ 103,039 ล้านบาท
- การปฏิรูปภาครัฐปราบปรามการทุจริต รัฐบาลควรมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ 37.6%
- มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การใช้จ่ายเงินภายในประเทศ อาทิ คนละครึ่ง 26.7%
- ลดภาระค่าครองชีพของประชาชน อาทิ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าน้ำมัน 12.9%
- เพิ่มการจ้างงานและค่าแรงให้กับประชาชน 7.9%
โดยยังมีปัจจัยที่น่าเป็นห่วงในปี 2566 ประกอบด้วย เรื่อง ‘ยาเสพติด เศรษฐกิจ ค่าครองชีพ การตกงาน หนี้สินในปัจจุบัน คอร์รัปชัน และการแพร่ระบาดของโควิด-19’
ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เผย ‘พฤติกรรมและการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี 2566 และทัศนะต่อประเด็นต่างๆ’ โดยพบว่า การใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 มีเงินสะพัดอยู่ที่ 103,039 ล้านบาท ขยายตัว 20.1% ซึ่งเป็นการขยายตัวสูงสุดครั้งแรกในรอบ 17 ปี นับตั้งแต่ปี 2550 และเป็นครั้งแรกที่มียอดเงินสะพัดทะลุแสนล้านบาท
นอกจากนี้ จะพบว่าประชาชนมีการจับจ่ายในช่วงเทศกาลอย่างคึกคักและเป็นกลับมาจับจ่ายที่มีความสุขในรอบ 3 ปี และจะส่งผลให้เศรษฐกิจทะยานขึ้นอย่างสดใส และประกอบกับการให้ของขวัญปีใหม่ประชาชนที่รัฐบาลประกาศออกมา อย่างช้อปดีมีคืน และเราเที่ยวด้วยกัน ถือเป็น 1 ในมาตรการพยุงเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 1 โดยคาดว่า จะทำให้มีเม็ดเงินสะพัดเฉลี่ยกว่า 60,000 บาท จะส่งผลให้เศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 1 ขยายตัวเพิ่ม 0.1- 1% จะทำให้เศรษฐกิจไทยไตรมาส 1 ขยายตัว 3.5%
“เงินสะพัดในช่วงปีใหม่ 2566 ที่ทะลุ 1 แสนล้านบาท กลับมามีมูลค่าใกล้เคียงปกติก่อนสถานการณ์โควิด -19 สะท้อนว่าสถานการณ์โควิด-19 ได้ปิดฉากลงแล้ว ให้เศรษฐกิจกลับมาคึกคักอีกครั้ง ประกอบกับการท่องเที่ยวเริ่มกลับ และและยังไม่เห็นสัญญาณเศรษฐกิจโลกทรุดตัวลง จึงเชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลัง เศรษฐกิจไทยจะเริ่มฟื้นตัว” ธนวรรธน์ กล่าว
สรุป ประชาชนใช้จ่ายอะไรบ้าง? ช่วงปีใหม่
เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ ที่ปรึกษาประจำของสภามหาวิทยาลัย เผยผลสำรวจฯ ครั้งนี้ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-16 ธันวาคม 2565 จำนวน 1,345 ตัวอย่างทั่วประเทศ พบ ประชาชนจะใช้จ่ายให้ตัวเองและผู้อื่น 69.8% โดยการใช้จ่ายส่วนใหญ่จะเป็นในเรื่องของการสังสรรค์ จัดเลี้ยง เดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศ ทำบุญทางศาสนา และพบว่าจะมีการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยมากขึ้นและของขวัญที่นิยมซื้อในช่วงปีใหม่ ยังเป็นการซื้อกระเช้าของขวัญเครื่องดื่มบำรุงร่างกายขณะที่การวางแผนออกนอกพื้นที่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ส่วนใหญ่จะไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด โดยภูมิภาคที่นิยมไปเที่ยวมากสุด คือ ภาคเหนือ รองลงมาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงเวลาที่วางแผนท่องเที่ยวอยู่ในช่วง 29 ธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 2 มกราคม 2566
ในด้านผลกระทบต่อการใช้จ่ายช่วงปีใหม่ นั้น ภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ประชาชน 54.4% บอกว่า มีผล ส่วนการแพร่ระบาดของโควิด 80.4% ไม่มีผล ภาระหนี้สิน 55.6% มีผล สำหรับแหล่งที่มาของการใช้จ่าย 63.6% ยังมาจากเงินเดือนรายได้ตามปกติ บรรยากาศในช่วงเทศกาลปีใหม่ 48.3% มองว่าคึกคักกว่าปีที่แล้ว และการใช้จ่ายโดยรวมของประชาชนอยู่ที่ประมาณ 103,039 ล้านบาท
ของขวัญอะไร? ที่ประชาชนต้องการ
อุมากมล สุนทรสุรัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เผย สิ่งที่ประชาชนต้องการได้เป็นของขวัญจากรัฐบาลมากที่สุด ประกอบด้วย- การปฏิรูปภาครัฐปราบปรามการทุจริต รัฐบาลควรมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ 37.6%
- มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การใช้จ่ายเงินภายในประเทศ อาทิ คนละครึ่ง 26.7%
- ลดภาระค่าครองชีพของประชาชน อาทิ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าน้ำมัน 12.9%
- เพิ่มการจ้างงานและค่าแรงให้กับประชาชน 7.9%
โดยยังมีปัจจัยที่น่าเป็นห่วงในปี 2566 ประกอบด้วย เรื่อง ‘ยาเสพติด เศรษฐกิจ ค่าครองชีพ การตกงาน หนี้สินในปัจจุบัน คอร์รัปชัน และการแพร่ระบาดของโควิด-19’