เปิดดาต้าหาคำตอบ เพราะชายคนนี้ที่ทำให้แม่ฮ่องสอนพ้นจากความจนที่สุด?

20 มีนาคม 2566 - 10:54

What-data-tells-us-about-mae-hong-son-get-away-from -poverty-SPACEBAR-Thumbnail
  • แม่ฮ่องสอนมีฉายาว่า ‘ไซบีเรียเมืองไทย’ เพราะความทุรกันดารและความยากจน

  • แต่เพราะการเมืองหรือความบังเอิญที่ทำให้จังหวัดนี้พ้นจากความยากจนที่สุดได้

ตอนที่แล้วเราพยายามด้วยดาต้าว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้แม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดที่จนที่สุดในเมืองไทย ในตอนนี้เราพบว่ามีสถานการณ์หรือบุคคลบางกลุ่มที่ทำให้แม่ฮ่องสอนพอจะลืมตาอาปากได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ถึงกับทำให้พ้นจากตำแหน่งยากจนที่สุดแบบร้อยเปอร์เซนต์ แต่ก็ทำให้จังหวัดนี้มีรายได้เพิ่มขึ้นมากแบบผิดหูผิดตา 

เพราะการเมืองหรือไม่? 

เราไม่สามารถระบุได้ชัดๆ ว่า การเมืองมีส่วนแค่ไหนต่อความรวยและจนของแม่ฮ่องสอน แต่ข้อมูลเปรียบเทียบระหว่างรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนกับสมัยที่พรรคการเมืองหนึ่งๆ เป็นผู้แทนที่แม่ฮ่องสอนอาจจะช่วยบอกใบ้อะไรบางอย่างได้
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4MVsfZkEIX9sCQBmsnmEMy/1e93a1c74b35e04fecdc6932e8c8c011/Info-______________________________________________
จากข้อมูลนี้เราจะพบว่า รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนของคนแม่ฮ่องสอนก้าวกระโดดขึ้นมาเกือบเท่าตัวหลังจากที่ คสช. ยึดอำนาจการบริหารปกครองประเทศ และยังเป็นครั้งแรกที่รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนของคนแม่ฮ่องสอนแตะหลักหมื่น และยังคงอยู่ในระดับหลักหมื่นแบบนั้นจนกระทั่งมีการเลือกตั้งปี 2562 ซึ่งผู้ที่เป็น ส.ส. มาจากพรรคในเครือข่ายอำนาจของ คสช. นั่นคือพรรคพลังประชารัฐ 

เพราะความรักของประยุทธ์? 

เป็นเรื่องบังเอิญหรือเพราะผลลัพธ์จากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองกันแน่ ที่ทำให้รายได้ครัวเรือของคนแม่ฮ่องสอนก้าวกระโดดขึ้นมาเกือบเท่าตัว? มีความคล้องจองกันอย่างหนึ่งก็คือ รายครัวเรือนของแม่ฮ่องสอนที่เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้นพร้อมกับการมาถึงของชายที่ชื่อ ‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยแสดงความกังวลเรื่องปัญหาความยากจนในแม่ฮ่องสอน และลงพื้นที่เพื่อติดตามการแก้ปัญหาความยากจน (เมื่อเดือนมกราคม 2561) ในการเยือนครั้งนั้น พล.อ.ประยุทธ์ บอกกับชาวแม่ฮ่องสอนว่าการมาเยือนแม่ฮ่องสอนในครั้งนั้น น่าจะเป็นคณะรัญมนตรีใหญ่ที่สุดที่เคยมาแม่ฮ่องสอน และเป็นรัฐบาลแรกที่เอาคนมาดูแลมากขนาดนี้  

พล.อ.ประยุทธ์ยังบอกกับชาวแม่ฮ่องสอนว่า “ไม่ได้ทำเพื่อการเมืองอะไรทั้งสิ้น ท่านคงทราบดีอยู่แล้ว ผมมาที่นี่ตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่ยศร้อยโท มากับรัฐมนตรีมหาดไทย และยังมีโอกาสตามเสด็จฯ มาที่นี่ทุกครั้งตลอดเวลา 20 ปีที่ผ่านมา จึงทำให้เข้าใจและมีความรู้เกี่ยวกับ จ.แม่ฮ่องสอนพอสมควร” 

ความคล้องจองกันระหว่างการยึดอำนาจของ คสช. การผงาดของ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้า คสช. และนายกรัฐมนตรี ดูจะเข้าล็อคอย่างดีกับรายได้ครัวเรือนของคนแม่ฮ่องสอนที่เพิ่มขึ้นแบบผิดหูผิดตา ยิ่งเมื่อได้ยินสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ บอกกล่าวด้วยแล้ว ยิ่งทำให้อดคิดไม่ได้ว่า การกิจกำจัดความจนของคนแม่ฮ่องสอนอาจเป็นเพาะความผูกพันธ์เป็นการส่วนตัวระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ กับจังหวัดนี้ก็เป็นได้ 

แม่ฮ่องสอนโมเดลคือคำตอบ? 

หลังจากการเยือนแม่ฮ่องสอนจของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็มีการผลักดันแนวทางแก้ปัญหาที่เรียกว่า ‘แม่ฮ่องสอนโมเดล’ ซึ่่งนำโดย ‘การขับเคลื่อนโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน (คทช.)’ เป็นการจัดที่ดินทำกินให้แก่ประชาชนครั้งแรกในประเทศไทย โดยเกษตรกรจะได้รับสมุดประจำตัวในการจัดสรรที่ดินทำกินอย่างถูกต้อง ซึ่งที่ดินดังกล่าวไม่สามารถซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนได้ และสนับสนุนการเลี้ยงตนเองตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง  

ณ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไปเยือนแม่ฮ่องสอนในปี 2561 ประชาชนแม่ฮ่องสอนมีรายได้เฉลี่ยต่อปีอยู่ลำดับที่ 73 ของประเทศ และมีจำนวนครัวเรือนมีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน หรือที่เรียกว่าเส้นแบ่งความยากจน จำนวน 2,080 ครัวเรือน มากเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศ  

แต่น่าสังเกตว่า หลังจากปี 2562 แม่ฮ่องสอนตกจากอันดับจังหวัดที่จนที่สุดในประเทศ โดยในปี 2562 แม่ฮ่องสอนตกไปอยู่อันดับที่ 3 ของจังหวัดที่ยากจนที่สุด ในปี 2563 อยู่ในอันดับที่ 2 และในปี 2564 อยู่ในอันดับที่ 3  

แม่ฮ่องสอนจนแต่สุขที่สุด 

ความสุขมันวัดไม่ได้ แต่ก็ยังมีคนพยายามวัดมันด้วยวิธีวิทยา (Methodology) ต่างๆ นานา ความสุขของคนแม่ฮ๋องสอนก็เช่นกัน มันถูกวัดค่าโดยเอแบคโพลล์ เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2556 ที่จัดอันดับให้เมืองแม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดแห่งความสุขอันดับที่ 1 ของประเทศไทย  

โดยประชาชน 60.9% บอกว่ามีความสุข เพราะแม่ฮ่องสอนนั้นมี “สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ  วิถีชีวิตชาวบ้านเป็นเมืองที่สงบ  มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน  คดีอาชญากรรมต่ำ มีความภูมิใจในประวัตศาสตร์ของคนท้องถิ่น มีความเป็นเมืองและลักษณะวัตถุนิยมระดับน้อยถึงปานกลาง” 

ในปี 2556 ซึ่งเป็นปีที่คนแม่ฮ่องสอนมีความสุขที่สุดในประเทศนั้น ปรากฎว่าเป็นปีที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนติดอันดับจนที่สุดในประเทศมาเป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน ดังนั้น ถ้าเอาผลการวัดความสุขมาเป็นตัวตั้ง เราก็จอาจบอกได้ว่าคนแม่ฮ่องสอนในยุคที่มีผู้แทนเป็นคนจากพรรคประชาธิปัตย์ก็มีถือว่าไมได้เลวร้าย แถมยังสุขที่สุดด้วย  

แต่ความสุขที่วัดโดยเอแบคโพลล์เป็น ‘ความรู้สึก’ ต่างจากการวัดความจนที่วัดกันด้วย ‘รายได้’ และความจำเป็นพื้นฐานของชีวิต  

คงไม่ต้องบอกว่าแบบไหนที่มีความเป็นประจักษ์นิยมและมีความเป็นวิทยาศาสตร์มากกว่ากัน

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์