มีสัญญาณเตือนเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการคาดการณ์ล่าสุดโดยนักเศรษฐศาสตร์ของ Bloomberg พบว่ามีโอกาส 100% ที่จะเกิดภาวะถดถอยในปีหน้า จากการพูดคุยเชิงลึกกับผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินได้เปิดเผย 8 ขั้นตอนสำคัญ ที่จะช่วยปกป้องการเงินของคุณก่อนปี 2023 ที่อาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
1. เงินสำรองฉุกเฉิน
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้คุณเก็บเงินสำรองฉุกเฉินเพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายของคุณหากในกรณีที่คุณตกงาน ซึ่งเงินสำรองดังกล่าว ควรจะต้องครอบคลุมค่าใช้จ่ายเป็นเวลา 3 - 6 เดือน
ตามรายงานของสำนักสถิติแรงงาน ระบุว่า ครัวเรือนสหรัฐฯ โดยเฉลี่ยมีค่าใช้จ่ายเกือบ 67,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2,507,910 บาทต่อปี สำหรับค่าที่อยู่อาศัย ค่าอาหาร และค่าขนส่งในปี 2021 สำหรับครัวเรือนทั่วไป ดังนั้นเงินสำรองฉุกเฉินจะต้องอยู่ระหว่าง 16,750 - 33,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 626,977 - 1,253,955 บาท)
2. ลดกิจกรรมออกไปจับจ่ายใช้สอยข้างนอก
การไตร่ตรองเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในแต่ละวันของคุณจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้คุณมีเงินออมได้ คาเมรอน ฮัดเดิลสัน ผู้เขียนและผู้อำนวยการ Careful หน่วยงานรักษาความปลอดภัยด้านการเงินของผู้สูงอายุ กล่าวว่า การฝึกฝนตัวเองในรูปแบบนี้ใช้ความพยายามน้อยที่สุดและเกิดผลมากที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นการรวมประกันภัยต่างๆ เข้าด้วยกัน การหาโทรศัพท์มือถือ หรือแพ็กเกจอินเตอร์เน็ตที่ถูกที่สุด ลดจำนวนการสมัครใช้บริการสตรีมมิงต่างๆ ที่คุณมี การทานกาแฟ อาหารกลางวันที่ใช้วิธีการ ‘ทำด้วยตัวเอง’ แทนการซื้อ เพื่อลดค่าใช้จ่ายประจำวัน
3. ควบคุมค่าใช้จ่ายหลักๆ ที่เป็นบ่อเกิดหนี้
การลดค่าใช้จ่ายโดยการลดการสมัครสมาชิกโปรแกรมสตรีมมิงต่างๆ แม้จะช่วยให้ประหยัดได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งจริงๆ มันยังน้อยนิดมาก เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายหลักของคุณ
‘รถยนต์’ มักมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าที่ควรจะเป็น และอาจจะเป็นปัจจัยสำคัญของการเป็นหนี้สำหรับใครหลายๆ คน หากบ้านคุณมีรถ 2 คัน ตอนนี้อาจถึงเวลาที่จะต้องพิจารณาการลดจำนวนรถในบ้านลง หรือซื้อจักรยาน, สกู๊ตเตอร์, ใช้ขนส่งสาธารณะ หรือเดินแทน
เอมิลี เบลเลท ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์การเงินเพื่อการศึกษา Vestpod เตือนให้ผู้คนกลั่นกรองพฤติกรรมการใช้จ่ายของพวกเขา เพราะเมื่อเราตระหนักว่าอารมณ์เฉพาะใดๆ ที่ผลักดันการใช้จ่ายอย่างหุนหันพลันแล่น เราก็จะมีสติมากขึ้นในการตัดสินใจของเรา
4. มองหารายได้เสริม
ก่อนที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย อาจเป็นโอกาสทองในการใช้ประโยชน์จากตลาดแรงงานที่ยังคงแข็งแกร่งและมีตำแหน่งงานว่างมากมาย หากคุณยังพอมีเวลาการหาเงินเสริมเป็นวิธีเพิ่มรายได้อย่างรวดเร็วที่สุด ซึ่งในยุคที่เปิดกว้างสำหรับการทำงานหลายรูปแบบ เช่น การทำงานจากบ้าน เวลาทำงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้น ทำให้ผู้คนสามารถหาเวลาเพื่อช่วยเพิ่มรายได้เก็บไว้ใช้ในยามจำเป็นได้
5. มองหาแหล่งรายได้ที่ ‘ไม่ต้องเสียเวลาไปทำ’
กระแสรายได้แบบ Passive Income กำลังกลายเป็นเทรนด์สำหรับคนรุ่นใหม่ ด้าน โอลามิดีย์ เมเจโกดันมิ ผู้ก่อตั้ง All Things Money บล็อกการศึกษาด้านการเงินสำหรับคนรุ่นมิลเลนเนียล กล่าวว่า สิ่งสำคัญ คือ เราจะต้องไม่ทุ่มค่าใช้จ่ายลงตรงจุดนี้มากเกินกว่ากระแสรายได้หลักของเรา
6. เสริมทักษะอื่นๆ ให้ตัวเอง
ผลกระทบด้านลบของภาวะถดถอยนั้น ได้แก่ รายได้ที่ลดลงและการว่างงานที่สูงขึ้น อาจไม่ปรากฏชัดเจนว่าจะอยู่ในสภาวะถดถอยไปอีกกี่เดือน แต่นั่นทำให้เรามีเวลาเหลือเฟือในการสร้างทักษะใหม่ๆ ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเราได้
7. โอนเงินรายได้เสริมที่ได้รับเข้าไปยังบัญชีออมทรัพย์ที่เข้าถึงยาก
เมื่อการเงินของคุณอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น คุณควรเริ่มโอนรายได้เพิ่มเติมไปยังบัญชีออมทรัพย์ที่คุณไม่สามารถเข้าถึงได้โดยง่าย เพื่อหยุดสิ่งล่อใจให้ใช้จ่าย
8. อย่ากังวลจนเกินไป!
เมื่อมาถึงตรงนี้ คุณน่าจะมั่นใจได้แล้วว่าเส้นทางทางการเงินของคุณอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง และไม่จำเป็นที่จะต้องดึงเงินลงทุนออกมาใช้จ่าย ซึ่งหากคุณเป็นนักลงทุนอยู่แล้ว สิ่งสำคัญคือคุณไม่ต้องตื่นตระหนก และจดจ่ออยู่กับเป้าหมายในระยะยาว จำไว้ว่าการลงทุนอย่างสม่ำเสมอเป็นระยะเวลานานได้ผล
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำด้วยว่า “เราจะต้องพยายามรักษารายจ่ายให้ต่ำกว่ารายได้และเพื่อเพิ่มการออมไม่ว่าเศรษฐกิจในวงกว้างจะเป็นอย่างไรก็ตาม”
