ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) บรรลุข้อตกลงกับประเทศผู้บริจาค ในการเพิ่มเงินทุนให้กองทุนเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADF)14 และกองทุนพิเศษเพื่อช่วยเหลือด้านเทคนิค (TAFS) 8 จำนวน 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการประชุมประจำปีครั้งที่ 57 ของ ADB
ADF เป็นกองทุนที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของ ADB โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความช่วยเหลือทางการเงินที่มีเงื่อนไขผ่อนปรนแก่ประเทศสมาชิก ADB ที่มีฐานะยากจนและเปราะบางในรูปแบบเงินกู้ไม่มีดอกเบี้ยและเงินให้เปล่าและจะมีการเพิ่มเงินทุนทุก ๆ 4 ปี โดยการเพิ่มทุนครั้งนี้ครอบคลุมระยะเวลาในช่วงปี 2568-2571 โดยวงเงินเพิ่มเงินทุนครั้งนี้ สูงกว่าของกองทุน ADF13 ที่ 4.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ประมาณ 22%
นายมาซาสึกุ อะซาคาวา ประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย(ADB) กล่าวว่าเงินช่วยเหลือนี้มีความสำคัญมาก เนื่องจากประเทศสมาชิกที่ยากจนและเปราะบางที่สุด กำลังพยายามแก้ไขปัญหาความถดถอยทางการพัฒนาในช่วงที่ผ่านมา และดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อรับมือกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ
"การเพิ่มเงินทุนอย่างมีนัยสำคัญในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือที่ต่อเนื่องของประเทศผู้บริจาคกับเอดีบีในการรับมือกับความท้าทายด้านการพัฒนาที่เร่งด่วนสำหรับช่วยผู้ที่มีความจำเป็นมากที่สุด"
ADF 14 จะให้ความช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษแก่รัฐกำลังพัฒนาที่เป็นเกาะขนาดเล็กซึ่งมีความเปราะบาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และประเทศเปราะบางจากผลกระทบจากความขัดแย้ง
นอกจากนี้กองทุน ADF 14 จะมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนมาตรการปรับตัวรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ซึ่งจะเป็นขยายความช่วยเหลือสำหรับความร่วมมือระดับภูมิภาค และ ด้านสินค้าสาธารณะระดับภูมิภาค รวมถึงการดำเนินการเพื่อการเปลี่ยนแปลงด้านเพศสภาพ และความช่วยเหลือเพิ่มเติมกรณีฉุกเฉินอื่น เม็ดเงินมากกว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 51% ของวงเงินเพิ่มทุนจะมาจากเงินสมทบของประเทศผู้บริจาคเดิม รวมถึงประเทศผู้บริจาครายใหม่ 2 ประเทศ ได้แก่ อาร์เมเนีย และจอร์เจีย
โดย ADB จะเพิ่มเติมให้กับ ADF จาก 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ใน ADF13 เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ใน ADF ระยะที่ 14 เพิ่มขึ้น 35% ส่วนที่เหลืออีก 0.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯจะเป็นการโอนเงินจากกองทุนพัฒนาเอเชียรอบก่อนหน้ารวมถึงรายได้จากการลงทุน
