แก๊งปลอม SMS AIS ตร.ไซเบอร์ กสทช. จับได้อีก

26 พ.ค. 2566 - 07:49

  • AIS ย้ำ เร่งปราบแก๊งปลอม SMS ร่วมกับตำรวจไซเบอร์ กสทช. ต่อเนื่อง

  • ยอมรับ มิจฉาชีพปรับรูปแบบต่อเนื่อง เตือนประชาชนไม่หลงเชื่อ-ไม่กดลิงก์

  • ล่าสุด จับผู้ต้องหาได้อีก 6 คน ดำเนินคดีอาญา

AIS-CCIB-CYBER-CRIME-deception-SMS-fake-SPACEBAR-Thumbnail
วรุณเทพ วัชราภรณ์ หัวหน้าฝ่ายงานธุรกิจสัมพันธ์ AIS เผย จากกรณีปัญหามิจฉาชีพละเมิดการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ของประชาชน ได้สร้างความเดือดร้อน รำคาญ ไปจนถึงความเสียหายต่อทรัพย์สินและข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งปัจจุบันเกิดเพิ่มขึ้น และจับกุมได้มากขึ้นเช่นกัน  

ล่าสุด ชุดจับกุมของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บชก.สอท.) หรือ ตำรวจไซเบอร์ ร่วมกับทีมวิศวกรของ AIS เข้าตรวจค้นจับกุมกลุ่มขบวนการส่งข้อความสั้น (SMS) ในลักษณะลิงก์ปลอม อ้างชื่อเป็นสถาบันการเงิน หลอกดูดเงินผู้เสียหาย โดยสามารถจับกุม ผู้ต้องหากับพวกได้รวม 6 คน พร้อมของกลาง รถยนต์ 4 คันที่ติดตั้งอุปกรณ์ ‘เครื่องจำลองสถานีฐาน’ (False Base Station) ก่อนจะขับตระเวนไปส่งข้อความสั้น (SMS) ในลักษณะลิงก์ปลอม ซึ่งอ้างชื่อเป็นสถาบันการเงิน หรือ หน่วยงานต่างๆ นั่นเอง 

นี่จึงเป็นเหตุให้ประชาชนได้รับข้อความหลอกลวงลักษณะต่างๆ โดยหากประชาชนหลงเชื่อและกดลิงก์ดังกล่าว จะถูกให้ติดตั้งแอพพลิเคชั่นควบคุมเครื่องระยะไกล โดยสามารถโอนเงินจากบัญชีธนาคารที่เครื่องโทรศัพท์นั้นติดตั้งแอพพลิเคชั่นประเภท Mobile Banking ทั้งนี้ พบข้อมูลจากระบบการรับแจ้งความออนไลน์ในห้วงเดือนเมษายน – พฤษภาคม 2566 ที่มีการแจ้งความออนไลน์ รวมค่าเสียหาย 124 ล้าน 896,689.84 บาท 

อย่างไรก็ตาม หลังตำรวจทราบ ก็ตระเวนจับกุมคนร้ายได้หลายจุด ทั้งที่บริเวณลานจอดรถหน้าร้านสะดวกซื้อในซอยบางแวก 33 บนถนนราชพฤกษ์ในขณะที่รถกำลังแล่นออกไปเพื่อตระเวนหาเหยื่อ  

สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 6 ที่ตำรวจจับกุมได้ ถูกตั้ง 4 ข้อหา คือ  
  • ร่วมกัน ทำ มี ใช้ นำเข้า นำออก หรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ตามมาตรา 6 พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 
  • ร่วมกันตั้งสถานีวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตตามมาตรา 11 พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 
  • ร่วมกันใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการโทรคมนาคม โดยไม่ได้รับอนุญาต อันมีลักษณะที่เป็นการประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สาม ตามมาตรา 67(3) ตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม 
  • เป็นอั้งยี่หรือซ่องโจรตามประมวลกฎหมายอาญา  
วรุณเทพ บอกด้วยว่า สำหรับที่ผ่านมา นอกเหนือจากการพัฒนาดิจิทัลเซอร์วิสเพื่อช่วยป้องกันภัยไซเบอร์ อาทิ  AIS Secure Net , Google Family Link ที่สามารถดูแลการใช้งานโทรศัพท์มือถือให้อยู่บนความปลอดภัยจากสแปม, ฟิชชิ่ง, ไวรัสแล้ว AIS ยังได้ร่วมทำงานกับภาครัฐ ผ่านบริการสายด่วน 1185 AIS Spam Report Center ตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2565 ที่ผ่านมา 

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องยอมรับ ว่า มิจฉาชีพเองก็มีการพลิกแพลงรูปแบบการละเมิดเพิ่มเติมขึ้น อย่างกรณี การส่ง SMS จากเครือข่ายปลอมด้วยอุปกรณ์ผิดกฎหมายไปยังมือถือประชาชน ที่เรียกว่า False Base Station (FBS) หรือ Fake Base Station โดยใช้ชื่อผู้ส่ง (Sender name) ปลอมแปลงในนามขององค์กรต่างๆ อาทิ ธนาคาร, บริการประเภทต่างๆ เพื่อหลอกให้ประชาชนที่ได้รับข้อความหลงเชื่อว่าเป็น SMS จากหน่วยงานนั้นๆจริง และล่อลวงให้กดลิงก์, แอดไลน์ และอื่นๆ จนก่อให้เกิดความเสียหาย ทั้งทรัพย์สิน หรือ ข้อมูลส่วนบุคคล  

ซึ่ง AIS ในฐานะผู้ให้บริการเครือข่าย ได้ตรวจสอบพบความผิดปกติ และทีมวิศวกร ได้ร่วมทำงานกับฝ่ายความมั่นคงอย่างเต็มกำลังมาแล้วระยะหนึ่ง ในการเฝ้าดูและติดตามพฤติกรรมของมิจฉาชีพตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านเทคโนโลยี Tracking& Monitoring จนสามารถคำนวณเส้นทางการเคลื่อนตัวอย่างละเอียด เพื่อค้นหาให้ถึงตัวแหล่งกบดานของกลุ่มนี้ และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ภารกิจการทลายแก๊งมิจฉาชีพกลุ่มนี้สำเร็จลงได้

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์