AIS ยังดำเนินการติด Tag ชื่อเครือข่ายที่สายสื่อสารทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ตามมาตรการของภาครัฐ เพื่อยกระดับการป้องกันและปราบปรามเชิงรุก ทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยที่ผ่านมา เอไอเอสได้ลงพื้นที่กวดขัน และปฏิบัติตามมาตรการของภาครัฐ อย่างเคร่งครัดในพื้นที่เสี่ยง บริเวณชายแดน 7 จังหวัด 11 อำเภอ เสร็จสิ้นเรียบร้อยตั้งแต่กลางปี 2567 รวมถึงดำเนินการแก้ไขเสาส่งสัญญาณบริเวณแนวชายแดนเพิ่มเติมในอีก 10 จังหวัด โดยมีกำหนดตามแผนให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ตลอดจน ยืนยันการเชื่อมต่อจุดสัญญาณกับผู้ให้บริการในประเทศเพื่อนบ้านต้องได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดต่อลูกค้าและประชาชนในพื้นที่ชายแดนAIS ได้เตรียมดูแลเครือข่าย อาทิ ติด Small Cell, นำรถสถานีฐานเคลื่อนที่มาให้บริการประชาชนให้สามารถติดต่อสื่อสารได้

ด้าน กสทช. ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานีวิทยุคมนาคมและการให้บริการโทรคมนาคมบริเวณชายแดนในพื้นที่ จ.สงขลา จำนวน 2 จุด คือ ต.สำนักขาม และต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา หลังได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีกลุ่มผู้ต้องสงสัยใช้สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่หลอกลวงประชาชน โดยย้ำเจ้าหน้าที่ทุกคนให้ทำงานเพื่อชาติ เพราะปัญหาคอลเซนเตอร์ และอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็นภัยร้ายแรงต่อสังคม และเศรษฐกิจของประเทศ
ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสทช. ได้ลงพื้นที่ต่อเนื่องตั้งแต่เดือน พ.ค. 2567 ได้แก่ (1) บริเวณแนวชายแดน อ.แม่สอด และอ.แม่ระมาด จังหวัดตาก (2) อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว (3) จุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ (4) จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ (5) อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร (6) พื้นที่ล่าสุด คือที่ อ.สะเดา จ.สงขลา

สำหรับการลงพื้นที่ จ.สงขลา ในวันนี้ 4 จุด พบจุดเฝ้าระวังอยู่ในพื้นที่ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา พบอาคารแห่งหนึ่งมีการตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ห่างจากชายแดนประมาณ 2 กม. โดยพบสายอากาศหันหน้าไปทางประเทศมาเลเซีย แต่เนื่องจากพื้นที่ต่างๆ มีชุมชนหนาแน่น สำนักงาน กสทช. จึงได้สั่งการให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ปรับทิศทางสายอากาศและลดกำลังส่งเพื่อให้สัญญาณครอบคลุมเฉพาะพื้นที่ประเทศไทย พร้อมทั้งให้ส่งผลทดสอบการให้บริการเพื่อพิสูจน์ว่าไม่มีสัญญาณล้ำข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้านและการให้บริการในประเทศไทยยังคงมีคุณภาพไม่ต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนด
