การโจมตีของอิหร่านสร้างความกังวลให้นานาชาติ หลายประเทศ อาทิ ซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ และกาตาร์ หลังยกระดับความรุนแรงขึ้น ขณะที่ ไทย ห่วงการส่งออก สั่งเกาะติดใกล้ชิดแล้ว
ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผย จากการที่อิหร่านเริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศช่วงผ่านมา ได้ยิงโดรนไปยังพื้นที่เป้าหมายในประเทศอิสราเอล ตนจึงได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า และทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในต่างประเทศ ทำการประเมินสถานการณ์ที่อาจมีผลกระทบต่อการค้าของไทย
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล รายงานมาแล้ว ระบุว่าที่อิหร่าน แม้โรงเรียนยังไม่ถูกสั่งปิด แต่ประชาชนเริ่มมีความวิตกกังวลกับสถานการณ์ที่จะตามมา โดยต่างเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
สำหรับผลกระทบการค้าไทย-อิหร่าน เบื้องต้นยังไม่ได้รับผลกระทบใดๆ เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุอยู่ที่อิสราเอล คาดการณ์ว่าสถานการณ์การสู้รบน่าจะไม่ยืดเยื้อ ถ้าอิสราเอลไม่โต้กลับ โดยทางอิหร่านได้ประกาศหยุดโจมตี ยกเว้นถูกอิสราเอลตอบโต้
นายภูมิธรรม ยังย้ำ จุดยุทธศาสตร์สำคัญที่ต้องติดตาม ขณะนี้ อยู่ที่ช่องแคบฮอร์มุส ในอิหร่าน ซึ่งเป็นช่องแคบที่สำคัญในการเดินเรือเพื่อส่งออกสินค้าสำคัญของประเทศที่ส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเกือบทั้งหมดในตะวันออกกลางทั้งซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อิหร่าน กาตาร์และคูเวต ทั้งนี้ช่องแคบฮอร์มุส ถูกใช้เป็นช่องทางขนส่งน้ำมันถึงวันละ 21 ล้านบาร์เรล หรือคิดเป็น 21% ของปริมาณการขนส่งน้ำมันทั่วโลกในแต่ละวัน โดยหากไม่สามารถขนส่งผ่านจุดดังกล่าวแม้เพียงชั่วคราว อาจนำไปสู่ความล่าช้าในการจัดหาน้ำมันและทำให้ต้นทุนการขนส่งสูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้ราคาพลังงานโลกเพิ่มสูงขึ้นได้
“การให้เกาะติด เพราะต้องรู้ว่า กระทบไปถึงไหน-อย่างไร มีประเทศไหนบ้าง เพื่อจะได้เตรียมมาตรการรับมือ และแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยในภาพรวม”
นายภูมิธรรม กล่าว
