Bank of America มอง ‘เงินบาท’เชิงลบ ชี้ เข้ายุคปั่นป่วนของค่าเงินเอเชีย

25 เมษายน 2567 - 07:49

Bankofamerica-bofa-bath-asia-SPACEBAR-Hero.jpg
  • สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากความล่าช้าในการลดดอกเบี้ยของเฟด

  • BofA ประมาณการค่าเงินบาทอ่อนค่าที่ระดับ 37 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ถึงสิ้นปี

Bank of America มีมุมมองเชิงลบต่อสกุลเงินเอเชียหลายๆ สกุล พร้อมระบุ ว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นของ "ยุคแห่งความวุ่นวาย" และยังมองสกุลเงินหยวนจีน วอนเกาหลีใต้ ดอลลาร์ไต้หวัน บาทไทย และเงินดองเวียดนาม ว่าอยู่ในกลุ่มสกุลเงินที่มีมุมมองเชิงลบ ซึ่งสกุลเงินหลายประเทศได้รับผลกระทบจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ล่าช้า และความแข็งแกร่งที่ยั่งยืนของดอลลาร์สหรัฐ

ธนาคาร Bank of America (BofA) ระบุว่ามีมุมมองเชิงลบต่อสกุลเงินหลักๆ ในภูมิภาคเอเชีย จากคาดการณ์ถึงสภาวะความผันผวนและความวุ่นวายในอนาคต ซึ่งเป็นผลจากแรงกดดันของดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่า และนโยบายการเงินของเฟดที่อาจลดดอกเบี้ยช้ากว่าคาด

BofA ให้ทัศนะเชิงลบต่อสกุลเงินเอเชียจำนวนมาก และให้ความเห็นดีที่สุดในระดับเป็นกลาง แก่สกุลเงินบางสกุลเท่านั้น ท่ามกลางการคาดการณ์ของธนาคารว่าช่วงเวลานี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของ 'ยุคแห่งความวุ่นวาย' นอกจากนี้ BofA ยังระบุในรายงานว่า สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากการลดดอกเบี้ยที่ล่าช้ากว่าคาดของเฟด รวมถึงแรงกดดันจากความแข็งแกร่งของดอลลาร์สหรัฐที่ยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง 

โดย BofA จัดให้สกุลเงิน หยวนจีน วอนเกาหลีใต้ ดอลลาร์ไต้หวัน บาทไทย และดองเวียดนาม เป็นกลุ่มสกุลเงินที่มีมุมมองเชิงลบ ขณะที่ดอลลาร์ฮ่องกง รูเปียห์อินโดนีเซีย รูปีอินเดีย ริงกิตมาเลเซีย เปโซฟิลิปปินส์ และดอลลาร์สิงคโปร์ ได้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มมีมุมมองปานกลาง

เงินหยวนจีนอ่อนค่าต่อถึงไตรมาส 4

BofA คาดการณ์ว่า เงินหยวนจีนจะซื้อขายที่ระดับ 7.35 ยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาสนี้ และจะอ่อนค่าลงสู่ระดับ 7.45 ยวนในไตรมาสที่ 3 และ 4  โดยแรงกดดันให้เงินหยวนอ่อนค่าลงจะยังคงต่อเนื่องถึงช่วงครึ่งหลังจากปัจจัยตการผ่อนคลายนโยบายการเงินของเฟดที่ล่าช้า สภาวะเงินฝืดในจีนซึ่งทำให้ช่องว่างผลตอบแทนพันธบัตรระหว่างจีนกับสหรัฐฯ มากขึ้น และดุลการค้าของจีนที่อ่อนแอลง จากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่ลดลง

เงินวอนเกาหลีใต้เผชิญแรงกดดันจากสงคราม

BofA ระบุว่า มุมมองต่อเงินวอนเกาหลีใต้  'เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ' หลังจากเฟดเลื่อนคาดการณ์ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางกลาย

"นับตั้งแต่ต้นปี เราได้เห็นกระแสเงินไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นเกาหลีในระดับที่สูง แต่เม็ดเงินทุนเหล่านี้กำลังกลับทิศ เนื่องจากตลาดหุ้นทั่วโลกกำลังเผชิญกับความเสี่ยงจากสองปัจจัยดังกล่าว" นักเศรษฐศาสตร์ของ BofAระบุ

เมื่อเร็วๆ นี้ วอนเกาหลีใต้อ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 18 เดือนที่ 1,389.5 วอนต่อดอลลาร์ โดยผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีระบุว่าความผันผวนของเงินวอนถือเป็น 'ความผันผวนที่มากเกินไป' และจะเข้าแทรกแซงตลาดหากจำเป็น 

เงินดองเวียดนามและค่าเงินบาทไทย

เงินดองเวียดนามซื้อขายที่ระดับ 25,450 ดองต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยอ่อนค่าลงเกือบ 5% นับตั้งแต่ต้นปี นอกจากผลกระทบจากลดดอกเบี้ยเฟดที่ล่าช้าแล้ว ปัจจัยเพิ่มเติมที่กดดัน คือ ความไม่มั่นคงทางการเมืองหลังจากประธานาธิบดีลาออกเป็นคนที่สองภายในสองปี รวมถึงปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้หนุนให้มีความต้องการในประเทศสำหรับเงินดอลลาร์สหรัฐและทองคำเพิ่มขึ้น

"คาดว่าเงินดองจะมีแรงกดดันให้อ่อนค่าลงสู่ระดับ 25,600 ดองต่อดอลลาร์ ในสิ้นไตรมาส 2 และ 25,700 ดองต่อดอลลาร์ภายสิ้นปี " ระบุ

สำหรับเงินบาทไทย BofA ประเมินว่าตกอยู่ภายใต้ความเสี่ยงจากภาวะตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กระทบถึงราคาน้ำมันและต้นทุนขนส่งที่สูงขึ้น โดยประมาณการค่าเงินบาทอ่อนที่ระดับ 37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐถึงสิ้นปี 

ที่น่าสังเกตคือ BofA ไม่ได้กล่าวถึงสกุลเงินเยนญี่ปุ่น ซึ่งยังคงซื้อขายอยู่ในระดับต่ำสุดรอบ 34 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม เงินเยนก็ยังคงอ่อนค่าจนแตะระดับ 150 เยนต่อดอลลาร์

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์