ปัจจุบัน มีเทคโนโลยีตอบโจทย์ไฟล์สไตล์ชีวิตมากมาย การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าถือว่า สะดวก รวดเร็ว คาดการณ์เวลาสำหรับการเดินทางได้ แต่บางส่วนอาจทำให้ล่าช้า เช่น การต่อแถวซื้อตั๋วเดินทาง !!! หากวันไหน สถานีที่เดินทางไปใช้บริการ มีคนมาก อาจไม่สะดวกนัก
บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ผู้ให้บริการทางพิเศษและรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินและสายสีม่วง เล็งเห็นถึงความสะดวกสบายของผู้ใช้บริการและสนองตอบนโยบายภาครัฐจึงได้เปิดให้บริการชำระค่าโดยสารด้วยระบบ EMV contactlessมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 เพราะเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมหานคร ศูนย์กลางการคมนาคมมีผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT เฉลี่ยทุกประเภทวันอยู่ที่ 390,260 เที่ยวต่อวัน การมอบความสะดวกสบายที่ไม่ต้องต่อแถวซื้อเหรียญโดยสารจึงเป็นทางเลือกที่ถูกนำมาให้บริการ
เช็ก 5 ข้อดี ใช้บัตรเครดิต-เดบิต แตะเพื่อเดินทาง
1. ตอบสนอง ‘เวลา’ เร็วเป็นที่หนึ่ง
ผู้ใช้บริการ รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน และสายสีม่วง ที่มีบัตรเครดิต วีซ่า/มาสเตอร์การ์ด ของธนาคารใดก็ได้ หรือบัตรเดบิตของธนาคารกรุงไทยและธนาคาร UOB ที่มีสัญลักษณ์ Contactless สามารถแตะจ่ายค่าโดยสารที่ช่องทางเข้าเหนือประตูอัตโนมัติที่มีสัญลักษณ์ Contactless (รูปคลื่น) แล้วเดินทางได้ทันที ไม่ต้องไปเข้าแถวซื้อเหรียญที่ห้องออกบัตรโดยสาร หรือเครื่องออกเหรียญโดยสารอัตโนมัติ
2. เดินทางข้ามสายมีส่วนลดแรกเข้า
สิทธิพิเศษ!! เดินทางข้ามสายระหว่างรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สายสีม่วง สายสีเหลือง สายสีชมพู รับส่วนลดค่าแรกเข้าเมื่อใช้บัตร EMV ใบเดียวกันแตะเข้าระบบ และเปลี่ยนถ่ายระบบภายในเวลา 30 นาที
3. ตรวจสอบการเดินทางย้อนหลังได้ง่าย
ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบรายการเดินทางของบัตรย้อนหลังได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านเว็บไซต์ www.mangmoomemv.com หรือ https://metro.bemplc.co.th/EMV-Contactless โดยสามารถดูย้อนหลังได้เป็นระยะเวลา 60 วัน สำหรับผู้ลงทะเบียนบัญชีผู้ใช้งาน สำหรับผู้ที่ไม่ได้ลงทะเบียนจะสามารถดูย้อนหลังได้ระยะเวลา 7 วัน ซึ่งข้อมูลการเดินทางจะแสดงผลภายในวันที่เดินทางเลย
4. สะสมแต้มกันรัวๆ
มีหลากหลายโปรโมชั่นส่งเสริมการขายให้ผู้ใช้บริการได้สะสมแต้ม หรือสะสมยอดชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้า MRT เพื่อแลกรับคูปองเงินสดสำหรับซื้อสินค้าจากร้านค้าที่ระบุไว้ หรือบางบัตรก็เป็นรูปแบบการแลกรับเครดิตเงินคืน คุ้มสุดๆ
5. ใบเดียวเอาอยู่
สังเกตบัตรเครดิต วีซ่า/มาสเตอร์การ์ด บัตรเดบิตของธนาคารกรุงไทย หรือ UOB ยูโอบี ที่ใช้อยู่ หากพบว่ามี สัญลักษณ์ Contactless (รูปคลื่น หรือ Wi-Fi) ก็สบายใจหายห่วง เข้าสถานีรถไฟฟ้า MRT เมื่อไร หยิบออกมาแตะจ่ายได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางหรือช้อปปิ้งที่เมโทรมอลล์ เพราะมีร้านค้ามากมายที่รองรับการชำระเงินด้วยบัตรดังกล่าว สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องวุ่นวาย แม้ในวันเร่งรีบ
รู้อย่างนี้แล้ว หากมีบัตรเครดิต และเดบิต ก็สามารถใช้บริการได้ทันที แต่หากยังไม่มั่นใจ ว่าจะปลอดภัยแค่ไหน ต้องไปทำความรู้จักระบบ EMV contactless อย่างละเอียด เพื่อจะได้นำมาใช้อย่างมั่นใจ
รู้จัก ระบบ EMV contactless
EMV ย่อมาจาก Europay, Mastercard and Visa ซึ่งร่วมกันกำหนดมาตรฐานสำหรับการทำงานระหว่างกันของบัตรที่มี IC Chip เช่น บัตรเครดิต กับเครื่อง Terminal เช่น เครื่องรูดบัตร หรือตู้ ATM ซึ่งต่อมาบัตรเครดิตค่ายอื่นๆ ก็เข้าร่วมเพิ่มขึ้นและพัฒนากลายเป็นมาตรฐานสากล (แตกต่างจากบัตรแถบแม่เหล็กแบบเดิม) มาตรฐาน EMV จะกำหนดวิธีการติดต่อในทุกระดับ ตั้งแต่ ระดับกายภาพ ระดับการและเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และระดับแอพพลิเคชั่น สำหรับธุรกรรมทางการเงิน จึงทำให้มีความปลอดภัยและใช้งานร่วมกันได้ทั่วโลก
โดยองค์ประกอบสำคัญคือการมีข้อมูลดิจิทัลแบบพลวัตอยู่ในทุกธุรกรรม ทำให้ธุรกรรมลักษณะนี้มีความปลอดภัย ยากต่อการทำซ้ำ มาตรฐาน EMV ทำหน้าที่เป็นแกนหลักของเทคโนโลยีด้านการชำระเงิน โดยจะทำให้ธุรกรรมผ่านบัตรและช่องทางชำระเงินต่างๆ มีความปลอดภัยสูงขึ้น ชาญฉลาดยิ่งขึ้น และไว้วางใจได้มากขึ้น
และเมื่อผนวกกับเทคโนโลยี Contactless ทำให้การชำระเงินแบบไร้สัมผัสได้รับการปกป้องด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยหลายชั้น โดยไม่ต้องยุ่งยากกับเงินสดอีกต่อไป ด้วยการชำระเงินที่รวดเร็วและง่ายดาย เพียงแค่แตะเพื่อจ่ายเงินในทุกแห่งที่คุณเห็นสัญลักษณ์ Contactless เท่านั้น
