ธปท.เอาจริงบัญชีม้า เจอระงับทันที ปลดล็อกวงเงินยากขึ้น

14 มิ.ย. 2567 - 02:26

  • แบงก์ชาติ ออกมาตรการจัดการการหลอกลวงออนไลน์

  • แบ่งกระบวนการจัดการบัญชีม้าให้ ‘เปิดใหม่ยาก – ปิดได้เร็วขึ้น’

  • ทั้งยังจะออกบริการใหม่ ให้ผู้ใช้สามารถป้องกันตัวเองได้มากขึ้น

bot-online-scam-bank-account-financial-disaster-SPACEBAR-Hero.jpg

ปัญหาภัยทุจริตทางการเงิน ที่รุนแรงขึ้นทุกวัน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีช่องโหว่ จึงยกระดับมาตรการที่เข้มจัดการมากขึ้น

รณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท. เผย ที่ผ่านมา การจัดการกับบัญชีม้ายังมีข้อจำกัด ในครั้งนี้ ธปท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงร่วมกันยกระดับการจัดการบัญชีม้าให้เข้มงวดขึ้น เพื่อให้ธนาคารป้องกันความเสี่ยงและแก้ไขปัญหาการหลอกลวงออนไลน์ที่เกิดกับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยจะดูแลให้กระทบประชาชนผู้สุจริตน้อยที่สุด 

สำหรับที่ผ่านมา การดำเนินการที่สำคัญ คือ การออกพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 โดยมีวัตถุประสงค์ส่วนหนึ่งเพื่อจัดการบัญชีม้าที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการรับเงินและถ่ายโอนเงินจากการกระทำผิด และแลกเปลี่ยนเส้นทางเงินเพื่อสนับสนุนการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ รวมถึง พ.ร.ก.ได้กำหนดโทษเอาผิดกับบัญชีม้าให้ชัดเจนขึ้นด้วย โดยพบว่าช่วงที่ผ่านมา การหลอกลวงมีหลากหลายรูปแบบมากขึ้น แต่การหลอกลงทุน คือ วิธีการสูงสุด รองลงมา คือ หลอกให้โอนเงิน และหลอกให้ซื้อสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นต้น

จากข้อมูลมีจำนวนคดีการหลอกลวงสูงถึง 500,000 กว่าคดี นับเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 63,000 ล้านบาท นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 ถึง 31 พฤษภาคม 2567

ดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธปท. กล่าวด้วยว่า การยกระดับมาตรการจัดการภัยทุจริตทางการเงิน ประกอบด้วยมาตรการ 2 กลุ่ม ได้แก่ 
1.การยกระดับการจัดการบัญชีม้า : ปรับจากการดำเนินการระดับ ‘บัญชี’ เป็นระดับ ‘บุคคล’ รวมถึงการจัดการบัญชีต้องสงสัยได้เร็วขึ้น และดำเนินการเข้มข้นขึ้นทั้งบัญชีในปัจจุบันและการเปิดบัญชีใหม่ และ 
2.การมีผลิตภัณฑ์หรือบริการเพิ่มเติมเพื่อดูแลธุรกรรมของลูกค้าให้ปลอดภัยมากขึ้น โดย ธปท. กำหนดให้ธนาคารมีผลิตภัณฑ์หรือบริการเพิ่มเติมเพื่อดูแลให้ลูกค้าใช้บริการดิจิทัลได้ปลอดภัยขึ้น ได้แก่ การล็อควงเงินที่ห้ามทำธุรกรรมออนไลน์ 

โดยการปลดล็อกวงเงินดังกล่าวให้ทำได้ยากขึ้น และหรือการปรับลดวงเงินต่อครั้งในการสแกนใบหน้าการทำธุรกรรมบนโมบาย แบงก์กิ้งต่ำกว่า 50,000 บาท นอกจากนี้ ธนาคารแต่ละแห่งจะเสนอบริการเพื่อดูแลลูกค้าเพิ่มเติมได้ อาทิ การโอนเงินที่อาศัยบุคคลอื่นช่วยอนุมัติ การโอนเงินเฉพาะรายชื่อที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งจะเริ่มเห็นการให้บริการตั้งแต่ไตรมาส 4/2567

สรุปรวม เคส ‘ผู้ต้องสงสัยบัญชีม้า’ มีมาตรการอย่างไรบ้างแล้ว

โดยสรุปในเรื่องบัญชีม้าขณะนี้ มีมาตรการ 3 ระดับ ในการจัดการผู้ต้องสงสัยในรูปแบบต่างๆ ดังนี้
1. กลุ่มผู้ต้องหาที่ ปปง. ประกาศรายชื่อ : จะอัพเดตรายชื่อบ่อยขึ้นเป็นรายสัปดาห์ ระงับการทำธุรกรรมทุกบัญชีทุกช่องทาง และการเปิดบัญชีใหม่ จะทำได้ยากมาก ธนาคารจะตรวจสอบอย่างเข้มข้น
2. กลุ่มผู้มีชื่ออยู่ใน Central Fraud Registry (CFR) : ฐานข้อมูลที่บัญชีถูกใช้อยู่ในเส้นทางเงินหลอกลวง ดูแลฐานข้อมูลโดย ITMX กลุ่มนี้ยังไม่ได้เป็นผู้ต้องหาโดยตรงแต่จะถูกระงับ จากเดิมระงับเฉพาะรายบัญชีกลายเป็นการระงับทุกบัญชีพร้อมกัน และกลุ่มนี้จะไม่สามารถเปิดบัญชีใหม่ในช่องทางออนไลน์ได้ ต้องไปเปิดที่สาขาโดยผ่านการตรวจสอบเท่านั้น
3. กลุ่มบัญชีที่ธนาคารตรวจพบเอง : จะมีการวางมาตรฐานทั้งการตรวจจับ และมาตรการหลังตรวจจับว่า จะมีการล็อกอย่างไรบ้าง

ส่วนการป้องกันตัวเองของผู้ใช้บริการ โดยภายในสิ้นปีนี้ธนาคารจะมีมาตรการเพิ่มเติมให้ลูกค้าเลือกใช้งาน เช่น เปิดให้ตั้งค่าตรวจสอบใบหน้าได้เอง ไม่ต้องโอนเงินเกิน 50,000 บาทเสมอไป, เปิดให้ลูกค้าเลือกใช้บัญชีล็อกให้ทำธุรกรรมออนไลน์ได้จำกัด แบบเดียวกับสิงค์โปร์

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์