ในช่วงกว่า 3 ปีที่ผ่านมา หลายคนต้องเผชิญกับวิกฤตโควิด วิกฤตเศรษฐกิจ ความผันผวนของตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างมาก การตระหนักรู้ ปรับปรุง
ขณะที่ การเปลี่ยนแปลงอย่างทันท่วงที ถือเป็น 1 ในหัวใจสำคัญเพื่อชิงความได้เปรียบในการทำการค้าและการดำเนินธุรกิจ
ภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท มีเดียอินเทลลิเจนซ์ จำกัด หรือ MI Group กล่าวว่าภาพรวมอุตสาหกรรมสื่อและโฆษณาโค้งสุดท้ายของปีนี้ MI GROUP คาดการณ์เม็ดเงินโฆษณาน่าจะปิดอยู่ที่ 82,300 ล้านบาท หรือเติบโต +8.1% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยชัดเจนว่าเม็ดโฆษณากว่า 90% ยังคงอยู่กับ 3 สื่อหลักคือ สื่อโทรทัศน์ สื่อออนไลน์ และสื่อนอกบ้านตามลำดับ
จากพฤติกรรมผู้บริโภคและการเติบโตอย่างต่อเนื่องของสื่อออนไลน์ทำให้สัดส่วนเม็ดเงินโฆษณาออนไลน์สูงถึง 33% เข้าใกล้สื่อโทรทัศน์ซึ่งมีสัดส่วนอยู่ที่ 45.8% มากขึ้นเรื่อยๆ
ขณะที่กระแสบอลโลก FIFA WORLD CUP QATAR 2022 ที่เพิ่งปิดฉากลงไปจะร้อนแรงและเป็นที่สนใจของแฟนบอลชาวไทย แต่เม็ดเงินโฆษณาของแบรนด์และผู้ประกอบการต่างๆที่คาดว่าจะสะพัดในช่วงไตรมาส 4 กลับไม่ร้อนแรงไปตามกระแส เนื่องจากความล่าช้า ความไม่ชัดเจนของรายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆในการถ่ายทอดสด
เช่น รายชื่อสปอนเซอร์หลัก แพคเกจการขายโฆษณา ตารางช่องทางการถ่ายทอด รวมถึงสิทธิ์ในการสื่อสารทางการตลาดอื่นๆ (Sport Marketing) ที่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่นอนจนถึงวินาทีสุดท้ายก่อนมหกรรมฟุตบอลจะเริ่มขึ้น
โดยปกติมหกรรมกีฬาใหญ่ๆระดับโลกหรือระดับภูมิภาค มักเป็นที่สนใจและติดตามของแฟนกีฬาชาวไทย ซึ่งทำให้ช่วงเวลาดังกล่าวเม็ดเงินการตลาด สื่อสารการตลาดของเหล่าผู้ประกอบการและแบรนด์จะสะพัดอย่างมากเพื่อเกาะกระแสมหกรรมดังกล่าว
โดยช่วงก่อนปี 2020 ก่อนการระบาดของโควิด มหกรรมกีฬาเหล่านี้ทำให้เกิดเม็ดการตลาด สื่อสารการตลาด โดยเฉพาะเม็ดเงินโฆษณาทางสื่อโทรทัศน์สะพัดไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท แต่ FIFA WORLD CUP QATAR 2022 ที่เพิ่งจบลงไป มีเม็ดเงินโฆษณาสะพัดในสื่อโทรทัศน์ซึ่งถือเป็นสื่อหลักในการรับชมไม่ถึง 200 ล้านบาท
ภวัต กล่าวว่าขณะเดียวกัน บริษัทยังได้จัดทำ 2023 Hand Book: Post-Pandemic Study โดยรวบรวมข้อมูลประเด็นสำคัญๆ ทั้งการเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์สื่อ สัญญาณบวกและลบของอุตสาหกรรมสื่อที่ส่งผลต่อตลาด เทรนด์การเสพสื่อ และจำนวนผู้ใช้งานของแพลตฟอร์มโซเชียลต่างๆ
นอกจากนี้ยังได้วิเคราะห์และหาโอกาสจาก TikTok แพลตฟอร์มที่ร้อนแรงที่สุดในขณะนี้ รวมไปถึง ร่วมอัพเดทพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของคนไทยในแต่ละเจนเนอเรชั่น พฤติกรรมและวิถีใหม่หลังวิกฤตโรคระบาด ชวนทบทวนถึงวัฒนธรรมองค์กรและตัวตนบุคคลที่จำเป็นต้องมีในยุคหลังวิกฤตโรคระบาดนี้
พร้อมจับตาดูเทรนด์การสร้างแบรนด์และองค์กรเพื่อความยั่งยืนในโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่นักการตลาด นักสื่อสารการตลาด ต้องรู้ลึกรู้จริง เข้าใจและเข้าถึง ทิ้งท้ายด้วยการร่วมค้นหาน่านน้ำใหม่เพื่อโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ
ขณะที่ การเปลี่ยนแปลงอย่างทันท่วงที ถือเป็น 1 ในหัวใจสำคัญเพื่อชิงความได้เปรียบในการทำการค้าและการดำเนินธุรกิจ
ภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท มีเดียอินเทลลิเจนซ์ จำกัด หรือ MI Group กล่าวว่าภาพรวมอุตสาหกรรมสื่อและโฆษณาโค้งสุดท้ายของปีนี้ MI GROUP คาดการณ์เม็ดเงินโฆษณาน่าจะปิดอยู่ที่ 82,300 ล้านบาท หรือเติบโต +8.1% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยชัดเจนว่าเม็ดโฆษณากว่า 90% ยังคงอยู่กับ 3 สื่อหลักคือ สื่อโทรทัศน์ สื่อออนไลน์ และสื่อนอกบ้านตามลำดับ
จากพฤติกรรมผู้บริโภคและการเติบโตอย่างต่อเนื่องของสื่อออนไลน์ทำให้สัดส่วนเม็ดเงินโฆษณาออนไลน์สูงถึง 33% เข้าใกล้สื่อโทรทัศน์ซึ่งมีสัดส่วนอยู่ที่ 45.8% มากขึ้นเรื่อยๆ
ขณะที่กระแสบอลโลก FIFA WORLD CUP QATAR 2022 ที่เพิ่งปิดฉากลงไปจะร้อนแรงและเป็นที่สนใจของแฟนบอลชาวไทย แต่เม็ดเงินโฆษณาของแบรนด์และผู้ประกอบการต่างๆที่คาดว่าจะสะพัดในช่วงไตรมาส 4 กลับไม่ร้อนแรงไปตามกระแส เนื่องจากความล่าช้า ความไม่ชัดเจนของรายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆในการถ่ายทอดสด
เช่น รายชื่อสปอนเซอร์หลัก แพคเกจการขายโฆษณา ตารางช่องทางการถ่ายทอด รวมถึงสิทธิ์ในการสื่อสารทางการตลาดอื่นๆ (Sport Marketing) ที่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่นอนจนถึงวินาทีสุดท้ายก่อนมหกรรมฟุตบอลจะเริ่มขึ้น
โดยปกติมหกรรมกีฬาใหญ่ๆระดับโลกหรือระดับภูมิภาค มักเป็นที่สนใจและติดตามของแฟนกีฬาชาวไทย ซึ่งทำให้ช่วงเวลาดังกล่าวเม็ดเงินการตลาด สื่อสารการตลาดของเหล่าผู้ประกอบการและแบรนด์จะสะพัดอย่างมากเพื่อเกาะกระแสมหกรรมดังกล่าว
โดยช่วงก่อนปี 2020 ก่อนการระบาดของโควิด มหกรรมกีฬาเหล่านี้ทำให้เกิดเม็ดการตลาด สื่อสารการตลาด โดยเฉพาะเม็ดเงินโฆษณาทางสื่อโทรทัศน์สะพัดไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท แต่ FIFA WORLD CUP QATAR 2022 ที่เพิ่งจบลงไป มีเม็ดเงินโฆษณาสะพัดในสื่อโทรทัศน์ซึ่งถือเป็นสื่อหลักในการรับชมไม่ถึง 200 ล้านบาท
ภวัต กล่าวว่าขณะเดียวกัน บริษัทยังได้จัดทำ 2023 Hand Book: Post-Pandemic Study โดยรวบรวมข้อมูลประเด็นสำคัญๆ ทั้งการเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์สื่อ สัญญาณบวกและลบของอุตสาหกรรมสื่อที่ส่งผลต่อตลาด เทรนด์การเสพสื่อ และจำนวนผู้ใช้งานของแพลตฟอร์มโซเชียลต่างๆ
นอกจากนี้ยังได้วิเคราะห์และหาโอกาสจาก TikTok แพลตฟอร์มที่ร้อนแรงที่สุดในขณะนี้ รวมไปถึง ร่วมอัพเดทพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของคนไทยในแต่ละเจนเนอเรชั่น พฤติกรรมและวิถีใหม่หลังวิกฤตโรคระบาด ชวนทบทวนถึงวัฒนธรรมองค์กรและตัวตนบุคคลที่จำเป็นต้องมีในยุคหลังวิกฤตโรคระบาดนี้
พร้อมจับตาดูเทรนด์การสร้างแบรนด์และองค์กรเพื่อความยั่งยืนในโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่นักการตลาด นักสื่อสารการตลาด ต้องรู้ลึกรู้จริง เข้าใจและเข้าถึง ทิ้งท้ายด้วยการร่วมค้นหาน่านน้ำใหม่เพื่อโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ