‘สุปรีย์ ทองเพชร’กับเป้าหมาย Montivory โตระดับอาเซียนใน 3 ปี

27 พ.ย. 2565 - 07:10

  • ชูจุดเด่นพันธมิตรธุรกิจระดับโลกวิเคราะห์บิ๊กดาตาแม่นยำ

  • มุ่งสู่การเป็น Asean Data Initiative

brand-marketing-montivory-digital-consulting-transformation-SPACEBAR-Thumbnail
SPACEBAR ได้มีโอกาสพูดคุยกับ ‘สุปรีย์ ทองเพชร’ ซีอีโอ บริษัท Montivory จำกัด ถึงแนวคิดและแผนธุรกิจ Montivory ที่จะไม่ได้โฟกัสแต่เฉพาะตลาดในไทย แต่ยังมองไกลไปถึงระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)  อีกด้วย 

จากประสบการณ์ร่วม 20 ปีในแวดวงธุรกิจสื่อและไอที พร้อมต่อยอดสู่การเป็นที่ปรึกษาการปรับเปลี่ยนองค์กรไปสู่ความเป็นดิจิทัล  (Digital Transformation) ของ ‘สุปรีย์’ ที่มองเห็นแนวโน้มการเปลี่ยนผ่านองค์กรทั่วโลกเตรียมเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล

ก่อนจะเข้าสู่พาร์ทธุรกิจนั้น ‘สุปรีย์’ เล่า เกร็ดสนุกๆ เกี่ยวกับความหมายชื่อบริษัท Montivory เกิดจากการรวบสองคำศัพท์ในภาษาอังกฤษ  คือ Mount ที่แปลว่า ‘ภูเขา’ และ Ivory หมายถึง ‘งาช้าง’เพื่อสะท้อนถึง ‘เขาช้าง’ แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดพังงาซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิดของเขาเอง 
 
“ที่มาชื่อบริษัทนั้น มาจากความคิดอยากได้ชื่อที่มีความเกี่ยวข้องกับจังหวัดพังงา เลยเอาคำว่า เมาท์ที่แปลว่าภูเขา และไอวอรี หมายถึงงาช้าง ซึ่งพอเอามารวมกันเป็นคำภาษาอังกฤษที่เมื่อออกเสียงฟังดูแล้วมีความน่าสนใจดี” สุปรีย์ ขยายความ  


Big Data คือ ปัญหา?  

สุปรีย์ เล่าต่อถึงตำแหน่งทางธุรกิจ Montivory ในฐานะผู้ให้บริการที่ปรึกษาองค์กรธุรกิจเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล  (Business Consulting Digital Transformation) ด้วยจุดเด่นประสบการณ์ที่สั่งสมมากว่า2ทศวรรษและความเชี่ยวชาญทีมบุคลากรดิจิทัล แบบครบวงจร ทั้งการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดมหึมา Big Data ที่จะแตกต่างไปจากผู้ให้บริการรายอื่นในสนามธุรกิจเดียวกัน   
 
ด้วยในอนาคต การทำธุรกิจจะต้องแข่งขันกันโดยใช้ข้อมูลที่แม่นยำมากที่สุดมาประกอบการบริหารจัดการองค์กร ซึ่ง ผู้บริหารจะใช้ความรู้สึกเพื่อตัดสินใจแบบในอดีตไม่ได้อีกแล้ว 
 
สุปรีย์ กล่าวว่า “ขณะที่ Big Data หากเป็นเพียงแค่การเก็บข้อมูลแต่ไม่ถูกนำมาวิเคราะห์ให้เกิดประโยชน์ได้สูงสุดในยุคที่มีดาตาท่วมท้นแบบนี้แล้ว สุดท้ายแล้วบิ๊กดาตาเองนั่นแหละจะคือปัญหา”  
 
จากการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจไปสู่ยุคดิจิทัลในอนาคต ที่ ‘สุปรีย์’ ฉายภาพให้เห็นชัดขึ้นนั้น เป็นอีกปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ภาคธุรกิจองค์กร จะต้องเร่งเก็บข้อมูลต่างๆเอาไว้ให้มากที่สุด ด้วยในท้ายสุดแล้ว จากจำนวนข้อมูลมหาศาลหากถูกนำมายูทิไลซ์แล้วจะกลายเป็นสินทรัพย์ (Asset) ที่มีมูลค่าสำคัญมากต่อองค์กรในอนาคต
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/bQJOrpFJbx7WOB6hesxRp/db18eb804e5031df79fff24d7769bf59/brand-marketing-montivory-digital-consulting-transformation-SPACEBAR-Photo01

เดินกลยุทธ์ร่วมพาร์ทเนอร์ระดับโลก   

นอกจากนี้ Montivory ยังทำงานร่วมกับ ‘Adobe’ ในฐานะพันธมิตรธุรกิจเชิงกลยุทธ์ระดับโลก เพื่อนำเครื่องมือมาใช้ร่วมวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytic) พร้อมวางรูปแบบการดำเนินการให้กับลูกค้าเพื่อนำเสนอแพลตฟอร์มการเปลี่ยนผ่านดิจิทัล ที่ลดความซับซ้อนและยุ่งยากให้ได้มากที่สุดสำหรับองค์กรที่ต้องการขยายธุรกิจในรูปแบบต่างๆ เช่น การเข้าซื้อกิจการที่จำเป็นจะต้องใช้การวิเคราะห์ข้อมูลมาประกอบการตัดสินใจแต่ละด้าน เป็นต้น   
 
สุปรีย์ อธิบายเพิ่มว่า “ ทีม Montivory มีความพร้อมรอบด้านในการทำงานร่วมกับธุรกิจองค์กรตั้งแต่เริ่มต้นการให้คำที่ปรึกษา การเก็บวิเคราะห์ข้อมูลไปจนจบกระบวนการ ซึ่งบริษัทจะมีเครื่องมือในการทำงานตั้งแต่การวางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลให้กับลูกค้า การวางระบบขั้นตอนการดำเนินการ โดยจะใช้ระยะเวลาวัดผลการทำงานที่แตกต่างกันออกไปซึ่งขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าแต่ละราย”
 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/dTp5oV9GbzIwqH0U3MqpZ/ccfa3a9290d94fea62a8492498757cc9/brand-marketing-montivory-digital-consulting-transformation-SPACEBAR-Photo02

สู่ตลาดอาเซียน เป้า 3 ปีรายได้ 800 ล้านบาท  

ปัจจุบัน Montivory ให้บริการลูกค้าธุรกิจองค์กรขนาดใหญ่ไปจนถึงธุรกิจข้ามชาติครอบคลุมในทุกอุตสาหกรรม อาทิ อุปโภคบริโภค ประกันชีวิต ค้าปลีก ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไฮ-เทคโนโลยี โรงพยาบาล อาหารเครื่องดื่ม เป็นต้น  
 
โดยจะมุ่งให้ความสำคัญกับความปลอดภัยข้อมูลลูกค้าสูงสุด ด้วยหลักการทำงาน ให้บริการลูกค้า 1 รายต่อ 1 อุตสาหกรรม เท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง  (Conflict) ของข้อมูลลูกค้าในอุตสาหกรรมเดียวกัน
 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/1bUoe7qfk6eGw0YUnlFFsS/a1abbb424c3638e273517d65952274f0/brand-marketing-montivory-digital-consulting-transformation-SPACEBAR-Photo03
‘สุปรีย์’ ยังบอกอีกว่าจากการทำธุรกิจแบบไร้พรมแดนในปัจจุบัน ทำให้บริษัทมองเห็นการเติบโตของ Montivory  ที่ยังจะสามารถขยายต่อไปต่อได้ในระดับภูมิภาคอาเซียน ทั้งใน เมียนมา สปป.ลาว และกัมพูชา ด้วยกลุ่มประเทศเหล่านี้กำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านดิจิทัลด้วยเช่นกัน ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งตลาดสำคัญของ Montivory นับจากนี้ไปในอนาคต ภายใต้โจทย์เดียวกันคือการเชื่อมโลกทั้งใบที่กำลังเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล  
 
พร้อมทิ้งท้ายว่า “จากนี้ไปในอีก 3 ปีข้างหน้า Montivory วางเป้าหมายผลประกอบการรวมไม่ต่ำกว่า 800 ล้านบาท พร้อมร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ ’Thailand Data Initiative และไต่ระดับไปสู่ Asean Data Initiative ในอนาคตอันใกล้นี้”   

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์