Facebook และ TikTok ประกาศเครื่องมือที่ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้งานโดน Fake news และ อัลกอริทึมแบบผิดๆ ครอบงำความคิด
หลายคนจำได้ปรากฎการณ์ Echo chamber หรือ ห้องแห่งเสียงสะท้อนใน Social Media ที่ทำให้ User จะเห็นแต่ข่าวและข้อมูลที่ตัวเองสนใจ หรือเห็นด้วย
จนทำให้กลายเป็นภาวะที่ User ออกมาจากข้อมูลที่เลือกข้างไม่ได้ และยิ่งดำดิ่งเชื่อมั่นในข้อมูลที่ถูกเลือกมาให้มองเห็น จนเกิดเป็นชุมชนที่ยิ่งสนับสนุนการเลือกข้าง กลายเป็นความแตกแยก ซึ่งส่งผลกระทบต่อแนวคิดหลายอย่าง รวมถึงการเมืองและการเลือกตั้งด้วย
อย่างที่อเมริกาปี 2018 มีข่าว บริษัท Cambridge Analytica ได้ข้อมูลของผู้ใช้งาน Facebook 10 ล้านรายชื่อ แล้วเอาไปบิดเบือน Algorithm มีผลให้คะแนนเสียงเทมาที่อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์
ซึ่งนั้นเป็นอดีตค่ะเพราะ Meta เจ้าของ Facebook และ TikTok ออมาแถลงว่าได้ลงทุนแก้ไขและป้องกันปัญหานี้แล้ว
ล่าสุด แคลร์ อมาดอร์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะ Meta ประจำประเทศไทย แถลงว่าจะดูแลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งของไทยและระดับให้โปร่งใส ด้วยการลงทุน 170,000 ล้านบาท ใช้คนอีก 40,000 คน เพื่อต่อสู้กับการแทรกแซงและการสร้างอิทธิพล โดยเฉพาะพวกที่ผลิตข่าวปลอม จะมี AI มาตรวจสอบแบบ Real time ซึ่ง Meta มีการตรวจพบและลบบัญชีปลอมไปแล้วมากกว่า 1.3 พันล้านบัญชี
ส่วน TikTok ก็ออกกฎชุมชนควบคุมบัญชีที่เป็นการเมืองเป็นพิเศษ ห้ามบัญชีการเมืองโฆษณา และห้ามสร้างรายได้ทุกประเภทบน Platform โดยTikTok จะร่วมมือกับ กกต. เปิดศูนย์การเลือกตั้ง ต้อต้านการปล่อยข่าวปลอมในช่วงเลือกตั้ง
หลายคนจำได้ปรากฎการณ์ Echo chamber หรือ ห้องแห่งเสียงสะท้อนใน Social Media ที่ทำให้ User จะเห็นแต่ข่าวและข้อมูลที่ตัวเองสนใจ หรือเห็นด้วย
จนทำให้กลายเป็นภาวะที่ User ออกมาจากข้อมูลที่เลือกข้างไม่ได้ และยิ่งดำดิ่งเชื่อมั่นในข้อมูลที่ถูกเลือกมาให้มองเห็น จนเกิดเป็นชุมชนที่ยิ่งสนับสนุนการเลือกข้าง กลายเป็นความแตกแยก ซึ่งส่งผลกระทบต่อแนวคิดหลายอย่าง รวมถึงการเมืองและการเลือกตั้งด้วย
อย่างที่อเมริกาปี 2018 มีข่าว บริษัท Cambridge Analytica ได้ข้อมูลของผู้ใช้งาน Facebook 10 ล้านรายชื่อ แล้วเอาไปบิดเบือน Algorithm มีผลให้คะแนนเสียงเทมาที่อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์
ซึ่งนั้นเป็นอดีตค่ะเพราะ Meta เจ้าของ Facebook และ TikTok ออมาแถลงว่าได้ลงทุนแก้ไขและป้องกันปัญหานี้แล้ว
ล่าสุด แคลร์ อมาดอร์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะ Meta ประจำประเทศไทย แถลงว่าจะดูแลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งของไทยและระดับให้โปร่งใส ด้วยการลงทุน 170,000 ล้านบาท ใช้คนอีก 40,000 คน เพื่อต่อสู้กับการแทรกแซงและการสร้างอิทธิพล โดยเฉพาะพวกที่ผลิตข่าวปลอม จะมี AI มาตรวจสอบแบบ Real time ซึ่ง Meta มีการตรวจพบและลบบัญชีปลอมไปแล้วมากกว่า 1.3 พันล้านบัญชี
ส่วน TikTok ก็ออกกฎชุมชนควบคุมบัญชีที่เป็นการเมืองเป็นพิเศษ ห้ามบัญชีการเมืองโฆษณา และห้ามสร้างรายได้ทุกประเภทบน Platform โดยTikTok จะร่วมมือกับ กกต. เปิดศูนย์การเลือกตั้ง ต้อต้านการปล่อยข่าวปลอมในช่วงเลือกตั้ง
