คนยังไม่หยุดถอนเงิน จนธนาคารไม่มีเงินมาปล่อยกู้ ฉายให้เห็นวิถีของระเบิดเวลาสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ เมื่อไม่มีแหล่งเงินกู้ จะเอาอะไรมาหมุนเศรษฐกิจกันต่อ
260.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คือปริมาณเงินที่คนแห่ถอยอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ Silicon Valley Bank ล้มไป และยังสะเทือนความเชื่อมั่นนักลงทุน รวมถึงประชาชน ที่กลัวว่าการฝากเงินในธนาคารจะไม่ปลอดภัยอีกแล้ว
และนี่ทำให้ระเบิดลูกต่อไปเริ่มทำงานแล้ว เมื่อผู้คนยังไม่หยุดถอนเงินฝากเงินฝาก ธนาคารที่มีปัญหาสภาพคล่องอยู่แล้วก็ยิ่งขาดเงินสดรุนแรงขึ้น นำไปสู่ปัญหาใหม่ คือ ธนาคารเริ่มไม่มีเงินปล่อยกู้
Bloomberg รายงานปัจจุบันยอดการปล่อยกู้ของธนาคารสหรัฐอเมริกาติดลบเกือบ -105 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพราะธนาคารทั้งขนาดเล็กไปถึงใหญ่ เข้าสู่ภาวะรัดเข็มขัด และปล่อยเงินกู้ยากมาก ทำให้ยอดการปล่อยเงินกู้ลดลงเป็นประวัติกาลต่ำสุดตั้งแต่ปี 1975 เป็นต้นมา [1]
อสังหาริมทรัพย์ก็มาจ่อร่วมวงระเบิดลูกนี้ กับปริมาณหนี้ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐที่จะถึงกำหนดเช็คบิลภายในปี 2025 แต่คำถามสำคัญไม่ใช่แค่ อสังหาฯจะมีกำลังมาชำระหนี้ให้ตรงเวลาหรือไม่ แต่ที่น่ากังวลกว่าคือ จากนี้ไปจะไปหาเงินทุนกู้เพิ่มจากที่ไหน [2]
เพราะผู้ปล่อยเงินกู้รายใหญ่ให้ภาคอสังหาริมทรัพย์เมื่อปีที่แล้วคือ ธนาคารท้องถิ่น และธนาคารขนาดกลาง มีสัดส่วนเป็นผู้ปล่อยกู้มากถึง 27% หรือมากกว่า 1 ใน 4 จากก้อนเงินกู้ทั้งหมด และกลุ่มธนาคารที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากวิกฤตธนาคารครั้งนี้ ก็คือ ธนาคารท้องถิ่น และธนาคารขนาดกลาง
แยกวัดใจสู่ Recession ก็มาถึง ซึ่งThe Economist ที่ติดตาม รายงาน Fed H.8 หรือรายงานที่บอกเรื่องตัวเลขของธนาคารพาณิชย์สหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะ บอกว่า ท่ามกลางวิกฤตการเงินนี้ เป็นเรื่องที่ยากและซับซ้อนมากขึ้นสำหรับธนาคารกลางสหรัฐฯ ว่า จะแก้ปัญหาเงินเฟ้ออย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดRecession หรือ ภาวะเศรษฐกิจถดถอยขึ้น
260.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คือปริมาณเงินที่คนแห่ถอยอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ Silicon Valley Bank ล้มไป และยังสะเทือนความเชื่อมั่นนักลงทุน รวมถึงประชาชน ที่กลัวว่าการฝากเงินในธนาคารจะไม่ปลอดภัยอีกแล้ว
และนี่ทำให้ระเบิดลูกต่อไปเริ่มทำงานแล้ว เมื่อผู้คนยังไม่หยุดถอนเงินฝากเงินฝาก ธนาคารที่มีปัญหาสภาพคล่องอยู่แล้วก็ยิ่งขาดเงินสดรุนแรงขึ้น นำไปสู่ปัญหาใหม่ คือ ธนาคารเริ่มไม่มีเงินปล่อยกู้
Bloomberg รายงานปัจจุบันยอดการปล่อยกู้ของธนาคารสหรัฐอเมริกาติดลบเกือบ -105 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพราะธนาคารทั้งขนาดเล็กไปถึงใหญ่ เข้าสู่ภาวะรัดเข็มขัด และปล่อยเงินกู้ยากมาก ทำให้ยอดการปล่อยเงินกู้ลดลงเป็นประวัติกาลต่ำสุดตั้งแต่ปี 1975 เป็นต้นมา [1]
อสังหาริมทรัพย์ก็มาจ่อร่วมวงระเบิดลูกนี้ กับปริมาณหนี้ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐที่จะถึงกำหนดเช็คบิลภายในปี 2025 แต่คำถามสำคัญไม่ใช่แค่ อสังหาฯจะมีกำลังมาชำระหนี้ให้ตรงเวลาหรือไม่ แต่ที่น่ากังวลกว่าคือ จากนี้ไปจะไปหาเงินทุนกู้เพิ่มจากที่ไหน [2]
เพราะผู้ปล่อยเงินกู้รายใหญ่ให้ภาคอสังหาริมทรัพย์เมื่อปีที่แล้วคือ ธนาคารท้องถิ่น และธนาคารขนาดกลาง มีสัดส่วนเป็นผู้ปล่อยกู้มากถึง 27% หรือมากกว่า 1 ใน 4 จากก้อนเงินกู้ทั้งหมด และกลุ่มธนาคารที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากวิกฤตธนาคารครั้งนี้ ก็คือ ธนาคารท้องถิ่น และธนาคารขนาดกลาง
แยกวัดใจสู่ Recession ก็มาถึง ซึ่งThe Economist ที่ติดตาม รายงาน Fed H.8 หรือรายงานที่บอกเรื่องตัวเลขของธนาคารพาณิชย์สหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะ บอกว่า ท่ามกลางวิกฤตการเงินนี้ เป็นเรื่องที่ยากและซับซ้อนมากขึ้นสำหรับธนาคารกลางสหรัฐฯ ว่า จะแก้ปัญหาเงินเฟ้ออย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดRecession หรือ ภาวะเศรษฐกิจถดถอยขึ้น