อนุมัติ 4.9 พันล้าน แก้หนี้ทั้งระบบ

19 ธ.ค. 2566 - 10:02

  • รัฐบาล เดินหน้าแก้หนี้เต็มสูบ ล่าสุด ครม.อนุมัติงบประมาณ 4,900 ล้าน แก้หนี้ทั้งระบบ

  • แจงแก้หนี้ 3 กลุ่ม มี เอสเอ็มอี-รายย่อยที่กระทบจากโควิด และลูกหนี้นอกระบบ

cabinet-approves-budget-debt-sme-people-Informal-debt-SPACEBAR-Hero.jpg

หลังคลัง เสนอมาตรการแก้ไขหนี้ทั้งในและนอกระบบ เข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) หวังช่วยเหลือผ่อนปรนภาระหนี้ให้ลูกหนี้ทั้งสองกลุ่ม โดยในระบบให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้อย่างเหมาะสมและเป็นธรรม ขณะที่ นอกระบบ ให้สามารถกลับเข้ามาในระบบได้ และป้องกันไม่ให้ลูกหนี้ที่มีหนี้ในระบบกลับไปเป็นหนี้นอกระบบได้อีก 

ล่าสุด ครม.เห็นชอบ อนุมัติงบประมาณ 4.9 พันล้านบาท ระบุเป็นการจัดทำแนวทางการแก้ไขหนี้ทั้งระบบ มัดรวมช่วยแก้หนี้ 3 กลุ่ม คือ เอสเอ็มอี-รายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือและรองรับลูกหนี้นอกระบบ

เช็ก 3 มาตรการรัฐช่วยแก้หนี้

คารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแนวทางการแก้ไขหนี้ทั้งระบบ ดังนี้

1. ให้ความเห็นชอบมาตรการแก้หนี้ 3 กลุ่ม คือ
1) เอสเอ็มอี : มาตรการช่วยเหลือพักหนี้ ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม ที่ได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) 
2) ลูกหนี้นอกระบบ : มาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือและรองรับลูกหนี้นอกระบบ และ 
3) ลูกหนี้รายย่อย : มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด 19 ตามโครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีอาชีพอิสระ ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด 19 และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ขณะที่เงินใช้จ่ายในแต่ละมาตรการนั้น ครม. ได้อนุมัติงบเงินงบประมาณ จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อใช้ในแต่ละมาตรการ ประกอบด้วย 

  1. มาตรการช่วยเหลือพักหนี้ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม ที่ได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) จำนวน 400 ล้านบาท 
  2. มาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือและรองรับลูกหนี้นอกระบบ จำนวน 4,500 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 4,900 ล้านบาท และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

“การแก้ไขหนี้ในระบบและหนี้นอกระบบ จะช่วยแบ่งเบาภาระหนี้ของลูกหนี้ในระบบ ช่วยเหลือให้ลูกหนี้ที่มีหนี้นอกระบบสามารถกลับเข้ามาในระบบได้ และป้องกันไม่ให้ลูกหนี้ที่มีหนี้ในระบบกลับไปเป็นหนี้นอกระบบได้อีก สามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ช่วยให้ประชาชนสามารถผ่อนชำระหนี้ได้สอดคล้องกับศักยภาพในการหารายได้ พร้อมทั้งผลักดันให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้อย่างเหมาะสมเป็นธรรม”

คารม กล่าวย้ำ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์