นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้ปรับปรุงแผนบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2567 ครั้งที่ 1 ตามที่คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เสนอ ประกอบด้วย
1. แผนการก่อหนี้ใหม่ ให้ปรับวงเงินการก่อหนี้ใหม่เพิ่มขึ้นอีก 560,276 แสนล้านบาท จากเดิม 194,434 ล้านบาท มาเป็น 754,710 ล้านบาท
2. แผนการบริหารหนี้เดิม ปรับเพิ่มขึ้นจาก 1.621 ล้านล้านบาท เป็น 2.008 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 387,758 ล้านบาท
3. แผนการชำระหนี้ ให้ปรับเพิ่มขึ้นจาก 390,538 ล้านบาท เป็น 399,613 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9,075 ล้านบาท
สำหรับการปรับเพิ่มขึ้นทั้ง 3 ส่วน สอดคล้องและอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย หรือสอดคล้องกับ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ ปี 61 โดยสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ จีดีพี (ที่กำหนดไว้ไม่เกิน 70%) โดยภายหลังการปรับเพิ่มหนี้แล้ว ส่งผลให้หนี้สาธารณะจะอยู่ที่ 61.29% ขณะที่สัดส่วนหนี้ของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ กรอบอยู่ที่ 35% จะอยู่ที่ 33.06% ขณะที่สัดส่วนหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศ กรอบจะอยู่ที่ 10% โดยปีงบประมาณ 67 จะอยู่ที่ 1.5% เป็นต้น
นอกจากนี้ ครม.ยังอนุมัติให้บรรจุโครงการพัฒนาตามแผนปรับปรุงเพิ่มเติมอีก 56 โครงการ และอนุมัติให้การเคหะแห่งชาติ (กคช.) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีรายได้ต่ำกว่าภาระหนี้ ให้สามารถกู้เงินมาบริหารงานได้ ตามคำแนะนำของคณะกรรมการนโยบายฯ
สำหรับวงเงินหนี้ใหม่ที่เพิ่มเข้ามานี้ นายชัย ยืนยัน เพื่อรองรับการดำเนินงบประมาณต่างๆ เนื่องจากรัฐบาลมี 56 โครงการที่จะดำเนินงาน ไม่ได้เจาะจงเฉพาะโครงการดิจิทัลวอลเล็ตอย่างเดียว
“ก่อนหน้านี้ วงเงินก่อหนี้ใหม่อยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากยังไม่มีโครงการเข้ามา แต่ตอนนี้รัฐมีหลายโครงการ เลยต้องปรับวงเงินก่อหนี้ใหม่ขึ้นมา”
นายชัย กล่าว
