กาสิโน อดีตสอนปัจจุบัน ไทยเคยทำ ศก.ดีไม่จริง สังคมเฟะ

10 เม.ย. 2567 - 03:58

  • รัชกาลที่ 5 ไม่แค่เลิกทาส แต่ยังเลิกบ่อนพนันเสรี อย่างชาญฉลาด คำถาม? ไทยเคยเลิกแล้วจะยังทำต่อหรือ?

  • รัฐยังต้องเคลียร์ ‘กาสิโน’ กระตุ้นเศรษฐกิจ กับ ก่อปัญหาสังคม ทางไหนมากกว่ากัน?

  • เวทีถก-ถามนักเศรษฐศาสตร์-ภาคประชาสังคม ชี้ ยังไม่ถึงเวลา กาสิโนไทย แต่หนุนหากเป็น ‘สถานบริการครบวงจร’ ที่ไม่นำ ‘กาสิโน’ เข้าเกี่ยวข้อง

cgs-seminar-casino-entertainment-complex-gambling-studies-SPACEBAR-Hero.jpg

‘กาสิโนไทย’ เรื่องใหญ่ที่ ‘รัฐ-นักเศรษฐศาสตร์-ภาคประชาสังคม’ ยังมีมุมมองสวนทางกัน เวที ‘ถึงเวลา กาสิโนไทย? มองปัจจุบัน ฝันถึงอนาคต’ ลงความเห็น ‘ยังไม่ถึงเวลา’ ตอกย้ำการเป็นจุดน่าห่วงของประเทศ คอรัปชันรุนแรง ทำสังคมไทยเปราะบางลง แง่เศรษฐกิจจะโตเฉพาะจุด และมากกว่านั้น อาจทำชื่อเสียงประเทศ ติดภาพแหล่งฟอกเงินผิดกฎหมาย-คอรัปชัน ยังถามต่อ หาก ‘ใช้กาสิโนดึงท่องเที่ยว’ ไทยจะได้นักท่องเที่ยว แบบไหน?

นับว่าเป็นอีกเวที ที่ให้ภาพกาสิโนในประเทศไทย ได้เป็นอย่างดี สำหรับเวทีเสวนา ‘ถึงเวลา กาสิโนไทย? มองปัจจุบัน ฝันถึงอนาคต’ ที่จัดโดย ศูนย์ศึกษาปัญหาพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะนิติศาสตร์ ม.รังสิต และมูลนิธิต่อต้านการทุจริต นำนักวิชาการ ฟากฝั่งของภาคเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม 6 ท่าน เข้าถก-ถาม ประกอบด้วย พลตารวจตรี สุพิศาล ภักดีนฤนาถ นักการเมือง, ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต, แพทย์หญิงมธุรดา สุวรรณโพธิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีธัญญา, นายวิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ สื่อมวลชนอาวุโส, ผศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน โดยมีรัชชพล เหล่าวานิช เป็นผู้ดำเนินการเสวนา เบื้องต้น หากสรุปตอบคำถามตามหัวข้อใหญ่ดังกล่าว ทุกฝ่ายก็ตอบไปในทิศทางเดียวกันว่า ‘ขณะนี้ยังไม่ใช่เวลาของประเทศไทย’ ที่จะก่อกำเนิด ‘กาสิโนเสรี’ ขึ้น ซึ่งทั้งหมดทั้งมวล ล้วนเหตุผลประกอบอย่างน่าสนใจ

cgs-seminar-casino-entertainment-complex-gambling-studies-SPACEBAR-Photo02.jpg

กาสิโน อดีตไทยเคยทำ และยกเลิกสมัย ร.5

ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เผย อย่าคิดว่า ประเทศไทยไม่เคยเปิดบ่อนเสรีเลย ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 3 และ 4 เราก็จะเห็นได้ว่า มีคนจีนมาเปิดบ่อนแล้วส่งภาษีเข้ารัฐ แต่ในที่สุดแล้วก็ต้องยกเลิกในรัชสมัย รัชกาลที่ 5 ภายหลังมีการ้องเรียนเกิดปัญหาทั้งปัญหาสังคมตามมามากมาย ทั้งการฉกชิงวิ่งราวทรัพย์ และเรื่องเศรษฐกิจการค้า จึงรับสั่งให้ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ศึกษา-เก็บข้อมูล ‘การปิด ทำอย่างไรไม่ให้กระทบ’ หรือว่า ถ้าบ่อนเสรีเป็นข้อดี ก็อาจจะอนุญาตให้ทำต่อ ให้แนวทาง อาจปิดบ่อนในบางพื้นที่ แล้วเปรียบเทียบกับที่เปิดบ่อน แยกแยะผลได้ผลเสีย

cgs-seminar-casino-entertainment-complex-gambling-studies-SPACEBAR-Photo03.jpg

“ผมเห็นว่า ท่านมีวิสัยทัศน์อย่างยิ่งเลยนะครับ แล้วก็ใช้วิธีการที่ทันสมัยมากก็คือ ใช้โมเดลปิดกับเปิด เปรียบเทียบกัน ปรากฏว่า ได้รับข้อมูลที่รายงานมาว่า ประชาชนพึงพอใจกับการปิดบ่อนครับ ว่าเนี่ยะ ทำให้มีเวลาทำมาหากิน ช่วยลูกหลานให้ไม่เอาใจใส่แต่บ่อนการพนันจนเป็นหนี้สินรุงรัง และรู้ไหม? สมัยโน้นเค้าให้ขายตัวได้ เมื่อเล่นกันจนหมดเนื้อหมดตัว ก็จะเห็นทั้ง พ่อแม่ขายลูกขายเมีย และหรือผู้หญิง ขายตัวเอง กระบวนการทั้งหมดเนี่ยะ จึงเป็นกระบวนการที่ทางฝ่ายบ้านเมืองตอบมาว่า เปรียบเทียบดูแล้ว หากปิด ปัญหาอาชญากรรม ลดลงในบริเวณที่ปิดบ่อน แล้วพวกพ่อค้าทั้งหลายก็ไม่เอาใจใส่ทางด้านบ่อนอีกแล้ว ก็คือการค้าขายมันก็เจริญรุ่งเรืองขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้น”

คณบดีคณะนิติศาสตร์ ม.รังสิต กล่าว

ผลการศึกษาที่ออกมาเช่นนี้ ทำให้รัชกาลที่ 5 เลือกใช้วิธีการว่า ปิดเป็นขั้นตอน ด้วยวิธีการเหมือนช่วงการเลิกทาส ที่ไม่ได้รวบทำคราวเดียวจบ แต่ใช้วิธีค่อยๆทำเป็นขั้นเป็นตอน ค่อยๆ ลดบ่อนการพนันลงเรื่อยๆ จนกระทั่งปิดได้อย่างสมบูรณ์ 

อย่างไรก็ตาม หลังจากปิดบ่อนเสรีได้อย่างสมบูรณ์แล้ว รัชกาลที่ 5 ท่านยังศึกษาการทำบ่อนกาสิโน ของประเทศมอนติคาร์โล (Monte Carlo) เมืองมหาเศรษฐี ในประเทศโมนาโก ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เนื่องจากต้องการจะเห็นภาพจริงๆ ว่า บ่อนการพนันที่เป็นกาสิโนบำรุงบ้านเมืองของที่โน่นเป็นอย่างไร ซึ่งท่านได้เขียนบันทึกไว้ ในหนังสือไกลบ้าน หนังสือที่อยู่จนกระทั่งปัจจุบันนี้ โดยมีบางช่วงบางตอนที่ระบุว่า ‘สนุกซะไม่มี’ แต่ว่าถ้าเอามาให้คนไทยเล่นเมื่อไหร่นะ มีอัน ‘ชิบหาย’ หมายความว่า มันจะเล่นกันจนทั้งวันทั้งคืนไม่ทำมาหากิน เพราะบ่อนการพนันพวกนี้ มันจะไม่ปิดตามเวลา จะเล่นกัน 24 ชั่วโมงทีเดียว

cgs-seminar-casino-entertainment-complex-gambling-studies-SPACEBAR-Photo04.jpg

ด้าน วิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ ในฐานะสื่อมวลชนอาวุโส ผู้เคยคลุกคลีข้อมูลกาสิโนประเทศไทย อีกท่านที่ย้อนเวลาให้เห็นเมื่อ 21 ปีที่แล้ว ยุครัฐบาล ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ก็หนุนเรื่องการทำบ่อนกาสิโนเสรี โดยได้ทำความเห็นและสอบถามไปยัง สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ขณะนั้น มี อานันท์ ปันยารชุน เป็นประธานฯ โดยขอคำปรึกษาและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ และกิจการที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เช่น Entertainment Complex ซึ่งรวมถึง กาสิโน ด้วย ... 

แต่คำตอบที่ได้ หลักใหญ่ใจความระบุว่า “สังคมไทยยังขาดความพร้อม เพราะค่านิยม พฤติการณ์ของคนไทยมีแนวโน้ม คือ 
1. ชอบเล่นการพนัน 
2. การบังคับใช้กฎหมาย ยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ
โดยการพนันเป็นหนทางแห่งความเสื่อม นำมาซึ่งความหายนะ ไม่ทำให้บ่อนการพนันเถื่อนหมดไป การจัดระบบการพนัน ให้ง่ายต่อการควบคุมเหมาะสมและถูกต้องนั้น ยากที่จะเป็นไปได้

“ธุรกิจการพนัน ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ ในการส่งเสริมการจ้างงาน และทำให้จำนวนผู้เล่นการพนัน เพิ่มสูงขึ้น”

วิเชษฐ์ กล่าว

cgs-seminar-casino-entertainment-complex-gambling-studies-SPACEBAR-Photo01.jpg

ขณะที่ ผศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล นักเศรษฐศาสตร์ ให้ข้อมูลเชิงตอบปัญหา ‘กาสิโนกระตุ้นเศรษฐกิจทางไหน?’ ยกผลศึกษาในต่างประเทศ ที่พบว่า...
ข้อแรก : การมีกาสิโนถูกกฎหมาย ไม่ว่าจะอยู่ในสหรัฐ ยุโรป หรือในเอเชีย กาสิโนถูกกฎหมาย ‘อาจ’ ทำให้ เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้นได้เป็นเวลา ‘สั้นๆ’ กาสิโนถูกกฎหมาย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว
ข้อสอง : ผลการศึกษาพบว่า แม้ว่าจะเป็นประเทศที่มี ผลการศึกษาดีก็ตาม การเปิดกาสิโนถูกกฎหมาย ทำให้อัตราการเกิดอาชญากรรมสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นประเทศ เดนมาร์ก เยอรมนี หรือฟินแลนด์ รวมถึง ในเอเชียด้วย 
ข้อสาม : ในมิติทางเศรษฐกิจที่ต้องสนใจมากๆ คือ การพนัน หรือกาสิโนถูกกฎหมาย จะทำให้ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ เพิ่มขึ้นอย่างมาก

ยกตัวอย่าง ผลการศึกษาของตัวเอง ต่อการที่ประชาชนกลุ่มเปราะบางได้รับความช่วยเหลือจากสวัสดิการแห่งรัฐ ‘เป็นเงินสด’ เช่น เบี้ยยังชีพคนชรา เบี้ยยังชีพคนพิการ ว่า รัฐต้องตระหนัก เพราะเงินสดนี้ จะมีผลทำให้ครัวเรือนที่ได้รับเงินนี้ มีการใช้จ่ายด้านการพนันเพิ่มสูงขึ้น ไม่ได้นำไปใช้ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ใช้ในการอุปโภคบริโภค ตามวัตถุประสงค์ ซึ่งเมื่อเงินจำนวนนี้ถูกไปใช้ในการพนันก็จะส่งผลถึง ‘การสูญเสีย’ เพราะปกติกลุ่มนี้ก็มีความอ่อนแอทางการเงินอยู่แล้ว ก็จะยิ่งอ่อนแอลงไปมากขึ้น เป็นการซ้ำเติมความยากจนของประเทศ และซ้ำเติมคนกลุ่มนี้

“คนกลุ่มเปราะบางในประเทศมีอยู่ประมาณ 15 ล้านคน หรือคิดเป็นประมาณ 20% ของประเทศ กลุ่มรายได้น้อย กับกลุ่มที่ติดการพนัน จะเป็นเป้าหมายของกาสิโนถูกกฎหมายที่จะทำรายได้ให้มากๆ แล้วถ้าเกิดคนกลุ่มดังกล่าวนี้ เข้าเล่นการพนันมาก แล้วจะมีผลกระทบเช่นไรต่อผลิตภาพของกำลังแรงงานในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งทั้งหมดนี้จะบั่นทอนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ”

นักเศรษฐศาสตร์ กล่าว

ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ของการสะท้อนภาพประเทศไทย ต่อเรื่องราวของ ‘กาสิโน’ ที่ยังพูดซ้อนสลับไปมา กับ ‘Entertainment Complex’ แท้ที่จริงใช่เรื่องเดียวกันไหม ฝากแยกชัด-ไม่กำกวม ลดความสับสน เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศ ที่ต้องรอบคอบ ท่ามกลางการเดินหน้าผลักดันของ ‘รัฐบาล เศรษฐา’ คงต้องติดตามผลศึกษาของรัฐบาล ที่ให้เวลา 30 วันนับจากนี้ ว่า กรรมาธิการชุดที่ศึกษาฯ จะได้ข้อมูลแง่ไหน ส่งกลับเข้าพิจารณาใน ครม.อีกบ้าง?

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์