วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ จบยาก! ยิ่งมาเจอ ‘แผ่นดินไหว’ ซ้ำเติมที่ซบอยู่แล้วให้วิกฤตยิ่งขึ้นไปอีก ล่าสุดที่ เชียงใหม่ เกิดความไม่มั่นใจที่อยู่อาศัยแนวตั้ง เริ่มเกิดกระแสเทขาย-ตลาดนิ่งไร้การซื้อขาย ขณะที่มีคอนโดมิเนียมรอการขายมากถึง 10,000 ยูนิต สมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์จังหวัดเชียงใหม่ภาคเหนือ คาด น่าจะซึมยาวต่อ 2 ปี ขณะที่นักวิชาการ เผยผลสอบอาคารสูง 31 แห่งไม่พบโครงสร้างหลักเสียหาย ห่วงคนอยู่อาศัยคอนโดมิเนียมเสี่ยงสุขภาพจิต ด้านผู้ให้เช่าคอนโดฯครวญ ‘ผู้เช่า’ แห่ยกเลิกสัญญา
นนท์ หิรัญเชษฐ์สกุล นายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์จังหวัดเชียงใหม่ภาคเหนือ เปิดเผยถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเมียนมา เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ส่ง ผลกระทบต่อตลาดคอนโดมิเนียมในจังหวัดเชียงใหม่ มีประมาณ 4-5 แห่งพบรอยร้าวจากแรงสั่นสะเทือน ขนาด 7.7 และมี 1 แห่งที่ต้องปิดไม่ให้เข้าอยู่อาศัย เพื่อซ่อมแซม ทำให้มีผลทางด้านจิตวิทยาขาดความเชื่อมั่นต่อการตัดสินใจซื้อและขายคอนโดมิเนียมเป็นอย่างมาก ในปี 2568 ตามที่เคยประเมินถือว่าตลาดคอนโดมิเนียมของจังหวัดเชียงใหม่ จะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ และหนี้ครัวเรือนที่สูงสุด รวมถึงมาตรการคุมเข้มสินเชื่อ และล่าสุด เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่สร้างผลกระทบให้กับที่อยู่อาศัยแนวตั้ง ยิ่งทำให้ภาพรวมของตลาดคอนโดมิเนียม ได้รับผลกระทบหนักกว่าเดิม คาดว่าจะซึมยาวไปอีก 2 ปี
สำหรับคอนโดมิเนียมของจังหวัดเชียงใหม่ ที่สร้างเสร็จพร้อมขาย ยอดสะสมน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 10,000 ยูนิต เฉลี่ยยูนิตละ 2 ล้านบาทขึ้นไป หรือมีมูลค่ารวมไม่น่าจะต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท แต่เมื่อเกิดแผ่นดินไหว ทำให้ตลาดคอนโดมิเนียมอยู่ในภาวะตลาดช็อค ลูกค้าไม่มีความเชื่อมั่นในการอยู่อาศัยที่อยู่แนวตั้ง ทำให้การซื้อนิ่ง และมีการเทขายเกิดขึ้น
ขณะที่สถาบันการเงินจากที่เคยปล่อยสินเชื่อร้อยละ 80 ก็ลดลงเหลือร้อยละ 60 และเมื่อเกิดแผ่นดินไหวก็ลดลงเหลือร้อยละ 40 เพราะถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ยิ่งทำให้ลูกค้าที่เจอกับมาตรการคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อ ยังต้องมาเจอกับสินเชื่อในสัดส่วนที่น้อยลงเรื่อยๆ และแม้ว่าจะมีการเทขายคอนโดมิเนียมมือสอง แต่ไม่มีใครที่จะซื้อเก็งกำไรเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยจะเป็นสิ่งสำคัญต่อการตัดสินใจซื้อของผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยแนวตั้ง และแม้ว่าจะมีการการันตรีว่าการก่อสร้างสามารถที่จะรับแรงสะเทือนของแผ่นดินไหวได้ตามกฎหมายกำหนด แต่สิ่งที่ปรากฏของอาคาร สตง.ก็ยังทำให้ประชาชนหวาดกลัว และอาจจะเปลี่ยนใจไปสนใจบ้านเดี่ยวมากขึ้น ในราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท
ขณะที่ รศ.ชูโชค อายุพงศ์ หัวหน้าศูนย์วิจัยด้านการจัดการภัยพิบัติทางธรรมชาติ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ผลตรวจสอบอาคารสูงสำคัญ 31 แห่ง ในเชียงใหม่ที่ได้รับแจ้ง ยังไม่พบอาคารโครงสร้างหลักเสียหายถล่ม ต้องรื้อถอน ส่วนอาคารดวงตะวันคอนโดมิเนียมซึ่งเกิดวิบัติในโครงสร้างหลักจากแผ่นดินไหว มีการสั่งปิดการใช้งานแล้ว และให้เสริมกำลังเสาที่เสียหายด้วยโครงสร้างเหล็กชั่วคราวก่อน แล้วค่อยพิจารณารื้อถอนหรือซ่อมแซมอย่างถาวร
แม้ว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวในครั้งนี้ จะมีศูนย์กลางในเมียนมา แต่ก็ส่งผลกระทบมายังจังหวัดเชียงใหม่ของประเทศไทย โดยเฉพาะอาคารสูงหลายแห่ง ที่ต้องเร่งซ่อมแซมจากการชำรุดในบางส่วนให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ และที่น่าเป็นห่วงคือ ประชาชนบางส่วนภาวะเครียดจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ(PTSD)จะเป็นปัญหาสุขภาพจิตกับคนที่อาศัยในคอนโดมิเนียม และขวัญเสียจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวได้
แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการให้เช่าห้องในคอนโดมิเนียมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวส่งผลกระทบให้ผู้เช่าห้องคอนโดมิเนียมเกือบ 100% ได้ขอยกเลิกสัญญาการอยู่อาศัย แม้ว่าจะมีการยืนยันการตรวจสอบความปลอดภัยของอาคารแล้วก็ตาม โดยส่วนใหญ่จะหันไปเช่าทาวน์โฮม ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์แบบใกล้เตียงแทน ขณะที่การซื้อขายก็หยุดชะงักไปทั้งระบบ เพราะไม่มั่นใจความปลอดภัยของอาคารสูง คาดว่าจะน่าจะได้รับผลกระทบต่อตลาดคอนโดมิเนียมไม่ต่ำกว่า 1 ปี
