การเลือกทำเนื้อหาบทแพลทฟอร์มออนไลน์ ของเหล่าอินฟูเอเซอร์ ก็กลายเป็นเรื่อง เป็นคดีได้เช่นกัน เช่นในกรณีของหญิงสาวชาวจีน หวาง จือ ยู ที่ทำเนื้อหาพูดถึงอันตรายของผู้หญิงสาว หากไปเที่ยวในซอยนานา
ล่าสุด พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบ ซึ่งพบว่านางสาวหวาง จือ ยู สัญชาติจีน เข้าประเทศไทยด้วยวีซ่าประเภท Thai Privilege Card จึงได้เชิญตัวมาสอบปากคำ ซึ่งเธอยอมรับว่าเป็นคนทำคลิปจริง แต่ไม่ได้มีเจตนา ให้เกิดความเสียหายต่อประเทศไทย โดยเพียงแต่ต้องการประชาสัมพันธ์ให้คนต่างชาติรู้ว่าสถานที่ไหนผู้หญิงไปคนเดียวควรจะระวังตัว
จากการตรวจสอบพฤติกรรมของ นางสาวหวาง พบว่ามีการไลฟ์สดขายสินค้าออนไลน์ ซึ่งเข้าข่ายการทำงานของคนต่างด้าวโดยไม่ได้รับอนุญาต เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวฯ โดยพนักงานสอบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้แจ้งข้อกล่าวหาเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ฝากถึงชาวต่างชาติที่เข้ามาสร้าง content ในประเทศไทย โดยพยายามให้เกิดประเด็นเชิงลบซึ่งไม่เป็นความจริง และเกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์และบรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยมีเจตนาแฝงเพื่อสร้างกระแสเรียกยอดไลค์ในโซเชียล อาจเป็นเหตุให้ถูกดำเนินคดีตามความผิดที่เกี่ยวข้อง และขึ้นบัญชีคนต้องห้ามได้