ความพยายามผลักดันโครงการกระตุ้นท่องเที่ยวภายในประเทศ ‘เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568’ กลับต้องสะดุดกลางทาง หลังเกิดปัญหาต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดลงทะเบียนวันแรก ทั้งระบบยืนยันตัวตนล่ม ซ้ำเติมด้วยกระแสร้องเรียนจากประชาชนถึงความซับซ้อนของขั้นตอน และความเสี่ยงเรื่องการ ‘สวมสิทธิ’ ทำให้วันนี้ สรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประกาศ ‘ปิดระบบลงทะเบียนโครงการทั้งหมดทันที’ และเตรียมย้ายระบบทั้งหมดไปยัง แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ ที่มีระบบยืนยันตัวตนแบบครบถ้วนอยู่แล้ว
ต้นเหตุ ระบบล่ม-ยืนยันตัวตนสะดุด-เสี่ยงทุจริต
สรวงศ์ ระบุว่า ปัญหาเกิดขึ้นตั้งแต่ ช่วงเช้าวันที่ 1 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่เริ่มเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนโครงการ เนื่องจากระบบยืนยันตัวตนผ่านแอป ThaiID (ของกระทรวงมหาดไทย) เกิดขัดข้อง ผู้ใช้จำนวนมากไม่สามารถเข้าระบบได้ ททท.จึงตัดสินใจ ‘บายพาส’ ระบบยืนยันตัวตน ให้ลงทะเบียนตรงกับเว็บไซต์โครงการแทน
แต่ปัญหาใหม่ตามมาคือ ขั้นตอนยืนยันตัวตนถูกเลื่อนเป็นตอนจองโรงแรมและเช็กอิน ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าอาจนำไปสู่ การทุจริต-สวมสิทธิ คล้ายกรณีโครงการก่อนหน้า ที่ ททท. มีคดีเกี่ยวกับการสวมสิทธิกว่าพันคดีในอดีต
1.4 ล้านคนลงทะเบียนแล้ว ยืนยันไม่กระทบสิทธิ
แม้มีปัญหา แต่จนถึงปัจจุบัน มีผู้ลงทะเบียนสำเร็จแล้วกว่า 1.4 ล้านคน โดยมีผู้จองโรงแรมสำเร็จแล้วกว่า 20,000 ราย ซึ่ง รัฐมนตรีท่องเที่ยวฯ-สรวงศ์ ยืนยันว่า ผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จจะไม่ถูกตัดสิทธิ และสามารถใช้สิทธิต่อได้ แต่ต้องยืนยันตัวตนอีกครั้งผ่านแอปรัฐ (แทน ThaID) เพื่อความโปร่งใส
ขณะเดียวกัน กระทรวงท่องเที่ยวฯ เตรียมให้ ททท.ออกประกาศปิดเว็บไซต์ www.เที่ยวไทยคนละครึ่ง.com และแอป Amazing Thailand ชั่วคราวทันทีในวันนี้ เพื่อดำเนินการโยกย้ายระบบหลังบ้านไปสู่แพลตฟอร์มแอปรัฐ ซึ่งมีระบบยืนยันตัวตนครบถ้วนและปลอดภัยกว่า โดยคาดว่าจะเปิดลงทะเบียนรอบใหม่ในเร็วๆ นี้หลังการถ่ายโอนข้อมูลเสร็จสมบูรณ์
โรงแรมที่ไม่ร่วมโครงการ ‘เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568’
แม้ผู้ลงทะเบียนจะได้รับสิทธิแล้ว แต่ไม่ใช่ทุกโรงแรมจะเข้าร่วมโครงการ โดยโรงแรมที่ไม่ได้เข้าร่วม ‘เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568’ ได้แก่
• โรงแรมที่ไม่ลงทะเบียนเป็นผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการกับ ททท.
• โรงแรมที่ไม่เปิดระบบเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลโครงการ (ระบบ OTA)
• โรงแรมหรือที่พักที่มีคดีหรือประวัติทุจริตจากโครงการก่อนหน้า
• ที่พักรายวัน/โฮมสเตย์ที่ไม่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการโรงแรม
ทั้งนี้ ททท. แนะนำให้ประชาชน ตรวจสอบรายชื่อโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการอย่างเป็นทางการ ผ่านเว็บไซต์ หรือ สายด่วน 1672 ก่อนทำการจองที่พัก เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด