Amaze Super App ก้าวใหม่ของ Loyalty E-Commerce ไทย เชื่อมทุกแต้มสู่มูลค่าจริง สร้างโครงสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลแห่งอนาคต
อเมซ ซูเปอร์แอป (Amaze Super App) แพลตฟอร์มช้อปปิ้งแนวคิดใหม่จากเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในวันนี้ (29 เมษายน 2568) หลังจากเริ่มให้บริการเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา พร้อมเป้าหมายยกระดับวงการ Loyalty E-Commerce ไทย โดยเน้นการ ‘รวมแต้มให้ใช้ได้จริง’ จากหลากหลายแหล่งใน ecosystem เครือซีพี สู่การใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างคุ้มค่า
ภายใต้แนวคิด “ทุกแต้มมีค่า ทุกการใช้จ่ายคือโอกาส” Amaze ชูจุดเด่นคือความสามารถในการรวมแต้มสะสมจากโปรแกรมชั้นนำ เช่น ALL POINT, Makro PRO POINT, My Lotus’s, True Point รวมถึงแต้มบัตรเครดิตจากธนาคารชั้นนำกว่า 7 แห่ง มาอยู่ใน ‘กระเป๋าพอยท์เดียว’ ใช้จ่ายแทนเงินสดได้แบบไม่มีขั้นต่ำ พร้อมฟีเจอร์สะดวก ใช้งานง่าย และสิทธิพิเศษมากมายสำหรับสมาชิก
ศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เผย Amaze ไม่ได้เป็นเพียงแอปรวมแต้ม แต่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญใน Digital Transformation ของซีพี เรานำผู้ผลิตมาพบผู้บริโภคใน ecosystem ขนาดใหญ่ของเรา ซึ่งมีผู้ใช้งานมากกว่า 100 ล้านรายทั่วประเทศ เป้าหมายคือการสร้างสิทธิประโยชน์ที่แท้จริง โดยอาศัยข้อมูลคุณภาพเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าอย่างแม่นยำ
โดย Amaze ยังมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีโดยคนไทย เพื่อสร้างระบบนิเวศที่รองรับ Personalized Commerce และ Retail Media ในอนาคต
ด้าน ธรินทร์ ธนียวัน ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มด้านอีคอมเมิร์ซ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ระบุ นี่คือก้าวสำคัญในการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลไทย ที่เปิดโอกาสให้แบรนด์ท้องถิ่นและผู้บริโภคได้ประโยชน์ร่วมกัน ผ่านระบบที่โปร่งใส ปลอดภัย และยืดหยุ่น
ดร.สรินทิพย์ สถิตย์เสถียร กรรมการผู้จัดการ Amaze Super App บริษัท แอสเซนด์ คอมเมิร์ซ จำกัด ให้มุมมอง ปัจจุบันผู้บริโภค “มีแต้มสะสมอยู่มาก แต่ยังถูกใช้ได้ไม่เต็มศักยภาพ” Amaze จึงเข้ามาเปลี่ยนสิ่งนี้ เพื่อให้ ‘แต้ม’ กลายเป็น ‘พลังซื้อ’ ที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน โดยไม่มีข้อจำกัด โดยแอปนี้มีจุดเด่นอยู่ที่การรวมพอยท์ทั้งในเครือซีพี (เช่น ALL Point, Lotus’s, Makro, True Point) และบัตรเครดิตชั้นนำของไทย เพื่อให้ผู้บริโภคใช้แต้มได้สะดวกขึ้น
นอกจากพันธมิตรในกลุ่มซีพี อาทิ True, Makro, CP ALL และ CPF แล้ว ยังเชื่อมต่อกับร้านค้าแบรนด์ดังบน Amaze Mall แพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ที่รวมสินค้าของแท้ 100% จากกว่า 500 แบรนด์ชั้นนำ ที่คัดสรรสินค้าแท้ พร้อมโปรโมชั่นจัดเต็ม มอบแด่สมาชิก พร้อมบริการจัดส่งสินค้า 7-Eleven และ Lotus’s ถึงบ้านใน 1–3 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ในส่วนของ Amaze Mall เองก็ยังมอบประโยชน์มากมายให้กับร้านค้าที่เข้าร่วม โดยมีโครงสร้างค่าธรรมเนียมในการทำธุรกิจที่ยืดหยุ่นมากขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งช่วยให้ร้านค้าสามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“เรายังมุ่งมั่นสร้างอีโคซิสเต็มที่มีประสิทธิภาพ โดยใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาโดยทีมคนไทยทั้งหมด พร้อมผลักดันร้านค้าพันธมิตรเข้าสู่โลกดิจิทัลด้วยต้นทุนที่ต่ำลงและโอกาสในการเข้าถึงฐานลูกค้าในเครือซีพีขนาดใหญ่ที่มีอยู่กว่า 30 ล้านคน เพื่อให้ต้นทุนของการค้าขายออนไลน์ลดลงจริง ทั้งในฝั่งร้านค้า แพลตฟอร์ม และผู้บริโภค เพราะเมื่อต้นทุนลดลงอย่างยั่งยืน ผู้บริโภคก็จะได้ซื้อสินค้าที่ถูกลง ทำให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกันและเติบโตไปด้วยกันอย่างแท้จริง พร้อมช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่อง”
ดร.สรินทิพย์ บอกด้วยว่า ผู้ใช้ยังได้รับ Amaze Point เพิ่มทุกครั้งที่ช้อป เพื่อสะสมและนำกลับมาใช้ได้อีกครั้งแบบต่อเนื่อง ยกระดับการช้อปให้กลายเป็นระบบสะสมแต้มครบวงจรที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้จ่ายและการออมค่าใช้จ่ายในระยะยาว
“เรายังมุ่งให้อเมซมอลล์ เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสนับสนุนร้านค้าด้วยแผนการตลาดและแคมเปญต่าง ๆ เช่น Amaze Mall Day ที่มอบส่วนลดพิเศษและ Pointback สูงสุดถึง 15% เพื่อช่วยขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมด้วยเครื่องมือบริหารจัดการที่ใช้งานง่าย และทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่คอยให้คำแนะนำตลอดการดำเนินธุรกิจ ทั้งหมดนี้สอดคล้องกับเป้าหมายของ อเมซ ซูเปอร์แอป ที่ต้องการขยายจำนวนร้านค้าให้ครอบคลุมยิ่งขึ้นเป็น 1,800 ร้านค้าภายในสิ้นปีนี้ เพื่อยกระดับประสบการณ์ช้อปปิ้งและสร้างอีโคซิสเต็มทางธุรกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกัน”
ดร.สรินทิพย์ กล่าว
