CRC ลงทุนเพิ่ม 2.2 หมื่นล้าน ต่อยอดกำไรใน 3 ประเทศ

13 ก.พ. 2567 - 07:46

  • Central Retail ประกาศ ลุยธุรกิจต่อใน 3 ประเทศ คือ ไทย เวียดนาม อิตาลี

  • ลุยกลยุทธ์ OMNI Retailer ผนวกออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน

  • ใช้เงินลงทุนเพิ่ม 2.2-2.4 หมื่นล้าน ขยาย 4 กลุ่มธุรกิจหลัก หวังเพิ่มรายได้โต 11%

crc-central-retail-omni-retailer-online-offline-SPACEBAR-Hero.jpg

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ CRC เผย ตอกย้ำการเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา จากการทำธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย, เวียดนาม และอิตาลี ตั้งเป้าเติบโตให้ได้ 9-11% โดยจะมีการลงทุนเพิ่มเป็นจำนวนเงินกว่า 22,000-24,000 ล้านบาท อัพสเกลใน 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่

กลุ่มแฟชั่น โดยทำการรีโนเวทห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล แฟล็กชิปสโตร์ สาขาชิดลม สู่การเป็น World Class Luxury Destination ให้หรูหราเหมือนยกห้างจากอิตาลีมาไว้ที่นี่ โดยจะคัดสรรเพิ่มแบรนด์ระดับโลกมาไว้ที่นี่กว่า 500 ร้านค้า รวมถึงการขยายสาขาเพิ่ม 2 แห่ง พร้อมรีโนเวทและอัพเกรดห้างอีก 4 แห่ง ควบคู่ไปกับการเพิ่มแบรนด์ชั้นนำระดับโลกเข้ามา และนำแบรนด์ไทยขยายไปยังเวียดนาม

กลุ่มฟู้ด ขยาย GO Wholesale เพิ่มอีก 7 สาขา รวมเป็น 11 สาขา, Tops เพิ่มอีก 10 สาขา รวมเป็น 178 สาขา และในประเทศเวียดนาม ได้เปิดตัว ไฮเปอร์มาร์เก็ต GO! 3 สาขา และ go! (มินิ โก!) อีก 9 สาขา ซึ่งเป็นWinning Format ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

กลุ่มฮาร์ดไลน์ ขยายสาขาไทวัสดุเพิ่มอีก 9 สาขา รวมเป็น 90 สาขา ตรงนี้ทางเราให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก สามารถต่อยอดธุรกิจค้าปลีกได้ อาทิ การเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ Community ต่างๆ ที่มีหลากหลาย Category เพื่อสร้าง Network และ Value ในระยะยาวให้กับธุรกิจ รวมไปถึงการขยาย Ecosystem จาก B2C เป็น B2B สำหรับเหงียนคิมในเวียดนามจะเปลี่ยนโฉมให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ มีการพัฒนาและปรับปรุงสาขาอย่างต่อเนื่อง ส่วนศูนย์การค้า GO! ในเวียดนาม มีแผนขยายอีก 3 สาขา โดยตั้งเป้าปิดปี 2567 ด้วยจำนวน 42 สาขา ครอบคลุม 42 จังหวัด จาก 63 จังหวัดทั่วประเทศ

สำหรับงบทั้งหมดที่ลงทุน แบ่งสัดส่วนการลงทุนในประเทศไทยประมาณ 75-80% และที่เหลือกระจายไปยังเวียดนาม และอิตาลี

“CRC เรามีธุรกิจอยู่ด้วยกัน 3 ประเทศ มี Market category ที่หลากหลายในการขยายธุรกิจสิ่งสำคัญคือการมองว่าอะไรคือ High Growth Demand และพยายามปรับการลงทุนให้เข้ากับดีมานด์ เช่นเมื่อ 3 ปีก่อนเรามองว่าธุรกิจวัสดุก่อสร้างไปได้แน่นอนและยังมีโอกาสที่จะโตได้อีกเยอะ เพราะฉะนั้นเราจึงเร่งเครื่องไทวัสดุเป็น High Growth ดังนั้น การเลือกลงทุนในประเทศไหนก็ตามต้องดูว่า Demand ของแต่ละประเทศอยู่ในธุรกิจอะไร เช่นเวียดนามอะไรก็ตามที่ไม่ใช่อาหารอยู่ในช่วง slow down เพราะฉะนั้นเราก็เข้าไป step up ในเรื่องของอาหาร ส่วนอิตาลีเราเข้าไป step up ในเรื่องของ luxury ทำให้ยอดขายของเราเติบโตมหาศาลจากกำลังซื้อของคนอิตาเลียนและ ยุโรปหรือแม้กระทั่งนักท่องเที่ยว”

นายญนน์ กล่าว

crc-central-retail-omni-retailer-online-offline-SPACEBAR-Photo01.jpg

วิสัยทัศน์ CRC OMNI-Intelligence สู่กลยุทย์ 5R

นายญนน์ ยังเผยกลยุทธ์ในปี 2567 ด้วยว่า เซ็นทรัล รีเทล เดินหน้าสู่ The Next Era ด้วยวิสัยทัศน์ CRC OMNI-Intelligence โดยการนำ AI เข้าไปในทุกกระบวนการของการทำธุรกิจ อาทิ การสร้าง Next-Gen Omnichannel ที่ผนวกแพลตฟอร์ม Offline และ Online เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค อีกทั้งยังขยายอีโคซิสเต็มจาก B2C สู่ B2B อย่างเต็มรูปแบบ และมีการ Integrate AI ให้เข้ากับ HI (Human Intelligence) เพื่อให้พนักงานทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เหมือนมี Expertise at your fingertip รวมถึงการสร้าง Impact ที่มุ่งเน้นทั้งด้าน Profit และ Planet ให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน

crc-central-retail-omni-retailer-online-offline-SPACEBAR-Photo02.jpg

โดย CRC OMNI-Intelligence ประกอบไปด้วย 5 กลยุทธ์สำคัญ (5R) ดังต่อไปนี้

1. Revolutionise Core Strength คือ การยกระดับความแข็งแกร่งของธุรกิจหลักใน Multi-Format, Multi-Category และ Multi-Market โดยมุ่งเน้นธุรกิจที่มีการเติบโตสูง รวมถึงการยกระดับเรื่อง Synergy และการทำ M&A เพื่อเพิ่ม Value ในระยะยาวให้กับธุรกิจ

2. Reinforce Financial Resilience คือ การทำให้สถานภาพทางการเงินมีความแข็งแกร่ง และมีการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น และมีความยืดหยุ่นทางด้านการเงิน บนหลักการบริหาร 3C (Cash, Cost, Capex)

3. Reinvent Beyond Retail คือ การต่อยอดธุรกิจนอกเหนือจากธุรกิจค้าปลีก เช่น การเข้าไปเป็นส่วนสำคัญใน Community ต่างๆ ในแต่ละ Category เพื่อสร้าง Network และ Value ในระยะยาวให้กับธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล รวมถึงการขยายอีโคซิสเต็มจาก B2C สู่ B2B อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมเดินหน้า Scale up อย่างต่อเนื่อง

4. Reimagine Human Capital คือ การพัฒนาศักยภาพของพนักงาน ด้วยการรวมIntelligence ของ AI และ HI เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อขยายขีดความสามารถในการทำงาน การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า และการเพิ่มประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มออมนิแชแนลแบบทวีคูณ

5. Rally Green Impact คือ การยกระดับการทำ Green Transition ด้วยการผนึกกำลังทั้งภาครัฐ เอกชน ลูกค้า และพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ มาร่วมมือกันแก้ปัญหา Climate Change เพื่อไม่ให้ไปสู่ Climate Crisis โดยการลดการใช้พลังงาน ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างโลกสีเขียว เพื่อส่งต่อให้กับคนรุ่นหลัง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์