เตือน คนร้ายฉวยเหตุ อิสราเอล-ฮามาส หลอกรับบริจาค

11 ต.ค. 2566 - 09:20

  • รัฐมนตรีดีอี ห่วงคนไทยตกเป็นเหยื่อ มิจฉาชีพออนไลน์ ใช้สถานการณ์อิสราเอล-ฮามาส หลอกบริจาคช่วยเหลือญาติพี่น้อง

  • พร้อมขอติดตามข่าวสาร จากกระทรวงการต่างประเทศและภาครัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่หลงเชื่อข่าวปลอม ข่าวบิดเบือน และโจรออนไลน์

de-top-executives-israel-hamas-fake-donations-SPACEBAR-Hero.jpg

ประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เผยถึงการประชุมผู้บริหารกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (Top Executives) ว่า มีเรื่องสำคัญ หลายเรื่อง เรื่องแรก คือ ขอแสดงความเสียใจต่อการสูญเสีย ในกรณี อิสราเอล-ฮามาส และ เตือนประชาชน ระวัง! คนร้ายหลอกรับเงินบริจาค ฉวยโอกาสสถานการณ์อิสราเอล-ฮามาส ซึ่งหากพบเห็นก็อย่าหลงเชื่อ และโอนเงินให้กับมิจฉาชีพ ซึ่งจะทำให้เสียทรัพย์สินตามมา นอกจากนี้ ขอให้ระวังข่าวปลอม ข่าวบิดเบือน ขอให้ประชาชน ติดตามข่าวสาร อิสราเอล-ฮามาส จากกระทรวงการต่างประเทศและภาครัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่หลงเชื่อข่าวปลอม ข่าวบิดเบือน

นอกจากนี้ กระทรวงฯ โดยทางบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ได้อำนวยความสะดวกให้สามารถติดต่อสื่อสารได้ฟรี ติดต่อไป อิสราเอล โดยโทรเข้าระบบ 001 800 001 หลังเสียง IVR กด 009 ตามด้วยหมายเลขปลายทาง โทรได้ทุกเครือข่าย

อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์หลอกลวงหลายเรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้มี การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center : AOC) เพื่อให้มีการดำเนินการในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ เป็นศูนย์แบบ One Stop Service สามารถดำเนินการระงับธุรกรรม/อายัดบัญชี ให้แก่ประชาชนทันที และให้คำแนะนำ คำปรึกษาแก่ประชาชนเกี่ยวกับภัยออนไลน์ โดยตั้งเป้าหมาย AOC เริ่มใช้ใน 1 พฤศจิกายนนี้ เป้าหมาย ทำ Call center 100 คู่สาย ให้บริการ 24 ชั่วโมง

ขณะที่ในส่วนของ การปิดกั้นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ผิดกฎหมาย ก็พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1-8 ตุลาคม 2566 มีการปิดกั้น ได้สูงขึ้นมาก  2,417 รายการ เฉลี่ย 302 รายการ (หรือ url) ต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดิม 5 – 6 เท่าตัว จากเดิมในปีงบประมาณ 2566 (1 ตุลาคม 2565 – 30 กันยายน 2566) ปิดกั้น 19,953 รายการ หรือ เฉลี่ย 54.6 รายการ ต่อวัน โดยมีสาเหตุจากการปรับเปลี่ยนวิธีการปิดกั้น โดยใช้บุคคลากร ดีอี ดำเนินการเองมากขึ้น และการร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับ platform สังคมออนไลน์ต่างๆ

de-top-executives-israel-hamas-fake-donations-SPACEBAR-Photo01.jpg

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2566 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี ได้มีการหารือกับ บริษัท META (Facebook) และ Tiktok/Bytedance ประเด็นการป้องกันการหลอกลวงออนไลน์ การทำผิดกฎหมายออนไลน์ โดยเฉพาะที่ คนร้าย มีการซื้อโฆษณาใช้หลอกลวงส่งประชาชนวงกว้าง และหารือประเด็น เรื่อง การสื่อสารที่เป็นภัยสังคม สร้างความเสียหายต่อผู้อื่น ปัญหาข่าวปลอม (Fake News) นอกจากนี้ หารือถึงความร่วมมือ ในการใช้ social media เพื่อการพัฒนาบุคคลากรไทย การพัฒนาอาชีพ และ สร้างรายได้สำหรับคนไทย

รัฐมนตรีประเสริฐ กล่าวในตอนท้ายว่า ขอเตือน คนร้าย คนฉวยโอกาส อิสราเอล-ฮามาส หลอกลวงออนไลน์ หลอกช่วยเหลือญาติพี่น้อง หลอกรับบริจาค ระวังเจอโทษหนัก ตาม พรบ. คอมพิวเตอร์ การนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ โทษสูงสุดจำคุก 5 ปี และอาจเข้าข่ายการฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา โทษจำคุกสูงสุด 5 ปี

de-top-executives-israel-hamas-fake-donations-SPACEBAR-Photo02.jpg

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์