เสียงคัดค้านนโยบายแจกเงิน 10,000 บาทดิจิทัล เริ่มดังขึ้นจากหลายๆ ภาคส่วน ที่ขอให้รัฐบาลทบทวน หากเป็นไปได้ให้ยกเลิกแนวคิดนี้ เพราะไม่ส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ ส่วนนายกรัฐมนตรี ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ยังยืนยันหนักแน่นว่า ‘ไม่ยกเลิก’
กลุ่มที่เคลื่อนไหวคัดค้านล่าสุดคือ วิรังรอง ทัพพะรังสี ที่ออกมารณณรงค์ร่วมลงชื่อ เรียกร้องให้รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ยกเลิกนโยบายแจกเงินดิจิทัลผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท และร้องเรียนให้ผู้ตรวจการแผ่นดินใช้อำนาจ ดำเนินการส่งเรื่องนี้ต่อศาลปกครอง หรือศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยว่า การกระทำดังกล่าวของรัฐบาล ขัดต่อพระราชบัญญัติเงินตรา พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง บทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และบทบัญญัติในส่วนของหน้าที่ของรัฐหรือไม่
ในเนื้อหาการเรียกร้อง ระบุด้วยว่า หากเห็นด้วย และต้องการร่วมคัดค้าน สามารถร่วมลงชื่อในแบบฟอร์มออนไลน์ที่ทางกลุ่มทำขึ้นได้
ก่อนหน้านี้กลุ่มคณะอาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ 81 คน ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านโยบายแจกเงิน10,000 บาทดิจิทัล ด้วยเหตุผล เป็นนโยบายที่ได้ไม่คุ้มเสีย และในรายชื่อที่คัดค้านนี้ มีอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย 2 คน และรองผู้ว่าการ 1 คน ร่วมลงชื่อด้วย
สำหรับ วิรังรอง ทัพพะรังสี เคยเคลื่อนไหวในนามประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศ (มปปท.) และนิสิตเก่าคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่นที่ 30
ส่วนนายกรัฐมนตรี ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ที่เดินทางตรวจงานในจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า กรณี วิรไท สันติประภพ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไม่เห็นด้วยกับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ถือเป็นความคิดเห็นซึ่งรัฐบาลก็ต้องฟัง แต่เรื่องนี้เป็นนโยบายหลักของรัฐบาล ทั้งนี้ จะรับฟังความคิดเห็นจากทุกท่าน แต่ก็มีเสียงจากประชาชนที่ถามว่า เมื่อไหร่จะมาเสียที ซึ่งก็ต้องรับฟัง
ส่วนการทบทวนนโยบายนี้ตามที่มีการเสนอมา เขาตอบหนักแน่นว่า ไม่ เป็นไปไม่ได้ พร้อมกับแย้งว่า คนที่มีเครดิตทางเศรษฐกิจเห็นด้วยก็มีเยอะ ต้องให้เกียรติทุกคน
