ต่อไปนี้ พ่อแม่-ผู้ปกครอง ฝากลูกไว้บนรถโรงเรียน ไม่ต้องกลัวหลับคารถไม่มีอากาศหายใจจนต้องมีข่าวเศร้าอีกต่อไป เพราะดีป้า พัฒนาเทคโนโลยีที่ไม่เพียงติดรถ เพื่อให้รู้ทุกจุดที่รถเคลื่อนเท่านั้น แต่ยังติดไว้ที่ตัวเด็กอีกด้วย ดังนั้น ถ้าเผลอหลับบนรถก็จะถูกตรวจเช็กได้ง่ายแล้ว
ถือเป็นความสำเร็จเป็นอย่างดี จากการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมของ ดีป้า หรือ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ที่ได้จัดโครงการ ‘รถโรงเรียนรุ่นใหม่เด็กปลอดภัย’ (Smart School Bus) ขึ้น นั่นเอง
ดร.ณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) พร้อม ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า และบรรดาผู้บริหารและผู้แทนจากโรงเรียนต่างๆ ร่วมกันเผยความสำเร็จที่เกิดขึ้น
ดร.ณัฐพล ชี้ โครงการรถโรงเรียนรุ่นใหม่เด็กปลอดภัยมีวัตถุประสงค์ส่งเสริมให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลด้านความปลอดภัยเชิงป้องกันให้กับการเดินทางโดยรถรับส่งนักเรียนในพื้นที่เมืองอัจฉริยะที่มีความพร้อม นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างระบบบริหารจัดการรถรับส่งนักเรียนอัจฉริยะต้นแบบ (Smart School Bus Showcase) ที่เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียน ผู้ปกครอง และความมั่นคงปลอดภัยในพื้นที่ อีกทั้งพัฒนาระบบและข้อมูลการเชื่อมต่อการรับส่งนักเรียนแบบบูรณาการ
โดยส่งเสริมให้เกิด Smart School Bus Big Data Platform และ Smart School Bus Intelligent Operation Center ในแต่ละพื้นที่ ซึ่งคาดว่า โครงการดังกล่าวจะช่วยลดความเสี่ยง สร้างความปลอดภัย และเป็นมาตรฐานใหม่ให้กับโรงเรียนทั่วประเทศต่อไป
ด้าน ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวว่า จุดเด่นของโครงการรถโรงเรียนรุ่นใหม่เด็กปลอดภัยคือ การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ป้องกันอุบัติเหตุและสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด โดยการติดตั้งระบบ GPS เพื่อติดตามรถและเด็กนักเรียน พร้อมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่จะประมวลผลและรายงานผลการขับขี่ ข้อมูลรถ ความเร็ว รวมถึงสถานะของเด็กนักเรียนไปยังแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟนของผู้ปกครอง และเว็บเบราเซอร์สำหรับโรงเรียน ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาและป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด รวมถึงอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที ขณะเดียวกันยังเป็นการเพิ่มความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครองและโรงเรียนต่าง ๆ
โครงการรถโรงเรียนรุ่นใหม่เด็กปลอดภัยดำเนินการแล้วเสร็จในเฟสแรก (สิงหาคม 2565 - กรกฎาคม 2566) ครอบคลุม 69 จังหวัดทั่วประเทศ แบ่งเป็นโรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาของรัฐ 315 โรงเรียน ติดตั้งระบบในรถโรงเรียนจำนวน 3,000 คัน และโรงเรียนเอกชน 64 โรงเรียน ติดตั้งระบบในรถโรงเรียนจำนวน 500 คัน รวมทั้งสิ้น 379 โรงเรียน 3,500 คัน โดย ดีป้า ประเมินว่าจะมีนักเรียนได้รับประโยชน์จากโครงการดังกล่าวไม่น้อยกว่า 35,000 คน ซึ่งรวมไปถึงผู้ปกครอง ครู บุคลากรที่เกี่ยวข้อง และตัวแทนผู้ให้บริการรถรับ-ส่ง
“ผลสำเร็จจากโครงการรถโรงเรียนรุ่นใหม่เด็กปลอดภัยถือเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลด้านความปลอดภัย ผลักดันให้เกิดการสร้างระบบบริหารจัดการรถรับส่งนักเรียนอัจฉริยะ และยกระดับระบบและข้อมูลการเชื่อมต่อการรับส่งนักเรียนแบบบูรณาการ อีกทั้งยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะนำพาประเทศไทยไปสู่สังคมดิจิทัลในระยะถัดไป"
ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว