พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม และในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน กล่าวว่า การนัดหมายสอบปากคำพยานแก่กรรมการ 2 บริษัทห้องเย็น จ.นครปฐม คือนายเศกสันต์ มีมูลทอง และนางแอน หนูหอม ให้เข้าชี้แจงเรื่องการโอนเงินกว่า 269 ล้านบาทเข้าบัญชีธนาคารสองพ่อลูกนายทุนหมูเถื่อน (นายวิรัชและนายธนกฤต ภูริฉัตร) ในวันที่ 18 ธันวาคม เวลา 10.00 น. ทั้งหมดได้ขอเลื่อนการเข้าให้ปากคำออกไปเป็นระยะเวลา 10 วัน
ทั้ง 2 คนได้ส่งเอกสารชี้แจงผ่านทนายความว่า เนื่องจากเวลาที่เนิ่นนานร่วม 2 ปี และเพิ่งได้รับหมายเรียก จึงประสงค์ขอเวลาในการรวบรวมพยานวัตถุและพยานเอกสารให้ครบถ้วน เพราะยินดีให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวน จึงขอขยายเวลาในการรวบรวมเอกสารและลำดับเหตุการณ์ทั้งหมดก่อน
พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวต่อว่า คณะพนักงานสอบสวนจะมีการประชุมหารือร่วมกัน เกี่ยวกับวาระงานในสัปดาห์ถัดไป โดยดีเอสไอจะมีการเปิดปฏิบัติการตรวจค้นอีก 2 พื้นที่เป้าหมายในต่างจังหวัดซึ่งเป็นบริษัทห้องเย็นเช่นเดียวกัน รวมถึงจะมีการประชุมเรื่องการออกเลขคดีพิเศษถึงกรณี ขบวนการองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่กลุ่มใหม่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับตู้หมูเถื่อนกว่า 10,000 ตู้ในห้วงปี 2564 เงินหมุนเวียนกว่า 7,000 ล้านบาท
กรณีนี้มีเจ้าหน้าที่รัฐจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและข้าราชการฝ่ายการเมืองรวมถึงบริษัทชิปปิ้งเอกชนพัวพัน คาดว่าอาทิตย์หน้าจะรับเป็นคดีพิเศษอีกหนึ่งคดี ทั้งนี้ ในส่วนของหมายเรียกผู้ต้องหาอีก 1 ราย กลุ่มนายทุนหมูเถื่อน ซึ่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท เรนโบว์ กรุ๊ป จำกัด ยังคงเตรียมเข้าให้ปากคำในวันที่ 20 ธันวาคมเหมือนเดิม
พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวว่า สำหรับการเตรียมสรุปสำนวนส่ง ป.ป.ช. อีก 2 สำนวนนั้น ในสำนวนนี้มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทชิปปิ้งเอกชน 2 แห่ง คือ บริษัท กู๊ด วอเตอร์ อีควิปเม้นท์ จำกัด และบริษัท อาร์.ที.เอ็นโอเวอร์ซี จำกัด โดยเบื้องต้นพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องไม่เกิน 10 ราย และขยายผลพบจากประจักษ์พยาน ส่วนเรื่องคลิปเสียงสนทนาดีลลับ 10 กิโลกรัม เงิน 10 ล้านบาท แลกเปิดตู้หมูที่ท่าเรือแหลมฉบัง จำนวน 39 ตู้ ระหว่างนายไทกร พลสุวรรณ นักกิจกรรมทางการเมืองกับนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษา ร้อยเอกเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดีเอสไอจะดำเนินการในปี 2567
