นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า FTA เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาลและเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศ และเพื่อให้การเจรจา FTA เป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้ประกอบการ เกษตรกร และประชาชน จึงได้เน้นย้ำให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศหารือให้ข้อมูลกับภาคส่วนต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
ความคืบหน้า FTA ไทย-ประเทศคู่ค้า
นายสุชาติ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ที่ผ่านมา กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้จัดการประชุมเพื่อแจ้งความคืบหน้าและรับฟังความเห็นเกี่ยวกับการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ของไทยกับประเทศคู่ค้า ซึ่งมีผู้เข้าร่วมจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมเข้าร่วมกว่า 300 ราย โดยได้แจ้งความคืบหน้า FTA ไทย-ศรีลังกา (ลงนามเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567) ไทย-สหภาพยุโรป (EU) ไทย-สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) ไทย-ภูฏาน ไทย-เกาหลีใต้ และอาเซียน-แคนาดา
ซึ่งในเดือนมีนาคมนี้ ความตกลงไทย-ศรีลังกา คาดว่าจะมีผลใช้บังคับแล้ว จึงอยากจะประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่สนใจจะส่งสินค้าไปศรีลังกา ศึกษารายละเอียดของความตกลงเพื่อเตรียมใช้ประโยชน์จากความตกลงต่อไป
นอกจากนี้ ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาไทยสามารถสรุปการเจรจากับ EFTA ได้แล้ว ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายพิชัย นริพทะพันธุ์) มีนโยบายเดินหน้าการเจรจา FTA ฉบับอื่นๆ ให้เสร็จลุล่วงโดยเร็วเช่นกัน ขณะนี้หลายฉบับมีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะ FTA ไทย-ภูฏาน ที่แม้จะมีการเจรจาไปไม่กี่รอบแต่ใกล้จะสรุปผลการเจรจาได้แล้ว
“ในปี 2568 ไทยตั้งเป้าจะสรุปการเจรจา FTA กับเกาหลีใต้ และจะร่วมกับอาเซียนผลักดันการเจรจา FTA กับแคนาดาให้สำเร็จลุล่วง สำหรับการเจรจา FTA กับสหภาพยุโรป หรือ EU ที่ผ่านมาการเจรจามีความคืบหน้าไปได้ด้วยดี โดยทั้งสองฝ่ายเห็นเหมือนกันที่จะสรุปการเจรจาให้ได้โดยเร็วที่สุด ซึ่งต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมทำงานกับกระทรวงพาณิชย์มาโดยตลอด โดยเฉพาะการให้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์สำหรับการนำมาวิเคราะห์ต่อยอดเพื่อกำหนดท่าทีการเจรจาที่เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไทย รวมทั้งเสนอกลุ่มประเทศใหม่ๆ ที่ไทยน่าจะทำ FTA ด้วย ทั้งในภูมิภาคแอฟริกา และอเมริกาใต้ ซึ่งได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศไปพิจารณาศักยภาพในการจัดทำ FTA กับตลาดดังกล่าว เพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับสินค้าไทยในตลาดใหม่ๆ ต่อไป”
นายสุชาติ กล่าว
