ดุสิตโพล ชี้ผลสำรวจ รัฐแก้ปัญหาเศรษฐกิจไร้ประสิทธิภาพ

23 ก.พ. 2568 - 06:18

  • ดุสิตโพล เผยผลสำรวจ คนไทยกับภาวะเศรษฐกิจ ณ วันนี้ พบเศรษฐกิจ กระทบชีวิตประชาชน ไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย

  • โดย 51.01% สภาพเศรษฐกิจทำให้ ใช้จ่ายเดือนชนเดือน ต้องระมัดระวังการใช้จ่าย

  • ขณะที่ 69.50% รัฐบาลยังไม่มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

dusit_poll_survey_thai_economy_impact_people_spending_SPACEBAR_Hero_ec46f4e6b5.jpg

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ ประเด็น “คนไทยกับภาวะเศรษฐกิจ ณ วันนี้” กับกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,141 คน โดยเป็นการสำรวจทั้งทางออนไลน์และภาคสนาม ช่วงระหว่างวันที่ 18-21 กุมภาพันธ์ 2568 

ทั้งนี้ ผลโพลสะท้อนถึงความไม่เชื่อมั่นต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล ท่ามกลางราคาสินค้าและบริการที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้ประชาชนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย เป็นสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจในระดับรากหญ้า แม้รัฐบาลพยายามเร่งอัดฉีดเงินหมื่นเข้าไปกระตุ้น แต่ก็ยังไม่สามารถขับเคลื่อนได้ตามเป้า

ซึ่ง นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ชี้ว่า นี่คือความท้าทายของรัฐบาลเพื่อไทย ที่ครั้งหนึ่งเคยสร้างชื่อ จากความสำเร็จด้านเศรษฐกิจ วันนี้ต้องเร่งคืนความเชื่อมั่น เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย ท่ามกลางแรงกดดัน จากทั้งภายในและปัจจัยเสี่ยงจากภายนอกประเทศ

info_dusit_poll_survey_thai_economy_impact_people_spending_45abfec199.jpg

สำหรับผลสำรวจ ที่ชี้ “เศรษฐกิจกระทบชีวิตประชาชน ไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย” สืบเนื่องมาจาก สภาพเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างชัดเจน

โดยกลุ่มตัวอย่าง 51.01% ระบุว่า ต้องใช้จ่ายแบบ ‘เดือนชนเดือน’ และต้องระมัดระวังในการใช้เงินมากขึ้น เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น สวนทางกับรายได้ ที่ยังคงเท่าเดิม ขณะที่ 42.68% เผชิญปัญหาหนี้สินที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากบัตรเครดิตและเงินกู้ต่างๆ 

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากที่สุด พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ถึง 82.94% ประสบปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้คนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย กำลังซื้อในประเทศไม่ขยายตัว สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลและแรงกดดันทางเศรษฐกิจ ที่คนไทยกำลังเผชิญอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกลุ่มที่มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการใช้จ่าย หรือมีหนี้สินเพิ่มขึ้น

อีกข้อใหญ่ “ไม่มั่นใจการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เรียกร้องนายกฯ เร่งแก้ไข”

ผลสำรวจ เผยให้เห็นถึงความไม่เชื่อมั่นของประชาชน ต่อมาตรการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยกลุ่มตัวอย่าง 69.50% มองว่า การแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล ยังไม่มีประสิทธิภาพ และยังมีอีก 76.58% ที่เชื่อว่า นายกรัฐมนตรีและฝ่ายรัฐบาล ควรเข้ามาแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วน ขณะที่เมื่อถามถึง “บทบาทของอดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร หากเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ” ประชาชน 41.63% ยังเชื่อว่า เศรษฐกิจก็จะยังเหมือนเดิม 

สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจ ปี 2568 กลุ่มตัวอย่าง 46.01% เชื่อว่า สถานการณ์เศรษฐกิจน่าจะยังทรงตัว ขณะที่ 39.44% คาดว่า เศรษฐกิจอาจจะแย่ลง และมีเพียง 14.55% ที่มองในแง่ดีว่า เศรษฐกิจน่าจะดีขึ้น นี่จึงเป็นส่วนสำคัญ ที่แสดงถึงความไม่มั่นใจ และความกังวลต่อทิศทางเศรษฐกิจในอนาคต

สำหรับหัวข้อ และการตอบแบบสอบถาม สรุปผล ดังนี้ 1. สภาพเศรษฐกิจไทย ณ วันนี้ มีผลกระทบต่อประชาชนอย่างไรบ้าง อันดับ 1 ส่งผลกระทบ ทำให้ใช้จ่ายเดือนชนเดือน ต้องระมัดระวังการใช้จ่าย 51.01%

อันดับ 2 กระทบหนัก มีหนี้สินเพิ่มขึ้น ทั้งหนี้บัตรเครดิตและเงินกู้ต่างๆ 42.68% อันดับ 3 ไม่ส่งผลกระทบ เพราะมีรายได้ที่มั่นคงและบริหารการเงินได้ดี 6.31%

2. ประชาชนคิดว่าปัจจัยใดที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากที่สุด อันดับ 1 ค่าครองชีพสูง คนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย กำลังซื้อในประเทศไม่ขยายตัว 82.94% อันดับ 2 ค่าเงินผันผวน ราคาทองคำผันผวน 62.07% อันดับ 3 ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ภาคเอกชนไม่กล้าลงทุน 51.11%

3. ประชาชนคิดว่ามาตรการของรัฐบาลในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นอย่างไร อันดับ 1 ไม่มีประสิทธิภาพ 69.50%

อันดับ 2 มีประสิทธิภาพ 25.15% อันดับ 3 ไม่แน่ใจ 5.35%

4. ประชาชนคิดว่าใคร/หน่วยงานใดควรเข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจโดยเร่งด่วน อันดับ 1 นายกรัฐมนตรีและฝ่ายรัฐบาล 76.58% อันดับ 2 กระทรวงพาณิชย์ 52.50% อันดับ 3 สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) 47.60%

5. หากอดีตนายกรัฐมนตรีนายทักษิณ ชินวัตร จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ประชาชนคิดว่าสถานการณ์เศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร อันดับ 1 เศรษฐกิจน่าจะเหมือนเดิม 41.63% อันดับ 2 เศรษฐกิจน่าจะดีขึ้น 34.18% อันดับ 3 เศรษฐกิจอาจจะแย่ลง 24.19%

6. ประชาชนคาดว่าเศรษฐกิจในปี 2568 นี้จะดีขึ้นหรือไม่ อันดับ 1 เศรษฐกิจน่าจะเหมือนเดิม 46.01% อันดับ 2 เศรษฐกิจอาจจะแย่ลง 39.44% อันดับ 3 เศรษฐกิจน่าจะดีขึ้น 14.55%

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอกอนงค์ ศรีสำอาง ประธานหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยดุสิต เผย ประชาชนมองว่า มาตรการของรัฐบาลไม่มีประสิทธิภาพ ควรเร่งปรับปรุงนโยบายเศรษฐกิจ และคาดหวังว่า นายกรัฐมนตรีและฝ่ายรัฐบาลจะมีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้นำ ในการแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วน กระทรวงพาณิชย์และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติก็ถูกคาดหวัง ให้ช่วยสนับสนุนการแก้ไขปัญหานี้เช่นกัน 

นอกจากนี้ การที่ประชาชน คาดว่า เศรษฐกิจปีนี้จะคงที่หรือแย่ลง แสดงถึงความไม่เชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจในระยะสั้น แม้ว่า จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แจกเงิน 10,000 บาทออกมาก็ตาม รัฐบาลควรปรับมาตรการเศรษฐกิจ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากค่าครองชีพ และช่วยลดภาระหนี้สินของประชาชน กระตุ้นการลงทุน โดยการลดต้นทุนการผลิต และสร้างความมั่นคงในระบบการเงิน ที่สำคัญอย่างยิ่ง คือ การเพิ่มความโปร่งใส และมีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพกับประชาชน เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ในนโยบายเศรษฐกิจอย่างจริงจังและจริงใจ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์