ดุสิต ปริ๊นเซส พัทลุง แม้จะเพิ่งเปิดไปเมื่อ 22 ธันวาคม 2566 แต่สัญญาณการเข้าพักของนักเดินทางจนถึงปัจจุบันก็ยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น เรียกได้ว่า ตลอด 3 เดือนที่ดุสิต ปริ๊นเซส เปิดให้บริการ พี่น้องชาวภาคใต้มีการกล่าวขานถึงเมืองพัทลุงไม่ขาดสาย ทั้งในแง่ความยินดีปรีดาที่พัทลุงมีโรงแรมแบรนด์ดังอย่าง ‘ดุสิต’ เข้าไปก่อตั้ง และในแง่ของ ‘เพื่อนบ้าน’ อย่างชาวเมืองตรัง และสงขลา ก็ใช้โอกาสนี้ทยอยเข้าไปเยือน และทดลองใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
งานนี้ ฟากฝั่งดุสิต เองก็เผยว่า ถือเป็นสัญญาณที่ดีหลังสถานการณ์โควิด-19 จบสิ้น ภาคเศรษฐกิจ การเดินทางและการท่องเที่ยวกำลังเดินหน้า โดยดุสิตปริ๊นเซส พัทลุง เป็นโรงแรมภายใต้แบรนด์ดุสิตลำดับที่ 15 ในประเทศไทย และเป็นโรงแรมแรกในเครือฯ ภายใต้แบรนด์ ‘ดุสิต ปริ๊นเซส’ ที่เปิดให้บริการในภาคใต้ การเข้ามารุกตลาดเมืองรองที่พัทลุง เป็นเพราะโลเกชันน่าสนใจ เป็นจังหวัดเดียวในภาคใต้ที่ไม่ติดทะเล ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยว แต่สภาพธรรมชาติมีจุดเด่นไม่น้อย โดยเฉพาะภาคเกษตรที่ชาวบ้านต่อยอดอาชีพมากมาย การมาของ ดุสิต ปริ๊นเซส ในฐานะโรงแรม 4 ดาว ก็จัดว่า เป็นธุรกิจโรงแรมที่พักที่ไม่เหมือนใคร น่าจะเป็นโอกาสของธุรกิจของการท่องเที่ยวที่เกี่ยวเนื่องกับการประชุมสัมมนาที่ยอดเยี่ยม
ว่าแล้ว ดุสิต กรุ๊ป ก็ไม่รอช้าเฟ้นหาผู้บริหารโครงการ จนมาสบเหมาะพบเจอเข้ากับนายหัวเจ้าของพื้นที่ มีดีกรีตระกูลคหบดี เป็นนักบริหารโรงแรมในเมืองท่องเที่ยวที่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ที่ขณะนี้ได้ขายกิจการภายหลังบุพการีเสียชีวิต ขอกลับมาบริหารธุรกิจในบ้านเกิด นี่จึงเป็นศักยภาพ 2 เด้ง (คือ ผู้เชี่ยวชาญบริหารธุรกิจโรงแรมที่พักในเมืองท่องเที่ยว และผู้รู้ศักยภาพเมืองพัทลุงเป็นอย่างดี ในฐานะเจ้าของพื้นที่) วาดหวังได้เต็มเปี่ยมว่า จะเป็น “ผู้รู้ เข้าใจ เติมเต็ม ต่อยอด ขยายศักยภาพธุรกิจโรงแรมในเมืองลุง” เปิดประตูให้ผู้เข้าพักได้รู้จักกับสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ อาหาร และวัฒนธรรมของจังหวัดพัทลุง สมดังคำขวัญ “เมืองหนังโนรา อู่นาข้าว พราวน้ำตก แหล่งนกน้ำ ทะเลสาบงาม เขาอกทะลุ น้ำพุร้อน” ได้ครบถ้วน
ไชยยันต์ ไตรสุวรรณ ประธานกรรมการ บริษัทบ้านในสวนดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ในฐานะ Owner ดุสิต ปริ๊นเซส พัทลุง กล่าวด้วยใบหน้าเคล้ารอยยิ้ม เมื่อพูดถึงการเข้าบริหาร ‘ดุสิต ปริ๊นเซส พัทลุง’ ว่า เรายังคงมุ่งมั่น ทำดุสิต ปริ๊นเซส ให้เป็น ‘รีสอร์ทใจกลางเมือง’ ถือเป็นการทำงานช่วงสุดท้ายของชีวิต หลังอายุย่างเข้าวัย 69 ปีแล้ว เราน่าจะจบด้วยการทำสิ่งที่เราชอบ นั่นก็คือ ‘โรงแรม’ โดยการมาทำโรงแรมในตอนนี้ ต้องคิดด้วยว่า จะทำอย่างไรที่ไม่ต้องไปแข่งกับเพื่อนๆ ซึ่งมีโรงแรม 3 ดาวในพัทลุงอยู่แล้วจำนวนมาก
และ ดุสิต ปริ๊นเซส ก็เป็นโรงแรม 4 ดาวแห่งแรกและแห่งเดียวในพื้นที่ จึงสบายใจได้ในข้อแรก และอีกด้าน คิดว่า เป็นความท้าทายใหม่ของการบริหารโรงแรมในพื้นที่ ที่ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยว แถมยังเป็นเมืองรอง เมืองเล็กๆ จึงยังมีความยากในหลายด้าน แง่ดีตอนนี้ ช่วยให้ลูกค้ามีทางเลือก ทำให้หลายคนได้ทราบว่า พัทลุง มีโรงแรม 4 ดาวแล้ว แต่ด้านที่เป็นความยาก คือเรื่องบุคลากรมืออาชีพ และการบริการที่ต้องคงมาตรฐานโรงแรม 4 ดาวอย่างเคร่งครัด ในขณะที่ลูกค้าขณะนี้ แทบ 100% เป็นลูกค้าที่เข้าพักแค่ 1 คืนเท่านั้น
“โรงแรมเชนมาเกิดในจังหวัดเล็กๆ เนี่ยะมันยากมาก ดุสิตมาเกิดที่นี่ ถือเป็นการ upper level ของโรงแรมในพัทลุง เพื่อให้แขกมีทางเลือก เป็นการขยับตลาดที่สูงขึ้นไปอีกนิด อันนี้ไม่ได้อวดอ้างว่าเราดีที่สุดนะ แต่หมายถึงเราไม่ต้องไปแย่งหรือไปแข่งกับเพื่อนเราที่เค้าทำโรงแรม 3 ดาวอยู่แล้ว นี่จึงเป็นโอกาสที่ดี ทั้งในแง่การสร้างชื่อเสียงให้จังหวัด ยกระดับบริการโรงแรมขึ้นอีกขั้น ที่สำคัญ เมืองพัทลุง ยังจะต่อยอดอะไรได้อีกมาก ทั้งในด้านท่องเที่ยว เกษตร หรือแม้แต่การเข้ามาท่องเที่ยวสัมมนา”
Owner ดุสิต ปริ๊นเซส พัทลุง กล่าว
สำหรับกลุ่มเป้าหมายด้านลูกค้าของโรงแรมนั้น Owner ดุสิต ปริ๊นเซส ชี้ว่า ในเบื้องต้นเป็นลูกค้าชาวไทยในจังหวัดใกล้เคียงที่มีขนาดใหญ่กว่า และมีความต้องการมองหาความสงบจากตัวเมืองที่วุ่นวาย รวมถึงกลุ่มลูกค้าชาวมาเลเซีย ที่มีสถิติการมาเยือนพัทลุงพุ่งสูงขึ้นทุกๆ ปี อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไวเกินไปที่จะเห็นภาพดังกล่าว เนื่องจากโรงแรมเพิ่งเปิดได้เพียง 3 เดือนกว่า แต่ตลอด 3 เดือนนี้ได้เห็นอัตราเข้าพัก เฉลี่ยแล้วเท่ากับ 60-70% ยังต้องตามดูต่อไปว่า ลูกค้ากลุ่มโรงแรม 4 ดาวจะเข้ามาในพื้นที่มีมากน้อยแค่ไหน ส่วนใหญ่เข้ามาเพื่ออะไร ก่อนจะประเมินภาพใหญ่ และวางกลยุทธ์รับมือที่ดียิ่งขึ้นต่อไปได้ แต่สำหรับภาพของการเดินทางมายังพัทลุงขณะนี้ ถือได้ว่า สะดวกสบายยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก น่าจะทำให้ลูกค้าเข้ามาเพิ่มขึ้นได้ไม่ยาก เนื่องจากตั้งอยู่ห่างจากท่าอากาศยานตรังเพียงแค่ 1 ชั่วโมงโดยรถยนต์ หรือ 1.5 ชั่วโมงจากท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่
ทั้งนี้ Owner ดุสิต ปริ๊นเซส พัทลุง ยังตอกย้ำ จะยังมุ่งมั่นบริหารดุสิต ปริ๊นเซส พัทลุง ให้เป็นที่รู้จัก เป็นฟันเฟืองหนึ่งของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยอำนวยความสะดวกกับผู้มาเยือน สร้างอนาคตการท่องเที่ยว และชื่อเสียงให้จังหวัดเป็นที่รู้จักยิ่งๆ ขึ้นต่อไป
สำหรับการก่อกำเนิดดุสิต ปริ๊นเซส พัทลุง ถือเป็นการสร้างความใหม่ในพื้นที่ได้ไม่น้อย โดย Owner ดุสิต ทิ้งท้าย ด้วยบทสนทนาระหว่าง ท่านผู้ว่าฯ (นิศากร วิศิษฏ์สรอรรถ) กับเพื่อน ที่แซวกันถึงความเจริญในพื้นที่ โดยยิงคำถามว่า จังหวัดพัทลุงมีสตาร์บัคส์หรือยัง ซึ่งสตาร์บัคส์ ถือเป็นร้านกาแฟแบรนด์ใหญ่ แสดงถึงการเข้าไปรุกตลาด แล้วพัทลุงล่ะ? ท่านผู้ว่าฯ ก็เลยตอบ “สตาร์บัคส์ ฉั้นไม่มี แต่ฉั้นมีดุสิต ปริ๊นเซส” ณ จุดนี้ ก็สร้างความภาคภูมิใจกับเจ้าของ ที่ฟังท่านผู้ว่ากล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เพราะที่นี่คือบ้าน แล้วพี่ก็ผูกพันกับที่นี่มาก แม่มีโรงโม่หินที่นี่ มีโรงเลื่อยที่นี่ ที่นี่คือนา เลยไปอีกนิด มีสวนยางเป็นร้อยไร่ ที่นี่คือบ้าน บ้านที่จริงๆ แล้วพูดด้วยความจริงใจ ด้วยเหตุผลหลักคือแน่นอนเราเป็นนักธุรกิจกำไรขาดทุนเป็นเรื่องสำคัญ แต่จริงๆ ไม่ได้คาดหวังแบบนี้ทั้งหมด แค่ให้โรงแรมเลี้ยงตัวเองได้ก็พอ เพราะตลอดชีวิตเราไปทำฝนตกบ้านเพื่อนมาเกือบทั้งชีวิต ให้ฝนมันตกบ้านตัวเองบ้างเถอะ หลายๆ คนเค้าก็นินทาบ้านพี่ว่า มืดฝนแต่ฝนไม่ตก ไปตกกระบี่ ตกภูเก็ต (ตอนนี้ภูเก็ตยังมีโรงแรมอยู่) เราตัดสินใจว่า ในช่วงสุดท้ายของชีวิตเรา เราต้องมีอะไรให้กับบ้านบ้าง และเคยได้คุยกับท่านผู้ว่าฯ (นิศากร วิศิษฏ์สรอรรถ) ท่านก็เล่าให้พี่ฟังว่า ท่านไปนั่งกับเพื่อนแล้วถูกเพื่อนแซวว่า “เฮ๊ย จังหวัดเองมีสตาร์บัคส์หรือยัง” คือเค้าจะคุยว่าบ้านเค้าเจริญ ท่านผู้ว่าฯ ก็เลยตอบ “สตาร์บัคส์ ฉั้นไม่มี แต่ฉั้นมีดุสิต ปริ๊นเซส” ไอ้เราก็ภูมิใจที่อย่างน้อยก็เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างชื่อเสียงให้จังหวัด”
ไชยยันต์ กล่าว
