บริษัทพลังงานบริสุทธิ์ เร่งดึงพาร์ทเนอร์กู้วิกฤติ ย้ำวงเงินพร้อมชำระหนี้ 2567 โดยบริษัทจะมีรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลมทุกเดือนประมาณ 1,000 ล้านบาท รายได้จากการดำเนินกิจการ 1,900 ล้านบาท และเงินกู้จากสถาบันการเงินวงเงินประมาณ 6,000 ล้านบาท
ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์ฯ”) ได้แจ้งต่อบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ให้ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบฐานะทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นจากภาระหนี้สิน โดยเฉพาะเงินกู้และหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระภายในปี 2567 และแนวทางที่ชัดเจนในการชำระหนี้ดังกล่าว รวมทั้งผลกระทบต่อการบริหารจัดการกิจการของบริษัทฯ สืบเนื่องจากการพ้นจากตำแหน่งของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารจากรณีการกล่าวโทษโดยสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ขึ้นเครื่องหมาย ‘H’ (Halt) จนกว่าบริษัทฯ จะแจ้งข้อมูลให้ครบถ้วน
ในการนี้ บริษัทฯ ขอชี้แจงประเด็นดังกล่าวดังนี้
1. ณ สิ้นเดือนมี.ค. 2567 บริษัทฯ มีหนี้สินเงินต้นที่จะครบกำหนดชำระภายในปี 2567 จำนวน 19,505 ล้านบาท
ซึ่งประกอบด้วยรายละเอียดตามตารางด้านล่างนี้

EA ชี้แจงภาระหนี้สิน
สำหรับภาระหนี้สินที่จะต้องชำระในวันที่ 31 ธ.ค. 2567 ที่บริษัทได้ชี้แจงตลาดหลักทรัพย์ไปก่อนหน้านั้นเป็นในส่วนภาระการชำระหนี้ระยะยาวของบริษัทรวมทั้งหุ้นกู้ โดยพิจารณาจากการประมาณการเงินกู้ระยะยาวรวม ดอกเบี้ยที่ต้องชำระคืนประมาณ 3,200 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระอีก 5,500 ล้านบาท ซึ่งจะต้อง ดำเนินการชำระตั้งแต่วันที่ชี้แจง จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567
ทั้งนี้ ส่วนที่เหลือเป็นวงเงินกู้ระยะสั้นจากสถาบันการเงินหลายแห่งซึ่ง ณ สิ้นไตรมาสที่หนึ่ง มีอยู่ที่ 8,354 ล้านบาท โดยเบื้องต้นบริษัทไม่ได้ขี้แจงเนื่องจากวงเงินกู้ระยะสั้นนั้นโดยปกติบริษัทจะทำการ Roll Over เงินกู้ระยะสั้นในส่วนนี้อยู่แล้ว
บริษัทขอชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมของเงินกู้ และหุ้นกู้ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
• รายละเอียดหุ้นกู้
หุ้นกู้ทั้งหมดที่บริษัทมีนั้นเป็นหุ้นกู้ที่ไม่มีหลักประกันและมีเงื่อนไข Cross Default กับสถาบันการเงินหรือหุ้นกู้อื่น

• รายละเอียดเงินกู้ยืมระยะยาวสถาบันการเงินสุทธิ (รวมเงินกู้ระยะยาวจากสถาบันการเงินที่ถึงกำหนดชำระภายใน 1 ปี)
โดยเงินกู้ทั้งหมดมีเงื่อนไข Cross Default กับสถาบันการเงิน หรือหุ้นกู้อื่น
2. จากเดิมบริษัทมีความตั้งใจที่จะ Roll Over เงินกู้ระยะสั้นตามที่เคยปฏิบัติมาสำหรับเงินกู้ระยะสั้นทั้งหมด และมีแผนที่จะชำระเงินกู้และหุ้นกู้ระยะยาวที่จะครบกำหนดในปี 2567 ด้วย
2.1 กระแสเงินสดจากการดำเนินงานโดยไตรมาสที่ 1 ปี 2567 บริษัทมีกระแสเงินสดจากการดำเนินกิจการจำนวน 1,900 ล้านบาท และบริษัทจะมีรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลมทุกเดือนประมาณ 1,000 ล้านบาท
2.2 วงเงินกู้จากสถาบันการเงินวงเงินประมาณ 6,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาขั้นสุดท้ายของสถาบันการเงิน
2.3 หุ้นกู้ที่จะออกเพิ่มเติมในปี 2567 จำนวนและวันเสนอขาย อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้รับประกันการจัดจำหน่าย โดยบริษัทคาดว่าจะเป็นหุ้นกู้อายุ 1 ปี และ 3 ปี
TRIS Rating ลดอันดับ EA เหลือ BB+ (Negative)
อนึ่ง ณ เวลา 16:15 น. บริษัทได้รับการแจ้งข้อมูลจาก TRIS Rating ว่าบริษัทได้ถูกปรับลดระดับความน่าเชื่อถือจาก BBB+ (Negative) เป็น BB+ (Negative) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อวงเงินกู้จากสถาบันการเงิน และหุ้นกู้ใหม่ที่จะออกตามแผนเดิม อย่างไรก็ดี บริษัทขอเน้นย้ำว่าบริษัทยังมีรายได้จากโรงไฟฟ้าประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งเป็นกระแสเงินสดหลักให้กับบริษัท นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจาและพิจารณาคัดเลือก Strategic Partner(s) เข้ามาร่วมลงทุน สร้างความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน เพิ่มศักยภาพในการชำระหนี้ และพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว
3. สำหรับผลกระทบต่อการบริหารจัดการกิจการของบริษัทฯ กรณีนายสมโภชน์ อาหุนัย (ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร) และนายอมร ทรัพย์ทวีกุล (CFO) ซึ่งดูแลรับผิดชอบตำแหน่งบริหารสำคัญ พ้นจากตำแหน่งดังกล่าวนั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ และนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากคณะผู้บริหารและทีมงานที่บริหารจัดการยังคงเป็นชุดเดิม
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้แต่งตั้งนายสมใจนึก เองตระกูล เข้าดำรงตำแหน่งรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์และเป็นที่น่าเชื่อถือ สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัทฯ รวมถึงกำหนดทิศทางเชิงกลยุทธ์เพื่อนำบริษัทก้าวผ่านวิกฤตได้
สำหรับนายวสุ กลมเกลี้ยง ในฐานะรักษาการ CFO เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทั้งด้านการเงินการลงทุน และเป็นอดีตผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ มีประสบการณ์เกี่ยวกับธุรกิจของบริษัทเป็นอย่างดี อีกทั้งมีศักยภาพ ทักษะความรู้ความสามารถในการบริหารงานที่เกี่ยวข้อง และอยู่ในสายงานนี้มามากกว่า 10 ปี ทั้งนี้ หากบริษัทฯ มีความคืบหน้า เรื่องการแต่งตั้งตำแหน่งตามที่กล่าวข้างต้นแล้ว จะแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์รับทราบต่อไป