กลยุทธ์ ‘กัลฟ์ ไบแนนซ์’ ผู้นำตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทย

20 มีนาคม 2567 - 09:00

economic-binance-gulf-deigital-SPACEBAR-Hero.jpg
  • เปิดตัวอย่างเป็นทางการแพลตฟอร์ม BinanceTH

  • การผนึกกำลังระหว่าง กัลฟ์ และ ไบแนนซ์

  • วางยุทธศาสตร์เป็นผู้นำสินทรัพย์ดิจิทัลของไทย

ในระหว่างการแถลงข่าวในงานสัมมนา Gulf Binance Deigital Asset Forum เมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา นิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ กัลฟ์ ไบแนนซ์ จำกัด ประกาศถึงความมุ่งมั่นในการที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทย จากความแข็งแกร่งและความพร้อมในทุก ๆ ด้านของกลุ่มกัลฟ์เอ็นเนอร์จี ดีเวล ลอปเม้นท์ ที่เป็นผู้นำในด้านโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศ ทั้งเรื่องพลังงานและโทรคมนาคม ที่มาผนึกกำลังร่วมกับ กลุ่มไบแนนซ์ที่เป็นผู้ชำนาญด้านเทคโนโลยีด้านบริการสินทรัพย์ดิจิทัลในระดับโลก 

เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว จะดำเนินการผ่านกลยุทธ์หลักที่จะให้ความสำคัญกับ5 เรื่อง คือ 

  1. การให้ความสำคัญกับลูกค้าซึ่งถือเป็นหัวใจ User First & Focus 
  2. มุ่งเน้นการพัฒนาและต่อยอดอย่างต่อเนื่อง Keep Building 
  3. การสร้างชุมชนและเครือข่ายผู้ใช้บริการ ในเรื่องอค์ความรู้ Community 
  4. การสร้างความรู้ความเข้าใจให้สังคมตระหนักรู้ในวงกว้าง Driving Adoption through Education 
  5. การกำกับดูแล โดยทำตามกฎระเบียบ ผ่านการทำงานและประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ Regulatory & Compliance 

นอกจากนี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ไบแนนซ์  ริชาร์ด เทง กล่าวว่า กัลฟ์ ไบแนนซ์ จะเน้นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยึดมั่นใน DNA ของกลุ่ม ไบแนนซ์ ที่เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ประสบความสำเร็จไปทั่วโลก คือ การให้ความสำคัญกับผู้ใช้บริการ การให้ความสำคัญกับการกำกับดูแล และการทำงานร่วมกันกับหุ้นส่วนสำคัญ  

ทั้งสองคนยืนยันว่าด้วยจุดแข็งของ  กัลฟ์ และ ไบแนนซ์ ความร่วมมือนี้จะช่วยให้นักลงทุนในประเทศไทยเข้าสู่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น โดยขณะนี้ประเทศไทยมีความพร้อมหลายด้าน ตั้งแต่การมีโครงสร้างพื้นฐานและระบบนิเวศน์ หรือ Ecosystem ที่ดี เห็นได้ชัดจากความตื่นตัวของคนไทย และการเปิดกว้างในการก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัลได้อย่างรวดเร็วเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก เพียงแต่ยังขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องสินทรัพย์ดิจิทัลในวงกว้าง

ปัจจุบันประเทศไทยอยู่ในอันดับ10 ของประเทศที่มีการครอบครองสินทรัพย์ดิจิทัล และมีคนไทยราว 10% ของประชากรที่เข้าสู่โลกของสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมีความตื่นตัวอย่างมากในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา เพียงแต่ก่อนหน้านี้มีหลายเหตุการณ์ที่สั่นคลอนความเชื่อมั่น เช่นการล้มลงของแฟลตฟอร์มดังหลายราย รวมทั้งในไทย แต่ในช่วงเวลานี้เมื่อราคาสินทรัพย์ดิจิทัล เริ่มฟื้นตัวกลับมา นักลงทุนก็เริ่มกลับมาให้ความสนใจใหม่อีกครั้ง โดยเฉพาะในกลุ่มนักลงทุนหน้าใหม่  

กลุ่มกัลฟ์ ไบแนนซ์ มั่นใจว่าจะสามารถสร้างแพลตฟอร์ม BinanceTH ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ให้ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งของไทย ภายใต้แนวคิด More with Binance TH โดยจะเป็นแพลตฟอร์มที่มีเหรียญ ซื้อขายมากที่สุดถึง 120 โทเคน มีความแข็งแกร่งมากกว่าในด้านเทคโนโลยี มีเครื่องมือที่ช่วยในการซื้อขายมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นบทวิเคราะห์ การจัดพอร์ตการลงทุน และการแจ้งเตอนการซื้อขาย และในช่วงของการเปิดตัว ยังมีแคมเปญที่จะให้รางวัลให้กับผู้ที่เข้ามาเป็นลูกค้าใช้บริการ

economic-binance-gulf-deigital-SPACEBAR-Photo01.jpg
economic-binance-gulf-deigital-SPACEBAR-Photo02.jpg

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ไบแนนซ์  ให้ความเห็นว่าแนวโน้มการเติบโตของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในไทยยังคงเปิดกว้างให้มีผู้เล่นรายใหม่ ๆ เข้ามา เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย ในขณะที่ทั้งสองบริษัทเป็นบริษัทใหญ่ กัลฟ์มีระบบนิเวศน์ที่แข็งแกรง มีเอไอเอสที่มีเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง มีฐานลูกค้าถึงกว่า 45 ล้านราย ทำให้สามารถจับมือเพื่อการพัฒนาร่วมกัน

ขณะที่ไบแนนซ์ มีเทคโนโลยีที่พัฒนาบน web3 มีความทันสมัย ความเสถียร และความน่าเชื่อถือที่จะเอามาประยุกต์ใช้ในประเทศไทยประเทศไทยมีโอกาสตลาดคริปโทและ web3 จะเติบโตอีกมาก บริษัทมีเครื่องมือในการลงทุนที่หลากหลาย จึงต้องพิจารณาว่ามีปัจจัยอะไรที่จะสนับสนุนให้นำเสนอผลิตภัณฑ์ในการลงทุนที่เหมาะสม

เขากล่าวอีกว่า ไบแนนซ์ จะมุ่งไปที่ผู้ใช้งานเป็นหลัก ความมั่นใจของผู้ลงทุนคือความแข็งแกร่งของไบแนนซ์ ตลาดคริปโททั่วโลกเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ละประเทศให้ความสำคัญมากขึ้นและมีกฎระเบียบออกมามากมาย  ไบแนนซ์ จึงพูดคุยกับองค์กรกำกับดูแลเพื่อให้การลงทุนมีความราบรื่นมากขึ้น คริปโท และ บล็อกเชน ผ่านการพิสูจน์จากหลายประเทศมีกฎเกณฑ์ที่สนับสนุนการลงทุนคริปโทที่มากขึ้น ถือเป็นโอกาสที่ดีที่คริปโทจะเข้าสู่การลงทุนกระแสหลัก เชื่อว่าจะมีนักลงทุนเข้าสู่ตลาดคริปโทมากขึ้นกว่า 5 ปีที่ผ่านมา

“อนาคตของคริปโทเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยาก อุตสาหกรรมคริปโทเริ่มเข้าสู่วัฎจักรในทุกสี่ปี ในรอบนี้ถือเป็นปรากฎการณ์สำคัญที่แสดงให้เห็นว่ามีความต้องการคริปโทที่มากขึ้่น โดยจะมุ่งไปยังทิศทางที่เพิ่มขึ้นอีก”

นิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ กัลฟ์ ไบแนนซ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า  การเป็นหน้าใหม่ในวงการทำให้ต้องสร้างธุรกิจเพื่อให้ได้ส่วนแบ่งตลาด สิ่งที่ต้องทำคือการสร้างผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างเพื่อให้ลูกค้ามาลงทุนกับเรา โดยปีนี้จะบุกตลาดด้วยเทคโนโลยีที่มี ด้วยการสนับสนุนของ กัลฟ์และไบแนนซ์ จะทำให้เติบโตได้ และจะนำฟีเจอร์ที่น่าสนใจมาให้ลูกค้าในประเทศไทย ซึ่งเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะสร้างความแตกต่างทำให้คนมาใช้ กัลฟ์  ไบแนนซ์ได้

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์