Apple เปิดตัว iPhone 16 และ iPhone 16 Pro

10 ก.ย. 2567 - 02:57

  • ดีไซน์เดิม ปรับขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้นในรุ่น Pro

  • เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าในวันที่ 13 กันยายน

  • วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 กันยายน

economic-business-apple-iphone-SPACEBAR-Hero.jpg

iPhone 16 และ iPhone 16 Pro มากับดีไซน์เดิม ปรับขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้นในรุ่น Pro ขอบจอบางลง เติมปุ่มควบคุมการถ่ายภาพ iPhone 16 มี 4 รุ่น คือ iPhone 16 iPhone 16 Plus หน้าจอ 6.1 นิ้ว และ 6.7 นิ้ว ตามลำดับ ส่วน iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max ปีนี้ หน้าจอ 6.3 นิ้ว และ 6.9 นิ้ว กล่าวได้ว่ามีขนาดตัวเครื่องที่ใหญ่ขึ้น

iPhone 16 และ iPhone 16 Plus มากับเลนส์หลัก 48 ล้านพิกเซล ที่ใช้เทคโนโลยีรวมเม็ดพิกเซลลงมาเหลือ 12 ล้านพิกเซล เพื่อให้ได้คุณภาพที่คมชัดขึ้น และยังใช้เป็นเลนส์ซูม 2x ได้ด้วย ส่วนเลนส์มุมกว้าง 12 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายมาโคร รูรับแสงที่กว้างขึ้น ช่วยให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดี จะใช้ชิปApple A18 บนสถาปัตยกรรม 3 นาโนเมตร อัปเกรด 16 Core NPU ให้แรงขึ้น 2 เท่า เพิ่มแบนด์วิดท์หน่วยความจำ 17% 6 คอร์ประมวลผลแบ่งเป็นคอร์ประสิทธิภาพสูง 2 คอร์ และ 4 คอร์ประหยัดพลังงาน เพิ่มเติมด้วย 5 คอร์กราฟิก ทำให้แรงกว่ารุ่นก่อนหน้า 30% โดบใช้แบตน้อยลง 30% เมื่อเทียบกับ A16Bionic การเชื่อมต่อรองรับที่ WiFi 6E 

iPhone 16 ออกแบบกล้องหลังใหม่เป็นแนวตั้ง รองรับการถ่ายวิดีโอ Spatial Video สำหรับ Vision Pro ในลักษณะของการถ่ายวิดีโอจากเลนส์กล้อง 2 เลนส์ให้มีมิติมากขึ้น ปุ่ม Camera Control ช่วยสามารถใช้ควบคุมการตั้งค่าการถ่ายภาพได้ ทั้งการซูมเข้าออก ปรับระยะโฟกัส ปรับรูรับแสง รองรับแรงกดเพื่อถ่ายภาพ ซึ่งจะช่วยให้การบันทึกภาพนิ่ง และวิดีโอมีความสะดวกมากขึ้น สามารถใช้เพื่อเรียกใช้งาน Apple Inteligence ที่จะเปิดให้ใช้งานในอนาคต ในลักษณะของเทคโนโลยี Visual Inteligence ที่ใช้ส่องเพื่อทำการค้นหาข้อมูล

economic-business-apple-iphone-SPACEBAR-Photo01.jpg

iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max จะขยับไปใช้ชิป A18 Pro รุ่นใหม่ที่ใช้สถาปัตยกรรม 3 นาโนเมตร รุ่นที่ 2 ซึ่งรองรับการประมวลผลที่เร็วขึ้น โดยเฉพาะการประมวลผล Neural Engine มี 16 คอร์ NPU รองรับการประมวลผล 35 ล้านล้านครั้ง 6 คอร์ประมวลผลกราฟิก มี 6 คอร์ประมวลผลหลักเช่นเดิม เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้า 15% ประหยัดไฟลง 20% ทำให้เป็นชิปที่แรงที่สุดในสมาร์ทโฟน การเชื่อมต่ออัปเกรดให้รองรับ WiFi 7 

กล้องของ iPhone 16 Pro มากับเลนส์หลัก 48 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 48 ล้านพิกเซล และเลนส์ซูม 12 ล้านพิกเซล เมื่อใช้ร่วมกับปุ่มควบคุมจะทำให้การใช้ iPhone 16 Pro ถ่ายภาพในระดับมืออาชีพ อัปเกรดการถ่ายวิดีโอ 4K120fps ช่วยให้การถ่ายวิดีโอสามารถนำไปปรับแต่งเพิ่มเติมได้

การแก้ไขปัญหาความร้อน iPhone 16 มีการปรับวัสดุมาช่วยในเรื่องการระบายความร้อน ช่วยให้สามารถคงประสิทธิภาพขณะเล่นเกมได้ดีขึ้นถึง 30% และยังช่วยให้การประมวลผลเฟรมเรทสูงขึ้น 5 เท่าด้วย ในขณะที่รุ่นโปร จะมีการนำอะลูมิเนียมมาช่วยระบายอากาศภายในแทน

iPhone 16 ซีรีส์ จะเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าในวันที่ 13 กันยายนนี้ ก่อนเริ่มส่งมอบ และวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 กันยายน

economic-business-apple-iphone-SPACEBAR-Photo02.jpg

ส่วนApple Watch รุ่นล่าสุดเป็นรุ่นที่10 ปรับการออกแบบใหม่ ทำหน้าจอให้ใหญ่ขึ้น พร้อมวัสดุใหม่ไทเทเนียมขอบจอบางลง ใช้ชิป ชิป S10 ที่มี NPU 4 แกน ชิปเซ็ตเป็นชิปเซ็ตใหม่รองรับการประมวลผล AI มากขึ้น กับ

Apple Watch 10 มี 2 ขนาด คือ  42 มม. กับ 46 มม. หน้าจอมีใช้ OLED ที่ประหยัดพลังงาน แต่ให้ความคมชัดดีกว่าเดิม  ทำออกมารองรับการแสดงผลแบบAlways On Display  หรือการเปิดหน้าจอตลอดเวลา 

วัสดุที่ใช้งานมีทั้งที่เป็นอะลูมิเนียม และไทเทเนียม ซึ่งแอปเปิลเริ่มนำมาใช้งานกับ iPhone 15 เพิ่มความสามารถด้านสุขภาพ เช่น การตรวจจับการหยุดหายใจขณะนอนหลับ การตรวจจับการเคลื่อนไหว การนอน อัตราการเต้นของหัวใจ คลื่นไฟฟ้าหัวใจ ค่าออกซิเจนในเลือด จังหวะการเต้นของหัวใจแบบตรวจจับการล้มและ ตรวจจับการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์

สำหรับ Apple Watch Ultra 2 ไม่ได้เปิดตัวรุ่นใหม่ เพียงแต่เพิ่มตัวเรือนสีดำ ใช้วัสดุไทเทเนียม เพิ่มสายเหล็กใหม่

economic-business-apple-iphone-SPACEBAR-Photo03.jpg

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์