Amerigo Vespucci (อเมอริโก้ เวสปุสชี่) ซึ่งได้รับสมญาว่า the most beautiful ship in the world เรือสำเภาที่สวยที่สุดในโลก อายุกว่า 100 ปี เข้าเทียบท่าที่แหลมพันวา ภูเก็ตเมื่อวานนี้ เพื่อเปิดให้เข้าชมได้ระหว่างวันที่ 6-10 พ.ย.นี้ พร้อมจัดนิทรรศการแสดงศิลปะวัฒนธรรมอิตาลี โดยตีความจากผลงานประติมากรรมระดับโลกของไมเคิล แอนเจโล่
Amerigo Vespucci เป็นเรือใบทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสเต็มลำ โดยปกติแล้วจะมีใบเรือ 24 ใบที่ทำจากผ้าใบ พื้นที่ทั้งหมด 2,600 ตารางเมตร ความยาว 101 เมตร มีเสากระโดงสามหลัก สูงจากระดับน้ำทะเล 54 เมตร ความลึกในการกินน้ำสูงสุดคือ 7.30 เมตร และระวางขับน้ำ 4,100 ตัน


ในช่วงแรกเรือลำนี้ถูกใช้งานเพื่อฝึกซ้อมการเดินสมุทรให้กับเหล่านาวิกโยธินอิตาเลียน และหลังจากนั้นจึงถูกใช้งานเพื่อเป็นเรือสำรวจน่านน้ำเชิงอนุรักษ์ มาเป็นเวลาอีกกว่า 30 ปี รวมแล้วอายุของเรือลำนี้มากกว่า 90 ปี
ส่วนชื่อเรือ Amerigo Vespucci ตั้งขึ้นตามชื่อนักสำรวจชาวอิตาลีในศตวรรษที่ 16 สร้างขึ้นเมื่อปี 1930 สำหรับฝึกทหารเรือของอิตาลี โดยได้รับสมญาว่า the most beautiful ship in the world หรือเรือที่สวยที่สุดในโลก
โดยเรือลำดังกล่าวกำลังเดินทางรอบโลกเพื่อเผยแพร่ศิลปะวัฒนธรรมของอิตาลี ซึ่งจะแวะให้ผู้สนใจเข้าชมตามเมืองท่าต่าง ๆ 15 แห่ง โดยการออกทัวร์รอบโลกในครั้งนี้ ถือว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี


ขณะที่บนเรือลำนี้ยังมีภัตตาคารอิตาเลียน และรายการบันเทิงต่าง ๆ สำหรับผู้สนใจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของอิตาลีอีกมากมาย
การเดินเรือมาเทียบท่าที่ภูเก็ต ในช่วงวันที่ 6-10 พฤศจิกายน 2567 นี้ จะเปิดให้เช้าชมฟรี ดูรายละเอียดเพิ่มเติม และจองรอบเข้าชมได้ผ่านเว็บไซต์ https://tourvespucci.it/en


สำหรับวันและช่วงเวลาที่จะเปิดให้เข้าชมเรือสำเภา Amerigo Vespucci เริ่มต้นในวันนี้
• วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน 2567 ตั้งแต่เวลา 16:00 น. ถึง 19:30 น.
• วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน 2566 ตั้งแต่เวลา 10:00 น. ถึง 12:00 น. และตั้งแต่เวลา 14:00 น. ถึง 19:00 น.
• วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ตั้งแต่เวลา 10:00 น. ถึง 12:00 น. และตั้งแต่เวลา 15:00 น. ถึง 17:00 น.
• วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2567 ตั้งแต่เวลา 10:00 น. ถึง 12:00 น. และตั้งแต่เวลา 15:00 น. ถึง 17:00 น.
• วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2567 ตั้งแต่เวลา 10:30 น. ถึง 12:30 น. และตั้งแต่เวลา 15:00 น. ถึง 19:00 น.
หลังจากนั้นเรือลำนี้จะออกเดินทางไปยังเมืองมุมไบ ประเทศอินเดียต่อไป