ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) รายงานว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ เพิ่มความเข้มข้นในการกำกับดูแลบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ฯ (โบรกเกอร์) ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยปรับปรุงเกณฑ์บทระวางโทษปรับเป็นเงินสำหรับโบรกเกอร์ให้สูงขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการยกระดับการกำกับดูแล เพื่อเพิ่มการกำกับดูแลสมาชิกที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ โดยจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป
จัดกลุ่มตามลักษณะการกระทำผิดของโบรกเกอร์เป็น 4 กลุ่ม
- การใช้ระบบส่งคำสั่งซื้อขาย การใช้ชุดคำสั่งคอมพิวเตอร์ สถานที่ติดตั้ง และการต่อเชื่อมอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
- การกำกับดูแลการซื้อขายผ่านระบบของสมาชิก
- คุณสมบัติและหน้าที่ในการเป็นสมาชิก
- การซื้อขาย
นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุงบทระวางโทษปรับเป็นเงินให้เหมาะสมในแต่ละกรณี โดยพิจารณาตามระดับความรุนแรงของผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการกระทำความผิดในแต่ละลักษณะการกระทำความผิด ตัวอย่างเช่น หากเป็นกรณีการกระทำความผิด Naked Short Selling จะปรับ 3 เท่าของกำไรที่ได้รับ แต่ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท (จากเดิมที่ปรับเท่ากับกำไรที่ได้รับ โดยไม่มีการกำหนดค่าปรับขั้นต่ำ) หรือหากเป็นกรณีไม่เรียกให้ลูกค้าวางหลักประกันเพิ่ม เมื่อทรัพย์สินของลูกค้าลดลงจนต่ำกว่ามูลค่าหลักประกันที่ต้องดำรงไว้ตามเกณฑ์การซื้อขายหลักทรัพย์ประเภทมาร์จิ้น จะปรับไม่เกิน 30,000 บาทต่อครั้งที่โบรกเกอร์มีหน้าที่ต้องเรียกให้ลูกค้าวางหลักประกันเพิ่ม (จากเดิมที่ปรับไม่เกิน 10,000 บาทต่อครั้ง)
ทั้งนี้ เกณฑ์ดังกล่าวได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้อง และผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. แล้ว ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเกณฑ์ที่มีการปรับปรุงได้ที่เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ www.set.or.th ภายใต้หัวข้อ 'กฎเกณฑ์และการกำกับ' และ 'หนังสือเวียนส่วนที่เกี่ยวกับสมาชิก'