‘บ้านเพื่อคนไทย’ คนเชียงใหม่ลุ้นสิทธิ์ได้บ้านหลังแรก

18 ม.ค. 2568 - 04:55

  • ผู้มีรายได้น้อย จ.เชียงใหม่ หวังมีบ้านหลังแรกจากโครงการ ‘บ้านเพื่อคนไทย’

  • นักวิชาการแนะรัฐสกัดนักลงทุนกว้านซื้อ รวมทั้งควรพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและคมนาคมควบคู่ไปด้วย

  • นักศึกษาจบใหม่มองเงื่อนไขครองสิทธิ์ 99 ปี ไม่ต่างจากบ้านเช่า

economic-business-thai-home-chiangmai-residents-SPACEBAR-Hero.jpg

หลังรัฐบาลมีนโยบายสร้างบ้านเพื่อคนไทย โดยใช้ที่ดินของการรถไฟในพื้นที่คมนาคมขนส่งสะดวก เป็นการพัฒนาที่อยู่อาศัยราคาประหยัด หรือ Affordable Housing ที่มีเป้าการพัฒนาที่พักอาศัยคุณภาพสูงในพื้นที่ศักยภาพ เป็นการพัฒนาคอนโดคุณภาพดี ขนาดเริ่มต้นที่ 30 ตารางเมตร พร้อมสาธารณูปโภคครบครันและทันสมัย มีระบบการรักษาความปลอดภัยและเทคโนโลยีอื่น ๆ 

รวมทั้งมีโครงการบ้านเดี่ยวด้วย เพื่อเป็นบ้านสำหรับคนทำงานที่จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ตั้งอยู่ในทำเล ศักยภาพ ใกล้รถไฟฟ้า ผ่อนถูก ไม่ต้องดาวน์ และถือครองในระยะเวลา 99 ปี โดยมีเงื่อนไข บ้านราคาประหยัดคุณภาพสูง ให้สิทธิ์คนไทยที่ไม่เคยมีบ้านมาก่อน ไม่ต้องดาวน์ ผ่อนเริ่มต้น 4,000 บาทต่อเดือน ระยะเวลา 30 ปี กระจายตัวไปกับการเจริญเติบโตของเมือง มีห้องน้ำ ไฟฟ้า สาธารณูปโภค ระบบรักษาความปลอดภัย คนเริ่มทำงานก็สามารถมีสิทธิได้ ถ้าจ่ายครบยอด ได้รับสิทธิถือครอง 99 ปี 

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ ผศ.ดร.มนตรี สิงหะวาระ รองคณบดี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เปิดเผยว่า อนาคต 5 - 10 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะพัฒนาไปตามในหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน ที่มีค่าของชีพสูงขึ้น ก็จะทำให้คนรุ่นใหม่เด็กจบใหม่หาซื้อบ้านยาก และการผ่อนบ้านตามปกติ ถือเป็นภาระที่หนักหน่วงสำหรับคนในยุคปัจจุบัน

economic-business-thai-home-chiangmai-residents-SPACEBAR-Photo01.jpg

“ถ้ารัฐบาลทำโครงการบ้านเพื่อคนไทยสำเร็จ ในมุมมองส่วนตัวถือว่าดีมาก เป็นการช่วยแบ่งเบาภาระรายจ่ายที่จะเกาะกินความมั่งคั่งในอนาคต เพราะเงินรายได้ ส่วนใหญ่จะไปลงกับค่าผ่อนบ้าน ซึ่งการผ่อนชำระตามโครงการของรัฐบาล เดือนละ 4000 บาท โดยเด็กจบใหม่เฉลี่ยแล้ว ก็สามารถผ่อนชำระได้อย่างสบาย และเงินที่เหลือสามารถนำไปบริโภคใช้ชีวิตได้ รัฐบาลควรยังควรทำควบคู่ไปกับระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ เลือกที่จะนำเงินไปซื้อบ้านมากกว่าซื้อรถ เพราะเป็นทรัพย์สินที่ยั่งยืนกว่า เพราะปัจจุบันเงิน 4,000 บาท อาจไม่สามารถผ่อนรถยนต์ได้ แต่การกระทำโครงการบ้านเพื่อคนไทย รัฐบาลต้องมีความรอบคอบ เพราะเกรงว่าโครงการเหล่านี้จะตกไปอยู่กับนักลงทุน”

economic-business-thai-home-chiangmai-residents-SPACEBAR-Photo02.jpg

ผศ.ดร.มนตรี ยังระบุด้วยว่า โครงการบ้านเพื่อคนไทยไม่ได้เกิดประโยชน์เฉพาะกับนักศึกษาที่จบใหม่เท่านั้น แต่คนที่ทำงานกลางคืน ที่มักเช่าอพาร์ทเม้นท์ เช่าบ้าน ซึ่งราคาค่าเช่าคอนโดหรืออพาร์ทเมนท์ เฉลี่ยเดือนละ 3,000 - 4,000 บาทแล้ว ซึ่งหากมีความเป็นไปได้ คนก็จะต้องเลือกซื้อมากกว่าเช่า

ปาริษา พงษ์แต้ แม่ค้าขายลูกชิ้นในจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า มีอาชีพค้าขาย ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ฝันอยากมีบ้านที่หามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่กับครอบครัว อยู่บ้าน พ่อ – แม่ แม้ที่ผ่านมาจะมีความพยายามอยากมีที่พักอาศัยเป็นของตัวเอง แต่ไม่สามารถกู้เงินผ่านสถาบันการเงินได้ เพราะมีรายได้เฉลี่ยวันละไม่เกิน 500 บาท

“ส่วนตัวมองว่า โครงการบ้านเพื่อคนไทย จะสามารถสานฝันให้กับคนที่มีรายได้ไม่มากนัก และไม่เคยมีบ้านหรือที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง ที่มีการผ่อนชำระเดือนละ 4000 บาท ถือว่าไม่หนัก สำหรับอาชีพค้าขาย ซึ่งหากเปิดให้ลงทะเบียนของจังหวัดเมื่อไหร่ ก็จะไปลงทะเบียน เพราะทำเลใกล้สถานีรถไฟเชียงใหม่ ถือว่าเป็นพื้นที่ที่เดินทางสะดวก ซื้อของ ขายของ เดินทางง่ายเพราะอยู่ใจกลางเมือง”

economic-business-thai-home-chiangmai-residents-SPACEBAR-Photo03.jpg
economic-business-thai-home-chiangmai-residents-SPACEBAR-Photo04.jpg

ด้าน ศลิษา ทองเหลือ นักศึกษาจบใหม่ แสดงความเห็นว่า ส่วนตัวเริ่มทำงานกับบริษัทเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่ รายได้เฉลี่ย 15,000 ต่อเดือนโครงการบ้านเพื่อคนไทย จึงถือว่าเป็นโครงการที่ดีที่จะช่วยให้คนที่ฝันอยากมีบ้านเป็นของตัวเองเป็นจริงได้

economic-business-thai-home-chiangmai-residents-SPACEBAR-Photo05.jpg

“ปัจจุบันอาศัยอยู่กับครอบครัวใหญ่ ซึ่งถ้ามีบ้านจะช่วยลดภาระเงินก้อนแรก เพราะไม่ต้องมีเงินดาวน์และได้รับดอกเบี้ยสินเชื่อในอัตราต่ำ ผ่อนจ่ายรายเดือนต่ำ เป็นภาระที่ไม่หนักเกินไป เมื่อเทียบกับค่าเช่าที่พักในเมือง ทำเลของจังหวัดเชียงใหม่ ใกล้ขนส่งสาธารณะ ช่วยลดค่าเดินทางในชีวิตประจำวัน ทำให้การลงทุนในที่อยู่อาศัยตั้งแต่เนิ่นๆ ทำให้เกิดความมั่นคงในอนาคต หากผ่อนครบสามารถถือครองได้นานถึง 99 ปี จะทำให้มีความสะดวกสบาย สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แต่ถ้ามองอีกด้าน พื้นที่ใช้สอยจำกัด ขนาด 30 ตารางเมตร เหมาะกับการอยู่อาศัยคนเดียวหรือคู่รัก แต่ไม่เหมาะสำหรับครอบครัวในระยะยะยาว โดยการผ่อนชำระ 30 ปี อาจกลายเป็นภาระใหญ่ หากอนาคตการเงินหรือการทำงานไม่มั่นคง ขาดความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิต หากต้องย้ายงานหรือเปลี่ยนที่อยู่อาศัยเร่งด่วน การขายหรือปล่อยเช่า อาจไม่สะดวกเหมือนบ้านทั่วไป หากอนาคตต้องเปลี่ยนงาน ที่อยู่อาศัยอยู่ไกลจากสถานที่ทำงาน การเดินทางอาจใช้เวลานาน ทำให้เสียโอกาสพัฒนาอาชีพหรือชีวิตส่วนตัว”

economic-business-thai-home-chiangmai-residents-SPACEBAR-Photo06.jpg

ขณะที่ ธัญวรรณ วงศ์กุณา พนักงานบริษัทเอกชน เปิดเผยว่า โครงการบ้านเพื่อคนไทย เป็นโครงการที่มีประโยชน์กับคนที่ทำงานในเมือง เพราะต้องการบ้านหรือที่พักที่ใกล้ขนส่งสาธารณะ เดินทางสะดวก อัตราผ่อนจ่ายไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับบ้านทั่วไป เพราะจังหวัดเชียงใหม่ บ้าน ทั่วไป ราคาเริ่มต้นเฉลี่ยแล้วประมาณหลังละ 2 ล้านบ้าน ที่ต้องมีเงินดาวน์และค่างวดกับดอกเบี้ยบ้านที่ค่อนข้างสูง

economic-business-thai-home-chiangmai-residents-SPACEBAR-Photo07.jpg

“ในการซื้อบ้าน ทำให้ตัวเองต้องพับโครงการนี้ไป เพราะหากต้องซื้อบ้านแล้วต้องผ่อนชำระเดือนละ 1 หมื่นบ้านขึ้นไป จะส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตที่เงินเดือนเกือบทั้งหมด จะต้องไปลงกับค่าผ่อนบ้าน แต่โครงการบ้านเพื่อคนไทย แม้ส่วนตัวจะมีความสนใจและสร้างความหวังในการมีบ้านเป็นของตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง แต่ส่วนตัวต้องศึกษาเงื่อนไขอย่างละเอียด เพราะการถือสิทธิ์ได้ 99 ปี และเป็นบ้านบนพื้นที่ของรัฐ ส่วนตัวคิดว่าก็เหมือนกันการเช่าบ้านเช่าคอนโดอยู่ดี ไม่ได้เป็นทรัพย์สินของตัวเองจริงๆ ที่สามารถส่งต่อเป็นมรดก หรืออาจเก็บไว้ขาย ปล่อยเช่าต่อได้เมื่อเกษียณอายุ”

economic-business-thai-home-chiangmai-residents-SPACEBAR-Photo08.jpg

สำหรับคุณสมบัติผู้ที่จะมีสิทธิจอง ‘บ้านเพื่อคนไทย’ มีดังนี้ ต้องมีสัญชาติไทย บรรลุนิติภาวะ

รายได้ไม่เกิน เดือนละ 50,000 บาท ต่อเดือนไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่อาจใช้พักอาศัยได้ทุกประเภท ไม่เคยได้สิทธิในโครงการบ้านเพื่อคนไทย โดยสามารถเลือกได้ 2 ประเภท

  1. คอนโดฯ ขนาดเริ่มต้นที่ 30 ตารางเมตร
  2. โครงการบ้านเดี่ยว 

พร้อมสาธารณูปโภคครบครันและทันสมัย มีระบบการรักษาความปลอดภัยและเทคโนโลยีอื่น ๆ

economic-business-thai-home-chiangmai-residents-SPACEBAR-Photo09.jpg
economic-business-thai-home-chiangmai-residents-SPACEBAR-Photo10.jpg

โดยแหล่งเงินทุนในการพัฒนาโครงการจะประสานกับธนาคารของรัฐ เช่น ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารออมสิน เพื่อสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ สำหรับพัฒนาโครงการ รวมถึงปล่อยสินเชื่อให้กับประชาชนเพื่อได้สินเชื่อดอกเบี้ย 2.5% คงที่ 25 ปี สามารถผ่อนได้เดือนละ 4,000 บาท

โดยรัฐประกาศ 4 พื้นที่เบื้องต้นที่จะพัฒนาเป็นโครงการระยะแรก ได้แก่ 

  1. พื้นที่บางซื่อ กม.11  
  2. พื้นที่เชียงราก  
  3. พื้นที่ธนบุรี  
  4. พื้นที่เชียงใหม่

โดยโครงการในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จะพัฒนาเนื้อที่กว่า 7 ไร่ ใกล้สถานีรถไฟเชียงใหม่ ติด ถ.เจริญเมือง ถ.ทุ่งโฮเต็ล ห่างมหาวิทยาลัยพายัพ 2.6 ก.ม. ห่างมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 7.5 ก.ม. ห่างถนนซูเปอร์ไฮเวย์ 1.3 ก.ม. พัฒนาที่อยู่อาศัยเป็นอาคารชุด จำนวน 720 ยูนิต ในราคา 1.5 ล้านบาท

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์