รพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า พิธีทำขวัญนาเกลือ เป็นพิธีที่เป็นสิริมงคล สร้างขวัญและกำลังใจให้แก่เกษตรกรผู้ทำนาเกลือทะเลของไทย โดยเกษตรกรจะทำพิธีเมื่อได้เกลือเป็นครั้งแรกในฤดูการทำนาเกลือสิ่งที่ใช้ในพิธีทำนาเกลือประกอบด้วย ข้าวตอก ดอกไม้ และเครื่องสังเวย ตามคำโบราณที่ว่า ‘ขวัญข้าวเท่าหัวเรือขวัญเกลือเท่าหัวแพ’ ซึ่งจะสามารถทำนาเกลือได้ดีในเฉพาะในช่วงปลอดฝน หรือช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี
กรมส่งเสริมการเกษตร ได้มุ่งส่งเสริมให้เกษตรกรไทยรวมกลุ่มทำการเกษตรในทุกด้านมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดความเข้มแข็งของกลุ่มเกษตรกร มีอำนาจต่อรองทางการตลาด และสามารถสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน โดยเฉพาะการทำนาเกลือทะเลไทย ที่ถือเป็นมรดกทางภูมิปัญญาและวัฒนธรรมที่สะท้อนวิถีชีวิตการเกษตร ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตรเล็งเห็นความสำคัญและกำหนดนโยบายและวางแผนเขตพื้นที่อนุรักษ์นาเกลือทะเลของประเทศ โดยยกระดับแหล่งทำนาเกลือเป็นมรดกทางการเกษตรโลกเพื่อส่งเสริมอนุรักษ์มรดกทางการเกษตร สร้างความมั่นคงทางอาหารและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งขณะนี้กรมส่งเสริมการเกษตรได้สรุปรวบรวมและจัดทำข้อมูลสาระสำคัญ 5 ด้าน ตามระบบมรดกทางการเกษตรของโลก (Globally Important Agricultural Heritage Systems: GIAHS) ของเกลือทะเลไทย ภายใต้ชื่อ ระบบการผลิตเกลือทะเลไทยอย่างยั่งยืน (Siam Sea Salt Sustainable Production Systems) เสนอกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาขับเคลื่อนต่อไปแล้ว
ทั้งนี้ ในปี 2568 กรมส่งเสริมการเกษตร คาดการณ์ผลผลิตรวม 537,923 ตัน ลดลงจากปีก่อนที่ผลิตได้ 683,803.13 ตัน เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวน ฝนตกนอกฤดูกาล และความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศสูง ทำให้เริ่มฤดูกาลผลิตล่าช้า

ขณะที่อุณหภูมิที่แปรปรวนส่งผลให้การตกผลึกเกลือใช้เวลานานขึ้น กระทบประสิทธิภาพการผลิตโดยรวม โดยผลผลิตส่วนใหญ่มาจาก 7 จังหวัด ซึ่งเพชรบุรีผลิตมากที่สุด 227,617 ตัน คิดเป็น 42.34% รองลงมาคือสมุทรสาคร 225,720 ตัน หรือ 41.99% ของปริมาณผลผลิตทั้งหมด จากสถานการณ์ดังกล่าว
กรมส่งเสริมการเกษตรได้เร่งดำเนินการวางแผนบริหารจัดการผลผลิตตั้งแต่ต้นฤดูกาล พร้อมกำหนดแนวทางพัฒนาที่ครอบคลุมทุกมิติ พร้อมกันนี้ยังส่งเสริมเส้นทางท่องเที่ยวสายเกลือ ในพื้นที่ 3 จังหวัด ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญของการทำนาเกลือ คือ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และเพชรบุรี มีจุดท่องเที่ยวตลอดเส้นทางรวม 10 แห่ง ประกอบด้วย
- จุดที่ 1 บ้านย่า สปาเกลือ ที่อนุรักษ์วิถีการทำนาเกลือแบบดั้งเดิม และนำเกลือทะเลไทยมาสร้างผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น สบู่เกลือ ครีมทาผิวเกลือ เพื่อจำหน่ายและบริการสปาให้แก่นักท่องเที่ยว
- จุดที่ 2 ศูนย์การเรียนรู้โรงเรียนนาเกลือ เป็นแปลงนาเกลือ มาตรฐาน GAP แห่งแรกของไทย เปิดพื้นที่ให้เป็นโรงเรียนนาเกลือ และฝึกปฏิบัติการทำนาเกลือให้ผู้ที่สนใจได้เข้าชม
- จุดที่ 3 วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกลือสมุนไพรลาดใหญ่ ซึ่งมีผลิตภัณฑ์เกลือทะเลหลากหลาย และผลิตภัณฑ์ผสมสมุนไพรท้องถิ่น เช่น สครับหน้า สปาตัว ให้เลือกอุดหนุน หรือสามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ด้วย
- จุดที่ 4 โรงเรียนคนทำนาเกลือ เป็นจุดต้นแบบการทำนาเกลือโดยใช้นวัตกรรมเหมาะสำหรับเกษตรกรที่สนใจมาเรียนรู้ และยังมีผลิตภัณฑ์จากเกลือหลากหลายรูปแบบจำหน่ายให้นักท่องเที่ยว
- จุดที่ 5 ธี ฟาร์ม เป็นจุดพักผ่อนโอมสเตย์สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากลองสัมผัสบรรยากาศนาเกลือ เปิดประสบการณ์กับกิจกรรมการทำนาเกลือร่วมกับชุมชน

- จุดที่ 6 วิสาหกิจชุมชนพัฒนาเกลือคุณภาพสมุทรสาคร เปิดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกลือผ่านการรับรองมาตรฐานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
- จุดที่ 7 วิสาหกิจชุมชนแป้งร่ำ ตำบลบางนางลี่ จำหน่ายผลิตภัณฑ์เกลือทะเลแปรรูปจากภูมิปัญญาชาวบ้าน เช่น ผลิตภัณฑ์พอกหน้าและสบู่สมุนไพร
- จุดที่ 8 วิสาหกิจชุมชน กลุ่มอาชีพเกลือทะเลกังหันทอง มีผลิตภัณฑ์จากเกลือทะเล กิจกรรมสปา นวดแผนไทย และยังเป็นแหล่งเรียนรู้และพัฒนาเกลือในเชิงนวัตกรรม
- จุดที่ 9 จุดชมวิวสะพานไม้นาเกลือ เอาใจคนรักการถ่ายภาพมาชมบรรยากาศแปลงนาเกลือ ซึ่งจุดนี้ยังเป็นสถานที่จัดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ เช่น งานประติมากรรมเกลือ ‘Art of Salt’ อีกด้วย
- จุดที่ 10 Mong Doo Gleua Café เป็นจุดพักชมวิวนาเกลือทะเล พร้อมบริการเครื่องดื่มและอาหารหลากหลายที่ต้องใช้เกลือเป็นส่วนประกอบในการปรุง
กรมส่งเสริมการเกษตรจึงขอเชิญชวนให้ออกเดินทางมาเที่ยวได้แล้วในปี 2568 นี้