‘ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ-กิจกรรม’ คึกคัก ดันรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจ

5 ก.พ. 2568 - 04:25

  • ขยายตลาดไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวใหม่

  • Wellness Tourism มีมูลค่าสูงกว่าการท่องเที่ยวทั่วไป

  • Event Tourism กระตุ้นให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

economic-business-wellness-tourism-event-SPACEBAR-Hero.jpg

ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเดินหน้าสนับสนุนธุรกิจบริการและผู้ประกอบการไทยในทุกอุตสาหกรรมอย่างเต็มที่ พร้อมเดินหน้าผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ของไทยในด้านต่าง ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่คุ้มค่าแก่การมาเยือน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของไทยในระยะยาว 

ทั้งนี้ จากข้อมูลปัจจุบัน พบว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในประเทศในภูมิภาคอาเซียนและประเทศใกล้เคียง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายและระยะเวลาพักเฉลี่ยไม่สูงนัก หากไทยสามารถขยายตลาดไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวใหม่ ๆ ได้ จะช่วยเพิ่มรายได้ด้านการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตมากขึ้น

ซึ่งภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19  กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) อาทิ สปา และการฟื้นฟูสุขภาพเฉพาะทาง จะมีมูลค่าสูงกว่าการท่องเที่ยวทั่วไป จึงมีแนวโน้มที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงเข้ามาในไทยได้มากขึ้น รวมถึงกลุ่มที่สนใจการท่องเที่ยวเชิงกิจกรรม (Event Tourism) ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางในการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่มีความสนใจเดียวกัน อาทิ การแสดงดนตรี งานเทศกาล และการแข่งขันกีฬา โดยกิจกรรมเหล่านี้ ไม่เพียงแต่สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับนักท่องเที่ยว แต่ยังกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ส่งผลต่อการกระจายรายได้และขยายการเติบโตของเศรษฐกิจในระดับชุมชนอย่างมีนัยสำคัญ
ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่าในปี 2567 ที่ผ่านมา ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวม 35.54 ล้านคน เพิ่มขึ้น 26.27% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สร้างรายได้ 1.67 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% 

5 อันดับนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงสุดในปี 2567 

  1. จีน 6,733,162 คน 
  2. มาเลเซีย 4,952,078 คน 
  3. อินเดีย 2,129,149 คน 
  4. เกาหลีใต้ 1,868,945 คน 
  5. รัสเซีย 1,745,327 คน

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์