ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเดินหน้าสนับสนุนธุรกิจบริการและผู้ประกอบการไทยในทุกอุตสาหกรรมอย่างเต็มที่ พร้อมเดินหน้าผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ของไทยในด้านต่าง ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่คุ้มค่าแก่การมาเยือน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของไทยในระยะยาว
ทั้งนี้ จากข้อมูลปัจจุบัน พบว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในประเทศในภูมิภาคอาเซียนและประเทศใกล้เคียง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายและระยะเวลาพักเฉลี่ยไม่สูงนัก หากไทยสามารถขยายตลาดไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวใหม่ ๆ ได้ จะช่วยเพิ่มรายได้ด้านการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตมากขึ้น
ซึ่งภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) อาทิ สปา และการฟื้นฟูสุขภาพเฉพาะทาง จะมีมูลค่าสูงกว่าการท่องเที่ยวทั่วไป จึงมีแนวโน้มที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงเข้ามาในไทยได้มากขึ้น รวมถึงกลุ่มที่สนใจการท่องเที่ยวเชิงกิจกรรม (Event Tourism) ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางในการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่มีความสนใจเดียวกัน อาทิ การแสดงดนตรี งานเทศกาล และการแข่งขันกีฬา โดยกิจกรรมเหล่านี้ ไม่เพียงแต่สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับนักท่องเที่ยว แต่ยังกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ส่งผลต่อการกระจายรายได้และขยายการเติบโตของเศรษฐกิจในระดับชุมชนอย่างมีนัยสำคัญ
ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่าในปี 2567 ที่ผ่านมา ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวม 35.54 ล้านคน เพิ่มขึ้น 26.27% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สร้างรายได้ 1.67 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 34%
5 อันดับนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงสุดในปี 2567
- จีน 6,733,162 คน
- มาเลเซีย 4,952,078 คน
- อินเดีย 2,129,149 คน
- เกาหลีใต้ 1,868,945 คน
- รัสเซีย 1,745,327 คน