‘สุริยะ’ รับไม่ได้เศษชิ้นส่วนรถไฟฟ้าตก สั่งตรวจสอบสัญญา

2 เม.ย. 2567 - 08:23

  • สั่งตรวจสอบสัญญาผลประกาศปรับเงินหนุนสูงสุด 125 ล้านบาท

  • สั่งผู้รับสัมปทานเร่งอุดช่องโหว่

  • เตรียมชง ครม. ลดค่าทางด่วนสงกรานต์นี้

economic-electric-train-parts-SPACEBAR-Hero.jpg

สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเกิดอุบัติเหตุมีชิ้นส่วนร่วงลงมาจากรางทำให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางและผู้ใช้รถไฟฟ้าได้รับความเดือดร้อน ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่กระทรวงคมนาคมรับไม่ได้ เพราะว่ากระทบต่อผู้โดยสารรถไฟฟ้าและประชาชน ที่อยู่ใต้รางรถไฟฟ้า ตนเองจึงได้ปรึกษากับสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ให้สั่งการ รฟม. ดำเนินการตรวจสอบสัญญา เฉพาะในเรื่องบทลงโทษต่าง ๆ ซึ่งตนเองก็ได้เห็นตัวสัญญานี้แล้วโดยทาง รฟม.ก็จะมีการประเมินผลประกอบการของผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้าทุกปีซึ่งในปีนี้จะครบในเดือนกรกฎาคม โดยหากพบว่าผลประกอบการกระทบต่อความปลอดภัยก็จะสามารถปรับเงินได้และกระทรวงคมนาคมก็มีสนับสนุนผู้ประกอบการในรายนี้ปีละ 2,500 ล้านบาท เราสามารถปรับวงเงิน ได้ 5% คือจำนวน 125 ล้านบาท นั่นคือสิ่งที่ต้องดำเนินการให้เคร่งครัด

สุริยะ กล่าวต่อว่า แต่ส่วนหนึ่งที่ตนให้ความสำคัญ คือสิ่งที่ประชาชนมีความห่วงใย เพราะปรับเงินไปก็คงไม่ใช่เป็นเรื่องที่ประชาชนต้องการ แต่เขาต้องการถึงความปลอดภัย ซึ่งตอนนี้ได้สั่งการให้ผู้รับสัมปทานไปอุดช่องที่เกิดเสร็จวัสดุตกลงมาให้เรียบร้อย และอีกส่วนหนึ่งก็คือ สายสีชมพูในส่วนต่อขยายที่กำลังก่อสร้างซึ่งก็มีวัสดุตกลงมา ตรงนั้นได้มีการสั่งการให้ผู้ประกอบการในช่วงก่อสร้างดำเนินสร้างโครงสร้างรองรับไม่ให้เศษวัสดุตกลงมา จึงอยากให้ประชาชนเข้าใจว่าทางกระทรวงคมนาคมมีความห่วงใยความปลอดภัยของประชาชนต้องมาอันดับแรก

เมื่อถามว่าระบบ รถไฟฟ้าที่เกิดปัญหาเป็นระบบแบบโมโนเรล ซึ่งในต่างประเทศไม่นิยมใช้เพราะเหตุผลเรื่องความปลอดภัย นายสุริยะ กล่าวว่า เราต้องไปดูตอนที่กำหนดเงื่อนไขในสมัยรัฐบาลเดิม ที่เขาอาจเห็นว่าเป็นรถไฟแบบโมโนเรลอาจจะถูกกว่าก็เลยมีการกำหนดแบบนั้นมา เพราะฉะนั้นในช่วงนี้ผู้ที่ได้รับสัมปทานก็ต้องดูแลความปลอดภัย ตนขอใช้คำว่าใส่ใจปัญหาก็จะน้อยลงและสามารถแก้ไขได้ ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ของกระทรวงคมนาคมก็ต้องกวดขันความปลอดภัยก็น่าจะเกิดขึ้นได้

ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย สุริยะ กล่าวว่า จากที่ตนเคยให้ข่าวกับสื่อมวลชนและประกาศกับประชาชนไปเชื่อว่านโยบายนี้ทำได้แน่นอน ตอนนี้เรากำลังเสนอพระราชบัญญัติรถร่วม ตรงนี้ก็จะสามารถตั้งกองทุนขึ้นมา และเมื่อมีกองทุนนี้ก็จะสามารถไปดูแล รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายได้ ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของกระทรวงตรวจสอบความเรียบร้อย คิดว่าจะเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ได้เร็ว ๆ นี้

ส่วนผลประกอบการของรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีแดงที่เก็บค่าใช้บริการ 20 บาท สุริยะ กล่าวว่า ตอนนี้จะเห็นประชาชนมาใช้บริการเพิ่มขึ้น 20% ทำให้เห็นได้ว่าหากเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อย ๆ แม้เราลดราคาเหลือ 20 บาท แต่ก็จะสามารถทำกำไรได้

ส่วนจะมีเฟสต่อ ๆ ไปหรือไม่ สุริยะ กล่าวว่า ตอนนี้ ส่วนที่กระทรวงคมนาคมทำได้ต้องเป็นในส่วนที่กระทรวงดูแล แต่ในส่วนที่นอกเหนือนั้นเราไม่สามารถไปดูแลได้

สุริยะ ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้ใกล้สู่เทศกาลสงกรานต์ตนเชื่อว่าประชาชนก็อยากเดินทางด้วยความสะดวกรวดเร็วและปลอดภัย ในวันนี้ที่กระทรวงคมนาคมก็จะมีการปรึกษาหารือ ถึงการเดินทางของประชาชนในช่วงสงกรานต์ โดยจะพยายามหาเส้นทางต่าง ๆ ให้ประชาชน เดินทางหลีกเลี่ยงเส้นทางสายหลักไปใช้เส้นทางสายรอง แม้อาจจะไกลกว่าแต่ก็ประหยัดเวลา แล้วตนเองได้สั่งการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทยให้ช่วยลดภาระในการเดินทางในเรื่องด่านเก็บเงินต่างๆการลดราคา ยกเว้นสายวงแหวนตะวันตกที่ยังอยู่ในสัญญา แต่สายอื่นเราจะให้ลดราคา โดยวันนี้จะมีการเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี

สุริยะ กล่าวถึงกรณีความคืบหน้าการก่อสร้างถนนพระราม 2 ว่า ได้กำหนดแล้วว่าภายในเดือนมิถุนายน 2568 จะต้องก่อสร้างให้เสร็จ โดยขณะนี้ผู้รับเหมามีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมก็ได้ร่วมกับธนาคารต่าง ๆ ที่จะปล่อยกู้ให้กับผู้รับเหมา ก็จะทำให้สภาพคล่องของผู้ประกอบการดีขึ้น ในขณะเดียวกันตอนนี้กระทรวงคมนาคมได้ปรึกษากับสำนักงบประมาณ เพื่อที่จะดูแล เรื่องค่า k (เงินชดเชยค่างานก่อสร้าง)ที่ยังติดค้างระหว่างผู้รับเหมา ซึ่งการจ่ายค่า k ดังกล่าวก็จะมีข้อกำหนดให้ต้องก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามสัญญา

เมื่อถามย้ำว่าสงกรานต์นี้ถนนพระรามสองรถจะติดหรือไม่ สุริยะ ยอมรับว่า เมื่อการก่อสร้างยังไม่เสร็จก็จะติดขัดพอสมควร จึงจะต้องพยายาม ร่วมมือกับตำรวจทางหลวง เพื่อทำให้การติดขัดนั้นลดน้อยลง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์