‘มาสด้า’ ยอมเยียวยา ลูกค้า CX-5 สกายแอคทีฟ

16 มีนาคม 2567 - 04:00

economic-mazda-cx5-skyactiv-suv-SPACEBAR-Hero.jpg
  • บริษัทมาสด้าตัดสินใจยอมยุติปัญหากับลูกค้า รุ่น CX-5 สกายแอคทีฟ

  • กรณีประสบปัญหาน้ำดัน พร้อมให้การแก้ไขตามเงื่อนไขบริษัท

  • ตั้งเงื่อนไขการเยียวยา 4 ข้อ

สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้รายงานความคืบหน้า กรณีผู้ซื้อรถยนต์มาสด้า ซีเอ็กซ์ – 5 รุ่นสกายแอคทีฟ (Skyactiv) เครื่องยนต์ดีเซล เมื่อปื 2562 ที่พบปัญหาในลักษณะน้ำดัน และได้รวมตัวกันเพื่อยื่นฟ้องเป็นคดีแบบกลุ่มต่อบริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอนุญาตให้ดำเนินคดีแบบกลุ่ม ไปเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 

ทนายความผู้ดูแลการฟ้องร้องคดี จิณณะ แย้มอ่วม  กล่าวว่า หลังจากมีการสอบโจทก์ ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ใช้รถยนต์ในปี 2566 ประกอบกับมีข้อมูลจากต่างประเทศ เช่น ประเทศญี่ปุ่น มาเลเซีย และไต้หวัน ที่พบว่าผู้เสียหายที่ใช้รถรุ่นดังกล่าวพบเจอปัญหาแบบเดียวกัน

จึงทำให้บริษัท มาสด้า ตัดสินใจไม่สู้คดี และเลือกใช้วิธีพิจารณาประนีประนอมยอมความ โดยเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ได้เผยแพร่ร่างประกาศเรื่องการพิจารณาให้ตกลงกันหรือประนีประนอมยอมความกัน ในคดีกลุ่มClass Action ของ มาสด้า ซีเอ็กซ์ – 5 (Mazda CX – 5) รุ่นสกายแอคทีฟ (Skyactiv) เครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งผลพิจารณานี้จะผูกพันกับผู้บริโภคทุกคน ที่ใช้รถยนต์มาสด้า ซีเอ็กซ์ – 5 รุ่นสกายแอคทีฟ เครื่องยนต์ดีเซล ที่เกิดปัญหาน้ำดันโดยที่ไม่ต้องมีการสมัครหรือขอเข้าร่วมกลุ่ม 

สำหรับรายละเอียดในการชดเชยเยียวยา แบ่งเป็น 4 กรณี ดังนี้

  1. รถยนต์มาสด้า ซีเอ็กซ์ – 5 รุ่นสกายแอคทีฟ เครื่องยนต์ดีเซล ทุกคัน จะได้รับการขยายระยะเวลารับประกันตลอดอายุการใช้งาน สำหรับอาการน้ำดัน และอาการที่สืบเนื่องจากอาการน้ำดัน ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามภายใต้เงื่อนไข คือผู้เสียหายต้องเข้ารับบริการที่ศูนย์มาสด้า ทุก ๆ รอบระยะทาง 10,000 กิโลเมตรหรือ 6เดือน และเปลี่ยนอุปกรณ์ตามตารางการบำรุงรักษารถที่กำหนดไว้ (ผู้บริโภคต้องเสียค่าบริการเอง) หากขาดการเข้ารับบริการศูนย์บริการมาสด้าทุก ๆ รอบระยะทาง ให้ถือว่าสิทธิในการได้รับการขยายระยะเวลารับประกันจะสิ้นสุดทันที
  2. รถยนต์ที่เกิดอาการน้ำดัน และเข้ารับการซ่อมบำรุงโดยศูนย์บริการมาตรฐานมาสด้า บริษัทฯ ยินดีคืนค่าบริการและค่าชิ้นส่วนอะไหล่ตามจำนวนที่ผู้เสียหายได้เสียไปจริง และชดใช้ค่าขาดประโยชน์ วันละ 1,000 บาท และ ค่ายินยอมให้เงินช่วยเหลือวันละ 750 บาท นับตั้งแต่วันที่รถเข้าซ่อมแซมและมีการออกใบสั่งซ่อม จนถึงวันที่ดำเนินการซ่อมเสร็จ ทั้งนี้ ภายใต้เงื่อนไข ผู้เสียหายต้องแสดงหลักฐานเกี่ยวกับค่าบริการ รวมถึงจำนวนวันที่นำรถเข้ารับบริการซ่อมบำรุง
  3. รถยนต์ที่เกิดอาการน้ำดัน และเข้ารับการซ่อมบำรุงโดยศูนย์บริการภายนอก บริษัทฯ จะชำระคืนค่าซ่อมบำรุง หรือค่าใช้จ่ายใด ๆ ตามความเป็นจริง แต่การซ่อมแซมดังกล่าว จะต้องเป็นไปตามวิธีที่บริษัทฯ กำหนดเท่านั้น และต้องแสดงหลักฐานการซ่อมแซมดังกล่าว หากในกรณีการซ่อมแซมไม่ถูกต้องตามวิธีที่บริษัทฯ กำหนด (เช่น การปาดหรือขัด หน้าฝาสูบ หน้าเสื้อสูบ) บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบหรือชำระคืนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แต่บริษัทฯ ยินดีตรวจสอบและซ่อมบำรุงโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติม
  4. รถยนต์ที่มีการดัดแปลงเครื่องยนต์ จะไม่อยู่ในเงื่อนไขที่จะได้รับการขยายระยะเวลารับประกันสำหรับอาการน้ำยาหล่อเย็นถูกดันออกทางถังพักน้ำสำรอง หรือ อาการน้ำดัน ตลอดอายุการใช้งาน แต่หากนำรถมาให้ศูนย์บริการมาสด้า ติดตั้งอุปกรณ์ให้กลับสู่สภาพเดิม แต่ต้องเสียค่าติดตั้งอุปกรณ์เอง และจะได้เข้าอยู่ในเงื่อนไขรับการขยายระยะเวลารับประกัน

นายจิณณะ กล่าวว่า หากพบปัญหาน้ำดันหลังจากประนีประนอมยอมความแล้ว ผู้ใช้รถยนต์มาสด้า ซีเอ็กซ์ – 5 รุ่นสกายแอคทีฟ เครื่องยนต์ดีเซลที่ทำตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ข้างต้น คือเข้ารับบริการที่ศูนย์มาสด้า ทุก ๆ รอบระยะทาง 10,000 กิโลเมตรหรือ 6 เดือน และเปลี่ยนอุปกรณ์ตามตารางการบำรุงรักษารถที่กำหนด จะได้รับได้รับค่าขาดประโยชน์ วันละ 1,000 บาท และค่ายินยอมให้เงินช่วยเหลือวันละ 750 บาท ในระหว่างช่วงที่ต้องนำรถเข้าศูนย์ด้วย

นายจิณณะ กล่าวอีกว่า ผู้บริโภคที่ไม่เห็นด้วยกับการประนีประนอม ต้องแจ้งขอออกจากคดีกลุ่ม ภายในวันที่ 29 เมษายน 2567 (อ่านคำประกาศศาลได้ที่ https://civilbsc.coj.go.th/.../detail/id/21/iid/400884) และจะมีนัดฟังคำคัดค้านของสมาชิกกลุ่มในวันที่ 30 เมษายน 2567 ส่วนที่ต้องการขอรับการเยียวยาความเสียหายต้องเตรียมหลักฐานค่าใช้จ่ายที่เสียไปในการซ่อมกรณีน้ำดันของศูนย์บริการรถยนต์ยี่ห้อมาสด้า หรือศูนย์บริการภายนอก เพื่อเตรียมยื่นให้กับศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ภายใน 60 วัน หลังวันที่มีประกาศจากศาล 

มาสด้า ซีเอ็กซ์-5  สกายแอคทีฟ   ออกมาจำหน่ายทั่วโลกตั้งแต่ปี 2554  และมียอดการผลิตเกิน 1 ล้านคัน  โดยเริ่มสายการผลิตที่โรงงานยูจินา ในเมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น ต่อจากนั้นก็ได้มีการขยายฐานการผลิตไปสู่ ฉางอัน มาสด้า ออโต้โมบิล ในจีน และมีการขึ้นไลน์ประกอบที่รัสเซีย  มาเลเซีย  และเวียดนาม รถรุ่นนี้ได้รางวัลมากว่า 60 รางวัลทั่วโลก  และเป็นรถ SUV ที่มียอดขายสูงสุดในประเทศญี่ปุ่นในปี 2555-2556

ข่าวที่น่าสนใจ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์