JKN รับทำ Call Option ยืนยันเป็นสัญญาร่วมลงทุนปกติ

15 มีนาคม 2567 - 06:37

economic-thai-stock-market-jkn-SPACEBAR-Hero.jpg
  • JKN ชี้แจงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกรณี Call Option

  • เป็นการทำสัญญาร่วมลงทุนตามปรกติของการหาผู้ร่วมทุน

  • ยืนยันไม่มีผลทันที และหากจะใช้ต้องเหมาะสมและเป็นธรรม

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) หรือ JKN  จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์  ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ชี้แจงประเด็นเกี่ยวกับการให้สิทธิ Call Option แก่ Legacy Holding Group USA Inc. (LHG) ตามที่มีกระแสข่าว โดย JKN Global Content Pte. Ltd. (JKN Global Content) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย มีข้อตกลงภายใต้สัญญาระหว่างผู้ถือหุ้นของJKN Legacy คือ JKN Global Content กับ LHG (สัญญาระหว่างผู้ถือหุ้นฯ) เกี่ยวกับการให้สิทธิ Call Option แก่ LHG

สิทธิดังกล่าว มีลักษณะเป็นสิทธิแบบมีเงื่อนไขของการเกิดสิทธิไม่ได้มีผลในทันที โดยปัจจุบัน JKN Global Content ยังคงถือหุ้นใน JKN Legacy ร้อยละ 50 ของหุ้นทั้งหมด ยังคงมีอํานาจควบคุม JKN Legacy นอกจากนี้ หากในอนาคตเกิดเหตุการณ์ที่มีผลให้เกิดสิทธิ Call Option ขึ้นจริงและ LHG ประสงค์ใช้สิทธิดังกล่าว LHG และ JKN Global Content ก็จะต้องเข้าทําข้อตกลงภายใต้ข้อกําหนดและเงื่อนไขทางการค้าที่เหมาะสมและเป็นธรรมต่อไป

ข้อตกลงภายใต้สัญญาระหว่างผู้ถือหุ้นฯ ดังกล่าวไม่ได้มีลักษณะพิเศษแต่อย่างใด หากแต่เป็นข้อตกลงที่พบได้ทั่วไปในการเข้าร่วมทุน และเข้าเป็นหุ้นส่วนในบริษัท ทั้งนี้บริษัทไม่ได้เป็นผู้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการให้สิทธิ Call Option แก่ LHG ตามที่ปรากฎเป็นข่าวในสื่อแต่อย่างใด 

ก่อนหน้านี้บริษัท เจเคเอ็น ได้ชี้แจงต่อกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงกรณีเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 JKN ได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางภายใต้พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 (รวมที่แก้ไขเพิ่มเติม) โดยเสนอให้บริษัทเป็นผู้ทำแผน ต่อมาในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทไว้พิจารณาและกำหนดวันไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการในวันที่ 29 มกราคม 2567 โดยในวันดังกล่าวศาลล้มละลายกลางอนุญาตให้เลื่อนไปนัดไต่สวนคำร้องในวันที่ 5, 6 และ 7 มีนาคม 2567 นั้น

บริษัทขอแจ้งว่า ในวันที่ 5 มีนาคม 2567 ศาลล้มละลายกลางได้ไส่สวนพยานของผู้ร้องขอ และไต่สวนพยานของผู้คัดค้านแล้ว คดีเสร็จการไต่สวน ให้นัดฟังคำสั่งในวันที่ 23 เมษายน 2567 และยกเลิกนัดวันที่ 6 และ 7 มีนาคม 2567 ทั้งนี้ ไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานใด ๆ ของบริษัท

เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 บริษัทได้ยื่นคำร้องขอศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ลูกหนี้ผู้ร้องขอชำระหนี้ให้แก่ เจ้าหนี้บางส่วน โดยบริษัทได้ร้องขอต่อศาลล้มละลายกลางว่า ภายหลังจากได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการแล้ว บริษัทมีเจตนาที่จะชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ทุกราย บริษัทและที่ปรึกษาทางการเงิน และตัวแทนของเจ้าหนี้หุ้นกู้กับผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าหนี้หุ้นกู้และผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ทั้ง 7 รุ่น ได้มีการเจรจาเพื่อจะชำระหนี้หุ้นกู้บางส่วนมาโดยตลอด 

สำหรับผลการเจรจาได้ข้อสรุปเบื้องตันว่า บริษัทจะนำเงิน 70,000,000 บาทไปชำะหนี้เงินต้นบางส่วน ให้แก่เจ้าหนี้หุ้นกู้อย่างเท่าเทียมกัน ทั้งนี้ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งในวันที่ 1 มีนาคม 2567 ว่า คดีอยู่ในระหว่างการนัดไต่สวนคำร้องขอ จึงไม่อนุญาตให้ยกคำร้องตกไป

ข่าวที่น่าสนใจ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์