EIC มองโค้งท้ายปีส่งออกไทยชะลอตัว ตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลก

23 พ.ย. 2565 - 04:36

  • มาตรการรัฐกระตุ้นเศรษฐกิจจะมีน้อยลงจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทที่ได้รับการอนุมัติจาก ครม. เต็มจำนวนแล้ว

  • เหลือเพียงราว 42,000 ล้านบาทที่รอเบิกจ่าย

economics-EIC-forcast-thailand-growth-2023-SPACEBAR-Hero
Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เผยผลวิเคราะห์ระบุ 
เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สี่ติดต่อกันที่ 4.5%เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยฐาน เนื่องจากเศรษฐกิจไทยในไตรมาสสามของปี 2564  ยังเผชิญมาตรการควบคุมการระบาด COVID-19 เข้มงวด และหากเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เศรษฐกิจไทยในไตรมาสสามขยายตัวถึง 1.2% หลังปรับปัจจัยฤดูกาล (QOQ_sa)  
 
โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน การลงทุนภาคเอกชน กอปรกับภาคการท่องเที่ยวและบริการที่ฟื้นตัวดีตามการเปิดเมืองและเปิดประเทศ ส่งผลให้ในภาพรวม 9 เดือนแรกของปี 2022 เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 3.1% 
 
หากพิจารณากิจกรรมเศรษฐกิจด้านภาคการผลิต (Production approach) พบว่า หลายภาคเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ดี นำโดยภาคอุตสาหกรรมที่กลับมาขยายตัวจากเดิมที่หดตัวในไตรมาสก่อน ภาคบริการที่ฟื้นตัวต่อเนื่องตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นกับการขยายตัวของการบริโภคภายในประเทศ  
 
อย่างไรก็ดี ภาคการก่อสร้างยังคงหดตัวต่อเนื่องตามการลดลงของการก่อสร้างภาครัฐ ประกอบกับการหดตัวของภาคเกษตรตามการลดลงของผลผลิตพืชเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย 
 
  
 

เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 

 
EIC ประเมินเศรษฐกิจไทยในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในไทยราว 10.3 ล้านคนในปี 2565 จากความต้องการเดินทางท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้นจากอุปสงค์คงค้าง (Pent-up demand) การผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในไตรมาส 4 ที่เป็นช่วง High season นักท่องเที่ยวจากประเทศเมืองหนาวจะเดินทางมาไทย  
 
อีกทั้ง จำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเองก็มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ภาคบริการในภาพรวม โดยเฉพาะบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และการขนส่ง ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง 
 
การฟื้นตัวของภาคบริการท่องเที่ยวมีส่วนสนับสนุนให้การบริโภคภาคเอกชนเติบโตดีจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจและตลาดแรงงานที่กลับมาเป็นปกติมากขึ้น สำหรับการส่งออกสินค้าในช่วงท้ายปีอาจได้รับอานิสงส์จากปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และวัตถุดิบที่เริ่มคลี่คลาย โดยเฉพาะเซมิคอนดักเตอร์  
 
อย่างไรก็ดีการส่งออกของไทยในภาพรวมมีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่องตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงในช่วงท้ายปี ด้านความช่วยเหลือจากทางภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจจะมีน้อยลงจาก พ.ร.ก. กู้เงิน 5 แสนล้านบาทที่ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเต็มจำนวนแล้ว และเหลือเพียงราว 42,000 ล้านบาทที่รอเบิกจ่าย 
 

คาดเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลงและความไม่แน่นอนรอบด้านกดดันการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย ปี 2566 

 
สำหรับปี 2566 EIC คาดเศรษฐกิจโลกเผชิญความไม่แน่นอนสูงขึ้น ทั้งความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจ นโยบายเศรษฐกิจ และภูมิรัฐศาสตร์ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลง เป็นแรงกดดันสำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยผ่านการส่งออกที่จะชะลอตัวลงมากจากที่เคยเติบโตดีในช่วงที่ผ่านมา 
 
โดยเฉพาะการส่งออกไปตลาดจีนที่เศรษฐกิจกำลังเผชิญปัญหาหลายมิติ รวมถึงตลาดสำคัญในยุโรปและสหรัฐฯ ที่เศรษฐกิจอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยตั้งแต่ปลายปีนี้และกลางปีหน้า ตามลำดับ ส่งผลต่อเนื่องทำให้การผลิตในภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนภาคเอกชนอาจขยายตัวชะลอลงเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในส่วนที่พึ่งพาตลาดต่างประเทศเป็นหลัก สำหรับความช่วยเหลือจากทางภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจจะมีน้อยลง เนื่องจากข้อจำกัดทางการคลังทำให้รัฐบาลระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น 
 
เศรษฐกิจไทยในปี 2566 จะมีการท่องเที่ยวและการบริโภคเอกชนเป็นแรงขับเคลื่อนหลักให้เศรษฐกิจยังฟื้นตัวต่อเนื่อง ท่ามกลางความเสี่ยงและความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่ปรับสูงขึ้น  โดยเศรษฐกิจไทยยังต้องเผชิญความเสี่ยงรอบด้าน เช่น ความไม่แน่นอนของจีนในการผ่อนคลายมาตรการ Zero covid ที่อาจใช้เวลานานกว่าคาด ทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยน้อยลงและช้าลง รวมถึงอาจทำให้ปัญหาห่วงโซ่อุปทานโลกคลี่คลายช้าลง ภาวะเงินเฟ้อสูงในประเทศที่อาจยาวนานกว่าคาดจากราคาพลังงานที่ยังอยู่ในระดับสูง การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยที่อาจกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของภาคครัวเรือนเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง และประเด็นความไม่แน่นอนทางการเมืองจากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยในช่วงต้นปี 2566 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์