นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) 17 มกราคม 2567 ให้ความเห็นชอบ วงเงินรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 จำนวน 3,6000,000 ล้านบาท รวมถึงมีการปรับปรุงปฏิทินงบประมาณปี 2568 ซึ่งทางสำนักงบประมาณ มีการนำเสนอโครงสร้างงบประมาณปี 2561 ไปและคาดว่า รัฐบาลจะสามารถจัดเก็บรายได้ รวมจำนวน 3,454,400 ล้านบาท ซึ่งหากการคืนภาษีของกรมสรรพากร และอื่นๆ จะคงเหลือรายได้สุทธิจำนวน 2,887,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ มีสาระสำคัญ 3 ส่วนคือ “โครงสร้างงบประมาณ รายได้สุทธิ และงบประมาณขาดดุล” โดย...
- รายได้สุทธิอยู่ที่ 2,887,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2568 จำนวน 100,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.59%
- งบประมาณขาดดุล มีจำนวนอยู่ที่ 713,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นปีงบประมาณ 2567 จำนวน 20,000 ล้านบาท หรือ 2.89 % คิดเป็นสัดส่วนหากเปรียบเทียบตาม GDP 3.56% เปรียบเทียบจากปีงบประมาณ 2567 สัดส่วนอยู่ที่ 3.64% ถือเป็นสัดส่วนที่ลดลง
ครม.ยังมีการปรับปรุงปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 หลักการเหตุผลอยู่ 2 ข้อ เพื่อให้สอดคล้องกับข้อสำคัญของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งคำสั่งการของนายกฯ คือ “ขอให้ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญกับการนำนโยบายของรัฐบาลมากำหนดเป็นจุดเน้น ที่ต้องดำเนินงานในปีงบประมาณ 2568 และใช้เป็นกรอบในการจัดทำแผนงาน/โครงการรองรับต่อไป
ขณะเดียวกันให้กำหนดสัดส่วนการจัดสรรงบประมาณให้สะท้อนถึงการทำงานของนโยบายรัฐบาลให้ชัดเจน พร้อมมีการกำหนดตัวชี้วัด (KPI) เพื่อให้วัดผลอย่างเป็นรูปธรรมและในกรณีที่เพิ่มหรือลดงบประมาณในรายการใดต้องมีเหตุผลและความจำเป็นที่สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจน
และอีกข้อ ยังเป็นไปเพื่อให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัดสามารถจัดทำข้อเสนอโครงการที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเสนอของการกระจายอำนาจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานเชิงพื้นที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ
ทั้ง 2 เหตุผล นี้จึงนำสู่ข้อเสนอ “การปรับปรุงปฏิทินงบประมาณรายจ่ายปี 2568” โดยในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 จะเป็นห้วงเวลาในการส่งคำของบประมาณ โดยหลังจากนั้นระหว่างที่ 3 กุมภาพันธ์ - 19 มีนาคม จะมีการพิจารณารายละเอียด เพื่อให้วันที่ 26 มีนาคม มีการนำเข้ามาสู่ ครม.เพื่อขอความเห็นชอบ
หลังจากนั้นจะผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงรายละเอียดต่างๆ เพื่อให้มีการพิมพ์ร่าง พ.ร.บ.ออกมา และนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้งในวันที่ 28 พฤษภาคม 2567 เพื่อให้ครม.ให้ความเห็นชอบ
จากนั้นจะมีการนำเข้าสู่สภาฯ เพื่อให้ สส.พิจารณาในวาระแรกช่วง 5-6 มิถุนายน 2567 ผ่านกระบวนการต่างๆ เพื่อให้สอดพิจารณาวาระที่ 2 และ 3 ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม และหลังจากนั้นจะเข้าสู่เวลาให้ สว.พิจารณาในช่วงต้นเดือนกันยายน เพื่อให้การนำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีขึ้นทูลเกล้าฯ และประกาศใช้ให้ทันภายในช่วงวันที่ 17 กันยายน 2567 นี้ต่อไป