ณัฏฐ์ ณัฐนิธิการัชต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด หรือ ADVICE เคยให้สัมภาษณ์ forbesthailand ว่า หลังจากเรียนจบสาขาบัญชีมา ตนได้เป็นพนักงานบัญชี แต่หลังจากนั้น ก็เปลี่ยนงาน 2-3แห่ง จนสุดท้ายย้ายมาอยู่บริษัทธุรกิจประเภทเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าซึ่ง ทำให้เขาได้รู้จักกับ 'อมร ทาทอง' และต่อมาทั้งคู่เห็นช่องทางโอกาสในการทำธุรกิจ จึงได้ออกมาก่อตั้ง ADVICE
โดยในปี 2543 (24ปีก่อน) ทั้งคู่ได้ก่อตั้ง บริษัท แอดไวซ์ คอมพิวเตอร์ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท รูปแบบการขายคือรับออเดอร์จากลูกค้าแล้วไปซื้อคอมมาประกอบจากห้างพันธุ์ทิพย์จนยอดขายดีมากทำให้ คืนทุนภายในไม่กี่เดือน
จากนั้นธุรกิจก็ค่อยค่อยขยับขยายกลาย เป็นบริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด (มหาชน) ผู้ค้าปลีก และ ค้าส่ง สินค้าไอทีรายใหญ่ ของประเทศ
โดยล่าสุด เปิดจองการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 170 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3.24 บาท ระหว่างวันที่ 22-24 มกราคม 2567 ได้รับความสนใจจากนักลงทุนแห่จองหมดเกลี้ยง โดยคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 31 มกราคม 2567 ในหมวดธุรกิจกลุ่มบริการ/พาณิชย์
ADVICE เป็น 1 ใน 4 ผู้จัดจำหน่ายสินค้าไอทีรายใหญ่ที่มียอดขายสูงสุดของประเทศ โดยมีผลการดำเนินงานของ ADVICE ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ
ในปี 2563 อยู่ที่ 12,541.2 ล้านบาท กำไรสุทธิ 134.0 ล้านบาท
ปี 2564 อยู่ที่ 14,305.8 ล้านบาท กำไรสุทธิ 233.8 ล้านบาท
ปี 2565 อยู่ที่ 14,388.2 ล้านบาท กำไรสุทธิ 205.7 ล้านบาท
คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) เท่ากับร้อยละ 8.1 ต่อปี
ส่วนภาพรวม ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการจำนวน 10,336.5 ล้านบาท ลดลงจำนวน 922.7 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.2 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือเป็นการลดลงที่ดีกว่าภาพรวมตลาด อันเนื่องมาจากการปรับฐานเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากความต้องการสินค้าไอทีเพิ่มสูงขึ้นเป็นพิเศษในช่วงสถานการณ์ COVID-19 ส่งผลให้ 9 เดือนของปี 2566 มีกำไรสุทธิจำนวน 136.5 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับร้อยละ 1.32 ลดลงจากปี 2565 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 1.43
สินค้าและบริการชอง บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในผู้จำหน่ายสินค้าไอทีรายใหญ่ของประเทศ ประกอบธุรกิจจำหน่ายปลีก-ส่ง สินค้าไอทีภายใต้ชื่อร้าน “Advice” ซึ่งเป็นร้านค้าในรูปแบบไอทีซุปเปอร์สโตร์ บริษัทฯ จำหน่ายสินค้าไอทีที่มีความหลากหลาย เช่น คอมพิวเตอร์ประกอบ (D.I.Y) คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค (Notebook) คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป (Desktop) และอุปกรณ์เสริมต่างๆ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังจำหน่ายสินค้ากลุ่มดิจิทัลไลฟ์สไตล์ Internet of Things (IoT) ไปจนถึงสมาร์ทโฟนและเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน นอกจากการจำหน่ายสินค้าไอที บริษัทฯ ยังให้บริการรับเคลมสินค้าที่มีปัญหากับผู้ผลิต รวมถึงให้บริการซ่อมบำรุงและตรวจเช็คอุปกรณ์ไอทีแบบครบวงจร
บริษัทฯ แบ่งการดำเนินธุรกิจออกเป็น 5 ประเภท ดังนี้ ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ผ่านสาขา ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ผ่านออนไลน์ ธุรกิจค้าส่งสินค้าให้แก่ตัวแทนจำหน่ายและสาขาแฟรนไชส์ ธุรกิจลูกค้าองค์กร และ ธุรกิจบริการ
ข้อมูลจาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด (มหาชน) ต้องการนำเงินที่ได้จากการ IPO นำไปใข้ใน 4 วัตถุประสงค์
1.ลงทุนขยายกิจการกิจการของบริษัทรวมถึงขยายสาขาของบริษัทและปรับปรุงสาขาเดิมของบริษัท
2.ชำระคืนเงินกู้ยืมกับสถาบันการเงิน
3.เปลี่ยนเงินทุนหมุนเวียนในการจัดจัดซื้อสินค้าและเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
4. ลงทุนปรับปรุงระบบเทคโนโลยี สารสนเทศ
โดยมีกรอบการใช้เงินทุนตั้งแต่ช่วงปี 2567- 2570
ซึ่งก่อนที่จะมาถึงวันระดมทุนนี้ ณัฏฐ์ ณัฐนิธิการัชต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด เขาเคยให้สัมภาษณ์ forbesthailand ไว้ว่าเขาใช้เวลา 4-5 ปีnก่อนเตรียมบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ สาเหตุที่ต้องระดุมเพิ่มทุนโดยใช้วิธีนี้ เนื่องจากต้องการทำให้ธุรกิจขนาดใหญ่กว่าเดิม แต่ติดขัดด้านเงินทุน ซึ่งเชื่อว่าการเข้าตลาดจะทำให้เค้าปลดล็อคข้อจำกัดบางอย่างและได้ขยับขยายธุรกิจให้เติบโตได้มากขึ้น
ที่มา : https://www.techmoveon.com/commu/advice-ipo-set-trading/
https://forbesthailand.com/people/self-made-billionaires/nath-natnithikarat-advice