ก้าวแรกที่สำคัญของการส่งออก BEV จากไทยไปยุโรป

9 พ.ย. 2566 - 07:03

  • คณะกรรมาธิการยุโรป อาจออกมาตรการขึ้นภาษีต่อต้านการอุดหนุน BEV จากรัฐบาลจีน

  • ค่ายจีนที่ได้รับผลกระทบ มีการลงทุนในไทย

  • อาจส่งออก BEV รุ่นเดียวกันที่ผลิตในไทยไปยังตลาดยุโรปทดแทน

economy-bev-ev-eu-china-thailand-export-auto-electric-car-SPACEBAR-Hero.jpg

ปัจจุบัน BEV นำเข้าจากจีน มีส่วนแบ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในตลาดอียู นำมาซึ่งความกังวลของคณะกรรมาธิการยุโรป จนเดินไปสู่การเปิดสอบสวนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา กับ BEV นำเข้าจากจีนทุกค่ายไม่จำกัดสัญชาติ เรื่องที่อาจมีการรับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลจีน ซึ่งอาจทำให้เกิดมาตรการเรียกเก็บภาษีตอบโต้การอุดหนุน อย่างเร็วที่สุด คือ กรกฎาคม 2567

ในกรณีที่อียูออกมาตรการขึ้นภาษีต่อต้านการอุดหนุนออกมาจริง ก็อาจกระทบต่อการส่งออก BEV จากจีนไปยุโรปไม่มากก็น้อย ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นอาจไม่เท่ากัน โดยคาดว่าอาจจะมีทั้งค่ายที่โดนเรียกปรับภาษีสูง และค่ายที่โดนเรียกปรับภาษีต่ำกว่า 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า จากกรณีนี้ไทยมีโอกาสได้รับประโยชน์ โดยค่ายจีนที่ได้รับผลกระทบมากแล้วมีการลงทุนในไทยด้วย อาจส่งออก BEV รุ่นเดียวกันที่ผลิตในไทยไปยังตลาดยุโรปทดแทน แต่เนื่องจากต้นทุนการผลิตในไทยอาจสูงกว่าผลิตในจีน เพราะค่ายรถจีนเพิ่งจะเริ่มเดินสายการผลิตในไทยปีหน้า ทำให้ยังไม่ถึงจุดที่ได้ Economies of scale จึงอาจทำให้ไทยได้โอกาสส่งออกทดแทนไปยุโรปแค่บางส่วน  

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในจำนวนกำลังการผลิต BEV ปี 2567 ของค่ายจีนในไทยที่น่าจะทำได้ไม่น้อยกว่า 70,000 คันนั้น มีโอกาสที่จะส่งออกไปตลาดยุโรปราว 10,000 คัน ซึ่งแม้จะยังน้อยหรือคิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 8% ของยอดขาย BEV ค่ายจีนทั้งหมดในยุโรปที่ อาจขายได้ไม่ต่ำกว่า 130,000 คันในปีหน้า แต่ก็จะนับเป็นก้าวแรกที่สำคัญของการส่งออก BEV จากไทยไปยุโรป  

ตัวเลขคาดการณ์ส่งออก มีโอกาสต่ำกว่าที่คาดได้ หากคำตัดสินออกมาล่าช้า หรือแม้แต่มีประเด็นที่ส่งผลให้ทิศทางการตัดสินของคณะกรรมาธิการยุโรปเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะจากความเห็นที่ยังไม่ลงรอยกันเองในกลุ่มประเทศอียูต่อแนวทางการเก็บภาษีต่อต้านการอุดหนุนดังกล่าว และยังมีกรณีที่จีนอาจมีมาตรการตอบโต้ออกมาที่อาจกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิต BEV ในยุโรป เนื่องจากจีนครองตลาดห่วงโซ่อุปทานการผลิตแบตเตอรี่อยู่

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์