เปลี่ยน ‘ต้นไม้’ เป็นเงินทุนแล้ว 141 ล้านบาท

30 ธ.ค. 2566 - 05:00

  • เปลี่ยน ‘ไม้ยืนต้นที่มีค่า’ เป็นเงินทุน หมุนธุรกิจ

  • ธ.ก.ส.​ - กรุงไทย – พิโกไฟแนนซ์ เปลี่ยนเป็นเงินทุนรวม 141 ล้านบาท

  • กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สนับสนุนให้ผู้ประกอบธุรกิจเข้าถึงเงินทุนมากขึ้น

Economy-change-trees-As-collateral-in-business-SPACEBAR-Hero.jpg

เปลี่ยน ‘ต้นไม้’เป็นเงินทุนแล้ว 141 ล้านบาท

อรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2559  ถึง 27 ธันวาคม 2566 มีคำขอจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจจำนวนทั้งสิ้น 815,227 คำขอ ทรัพย์สินรวมที่ใช้เป็นหลักประกันจำนวน 16,592,608 ล้านบาท  

โดยสิทธิเรียกร้องเป็นทรัพย์สินที่ใช้เป็นหลักประกันมากที่สุด ร้อยละ 80.04 (มูลค่า 13,279,989 ล้านบาท)  รองลงมา สังหาริมทรัพย์ที่ใช้ ในการประกอบธุรกิจ ได้แก่ สินค้าคงคลัง วัตถุดิบ เครื่องจักร รถยนต์ เรือ เครื่องบิน สัตว์พาหนะ ร้อยละ 19.94  (มูลค่า 3,308,608  ล้านบาท) ทรัพย์สินทางปัญญา ร้อยละ 0.01 (มูลค่า 1,991 ล้านบาท) กิจการ ร้อยละ 0.01 (มูลค่า 1,481 ล้านบาท) อสังหาริมทรัพย์ที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ ร้อยละ 0.002  (มูลค่า 398 ล้านบาท)   

ขณะที่ ไม้ยืนต้นที่มีค่า ซึ่งสามารถนำมาเป็นหลักประกันตั้งแต่ปี 2561 ถึงปัจจุบัน ได้รับความสนใจจาก สถาบันการเงินและธุรกิจพิโกไฟแนนซ์รับเป็นหลักประกันทางธุรกิจ จำนวน 154,064 ต้น มูลค่าสินเชื่อรวมกว่า 141 ล้านบาท แบ่งเป็น 

1.ธุรกิจพิโกไฟแนนซ์ จำนวน 129,988 ต้น มูลค่าสินเชื่อ 6,293,891.92 บาท ต้นไม้ที่นำมาใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจส่วนใหญ่ ได้แก่ ต้นสัก ต้นขนุน ยางพารา ต้นยูคาลิปตัส ไม้สกุลทุเรียน ไม้สกุลมะม่วง ไม้สกุลยาง เป็นต้น

2.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 1,076 ต้น  มูลค่าสินเชื่อ 6,236,034.02 บาท

3.ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 23,000 ต้น มูลค่าสินเชื่อ 128,000,000.00 บาท

กฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ เป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบธุรกิจ (โดยเฉพาะธุรกิจเอสเอ็มอี) และประชาชน สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายมากขึ้น โดยสามารถนำทรัพย์สินที่มีมูลค่าที่ใช้ในการประกอบธุรกิจมาเป็นหลักประกันการชำระหนี้ได้โดยไม่ต้องส่งมอบทรัพย์สินนั้น ได้แก่  

กิจการ เช่น กิจการร้านกาแฟ ร้านอาหารเคลื่อนที่ (ฟู้ดทรัค)  

สิทธิเรียกร้อง เช่น บัญชีเงินฝาก สิทธิการเช่า ลูกหนี้การค้า   

สังหาริมทรัพย์ที่ผู้ให้หลักประกันใช้ในการประกอบธุรกิจ เช่น สินค้าคงคลัง เครื่องจักร รถยนต์  

อสังหาริมทรัพย์ที่ผู้ให้หลักประกันประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยตรง เช่น ที่ดินจัดสรร/หมู่บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม  

ทรัพย์สินทางปัญญา เช่น เครื่องหมายการค้า สิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ และ  

ทรัพย์สินอื่น ซึ่งขณะนี้ คือ ไม้ยืนต้นที่สามารถนำมาเป็นหลักประกันการชำระหนี้ได้ ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจยังสามารถใช้ทรัพย์สินนั้นต่อยอดทางธุรกิจหรือผลิตสินค้าหรือบริการเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจต่อไป

นอกจากนี้ตั้งแต่นำระบบจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ (e-Secured) มาใช้ตั้งแต่ปี 2559 รองรับการจดทะเบียนตั้งแต่วันแรกที่กฎหมายเริ่มมีผลบังคับใช้ (วันที่ 2 กรกฎาคม 2559) โดยรับจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ พบภาคธุรกิจและประชาชนนำทรัพย์สินมาจดทะเบียนเป็นหลักประกันทางธุรกิจแล้ว 8 แสนกว่าคำขอ วงเงินรวมแตะ 17 ล้านล้านบาท สะท้อนภาพหลักประกันทางธุรกิจช่วยเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้จริง

Economy-change-trees-As-collateral-in-business-SPACEBAR-Photo01.jpg

อรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ล่าสุดกรมฯ ได้พัฒนาระบบจดทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Secured) ขึ้นใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการที่ดียิ่งขึ้นและเป็นมิตรกับผู้ใช้งานมากที่สุด เน้นให้ผู้เกี่ยวข้องสามารถนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ได้ทันที โดยข้อมูลมีความถูกต้อง ครบถ้วน เป็นปัจจุบัน ที่สำคัญ ระบบใช้งานง่ายมากขึ้น สะดวก รวดเร็ว ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายให้ภาคธุรกิจและประชาชน เป็นการให้บริการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจผ่านระบบออนไลน์ที่ครบวงจร  

ทั้งการขึ้นทะเบียนและการยืนยันตัวตนผู้รับหลักประกัน การจดทะเบียนฯ การตรวจค้นข้อมูลสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ การขอรับใบอนุญาตและการตรวจดูรายชื่อผู้บังคับหลักประกัน การแสดงสถิติทางทะเบียนได้พัฒนาใหม่ในรูปแบบ Dashboard ที่ทันสมัยและอัพเดทข้อมูลตลอดเวลา ประชาชนและผู้ประกอบธุรกิจสามารถนำข้อมูลหรือสถิติไปประกอบการตัดสินใจดำเนินธุรกรรมได้ทันที

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์