ชื่อของ ประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) คนใหม่ ถูกตั้งข้อสงสัยถึงความเชี่ยวชาญในการมำงาน ที่ต้องกำกับดูแลนโยบายดิจิทัลของประเทศ กระทรวงดิจิทัลไม่ได้มีงบประมาณสูงสุด ไม่ใช่กระทรวงเกรด A (สำหรับบางพรรคอาจจะใช่) แต่มีความสำคัญเพราะเกือบทุกนโยบายของทุกกระทรวง ใช้ ดิจิทัล ขับเคลื่อน
ประเสริฐ ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีครั้งแรก แต่เคยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แม้ว่าจะไม่มีประสบการณ์บริหารธุรกิจดิจิทัล แต่ประเสริฐ จบวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สถาบันที่ผลิตมืออาชีพทางด้านดิจิทัลหลายคนในวงการ ดังนั้น เขาไม่ non sense เทคโนโลยีแน่นอน
เมื่อถามถึงการจัดลำดับความสำคัญกับงานดิจิทัล รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัล ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งใหม่ได้จัดลำดับความสำคัญของงานที่สำคัญที่สุด โดยจัดการกับการฉ้อโกงทางออนไลน์และการหลอกลวงทางคอลเซ็นเตอร์ ตลอดจนกำหนดรูปแบบโครงการที่กำลังดำเนินอยู่ เช่น รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ของรัฐบาลที่เกี่ยวกับดิจิทัลแล้วเป็นนโยบายสำคัญของพรรคเพื่อไทย รัฐมนตรีใหม่ยืนยันว่า กระทรวงฯ จะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการพัฒนา ‘กระเป๋าเงินดิจิทัล’ ตามนโยบายสัญญาของพรรคเพื่อไทยโดยคาดว่าจะเป็นรูปธรรมในปี 2567
สำหรับการเข้าทำงานและขับเคลื่อนนโยบาย เตรียมทีมที่ปรึกษาและสนับสนุน เพื่อช่วยจัดการและกำหนดรูปแบบการดำเนินงาน ทำนโยบาย ตลอดจนร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ
ส่วนงานเร่งด่วน ที่จะขับเคลื่อนเรื่องการฉ้อโกงออนไลน์การหลอกลวงผ่านแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นปัญหาสำคัญที่สุดที่สร้างผลเสียต่อประชาชน กระทรวงต้องดำเนินการงานนี้อย่างจริงจังเป็นอันดับแรก ด้วยพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยให้ทางเลือกแก่เหยื่อ ธนาคาร และเจ้าหน้าที่ในการต่อสู้กับกลโกงออนไลน์และกิจกรรมออนไลน์ที่ผิดกฎหมายอื่น
“การเสริมสร้างกระบวนการต่อต้านการหลอกลวงและระบบแจ้งเตือนของผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลถือเป็นภารกิจหลักหลายประการของหน่วยงานภายใต้ ฃกระทรวงดีอีเอส ภายใต้รัฐบาลใหม่จะต้องร่วมมืออย่างจริงจังกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อผลักดันและปรับใช้ Digital Wallet ให้กับประชาชนทั่วประเทศภายในปี 2567 ตามนโยบายสัญญาของพรรคเพื่อไทย” ประเสริฐ กล่าว
กระทรวงดิจิทัลยังมีนโยบายสำคัญที่เป็นเจ้าภาพ และให้ความสำคัญในการขับเคลื่อน ประกอบด้วยการดำเนินการตามรูปแบบการกำกับดูแลใหม่ เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) การพัฒนานวัตกรรม ได้แก่ Digital ID, Digital Post ID และ Cloud แบบรวมศูนย์เพื่อการสาธารณสุข หรือเรียกว่าแพลตฟอร์มสุขภาพดิจิทัลแห่งชาติ รัฐบาลยังดำเนินโครงการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ
ส่วนงานที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการดูแลของกระทรวงฯ แต่จะได้รับความร่วมมือในการขับเคลื่อน เช่น การพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย ที่มีเป้าพัฒนาให้อยู่ในอันดับที่ 40 ของโลกภายในปี 2570 เพิ่มขึ้นจากอันดับที่ 53 ในปัจจุบัน การสนับสนุนแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลแบบครบวงจรที่รองรับการพัฒนาประเทศอัจฉริยะและนโยบายชีวิตอัจฉริยะของรัฐบาล สำหรับเรื่องใหม่สำหรับเทคโนโลยีที่มาแรฝ ขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศผ่านเทคโนโลยี AI ให้สอดคล้องกับร่างแผนพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ดิจิทัลฉบับที่ 2 ของประเทศไทย ระหว่างปี 2566 ถึง 2570
“ผมไม่ได้เป็นโปรแกรมเมอร์คอมพิวเตอร์ หรือมีทักษะเฉพาะเช่นคนด้าน ICT แต่ก็มุ่งมั่นที่จะทำให้ดีที่สุดในตำแหน่งรัฐมนตรีผ่านระเบียบวิธีของการทำงานเป็นทีมที่ปรึกษา ฝ่ายบริหารของกระทรวงดีอีเอสและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ผมมีประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการยาวนานุทั้งในด้านธุรกิจ หน่วยงานของรัฐ และการเมือง เนื่องจากเขาได้รับเลือกให้เป็น ส.ส.ในจังหวัดนครราชสีมาผ่านการเลือกตั้งครั้งใหญ่ในประเทศถึง 6 ครั้ง”
ประเสริฐ ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีครั้งแรก แต่เคยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แม้ว่าจะไม่มีประสบการณ์บริหารธุรกิจดิจิทัล แต่ประเสริฐ จบวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สถาบันที่ผลิตมืออาชีพทางด้านดิจิทัลหลายคนในวงการ ดังนั้น เขาไม่ non sense เทคโนโลยีแน่นอน
เมื่อถามถึงการจัดลำดับความสำคัญกับงานดิจิทัล รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัล ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งใหม่ได้จัดลำดับความสำคัญของงานที่สำคัญที่สุด โดยจัดการกับการฉ้อโกงทางออนไลน์และการหลอกลวงทางคอลเซ็นเตอร์ ตลอดจนกำหนดรูปแบบโครงการที่กำลังดำเนินอยู่ เช่น รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ของรัฐบาลที่เกี่ยวกับดิจิทัลแล้วเป็นนโยบายสำคัญของพรรคเพื่อไทย รัฐมนตรีใหม่ยืนยันว่า กระทรวงฯ จะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการพัฒนา ‘กระเป๋าเงินดิจิทัล’ ตามนโยบายสัญญาของพรรคเพื่อไทยโดยคาดว่าจะเป็นรูปธรรมในปี 2567
สำหรับการเข้าทำงานและขับเคลื่อนนโยบาย เตรียมทีมที่ปรึกษาและสนับสนุน เพื่อช่วยจัดการและกำหนดรูปแบบการดำเนินงาน ทำนโยบาย ตลอดจนร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ
ส่วนงานเร่งด่วน ที่จะขับเคลื่อนเรื่องการฉ้อโกงออนไลน์การหลอกลวงผ่านแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นปัญหาสำคัญที่สุดที่สร้างผลเสียต่อประชาชน กระทรวงต้องดำเนินการงานนี้อย่างจริงจังเป็นอันดับแรก ด้วยพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยให้ทางเลือกแก่เหยื่อ ธนาคาร และเจ้าหน้าที่ในการต่อสู้กับกลโกงออนไลน์และกิจกรรมออนไลน์ที่ผิดกฎหมายอื่น
“การเสริมสร้างกระบวนการต่อต้านการหลอกลวงและระบบแจ้งเตือนของผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลถือเป็นภารกิจหลักหลายประการของหน่วยงานภายใต้ ฃกระทรวงดีอีเอส ภายใต้รัฐบาลใหม่จะต้องร่วมมืออย่างจริงจังกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อผลักดันและปรับใช้ Digital Wallet ให้กับประชาชนทั่วประเทศภายในปี 2567 ตามนโยบายสัญญาของพรรคเพื่อไทย” ประเสริฐ กล่าว
กระทรวงดิจิทัลยังมีนโยบายสำคัญที่เป็นเจ้าภาพ และให้ความสำคัญในการขับเคลื่อน ประกอบด้วยการดำเนินการตามรูปแบบการกำกับดูแลใหม่ เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) การพัฒนานวัตกรรม ได้แก่ Digital ID, Digital Post ID และ Cloud แบบรวมศูนย์เพื่อการสาธารณสุข หรือเรียกว่าแพลตฟอร์มสุขภาพดิจิทัลแห่งชาติ รัฐบาลยังดำเนินโครงการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ
ส่วนงานที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการดูแลของกระทรวงฯ แต่จะได้รับความร่วมมือในการขับเคลื่อน เช่น การพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย ที่มีเป้าพัฒนาให้อยู่ในอันดับที่ 40 ของโลกภายในปี 2570 เพิ่มขึ้นจากอันดับที่ 53 ในปัจจุบัน การสนับสนุนแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลแบบครบวงจรที่รองรับการพัฒนาประเทศอัจฉริยะและนโยบายชีวิตอัจฉริยะของรัฐบาล สำหรับเรื่องใหม่สำหรับเทคโนโลยีที่มาแรฝ ขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศผ่านเทคโนโลยี AI ให้สอดคล้องกับร่างแผนพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ดิจิทัลฉบับที่ 2 ของประเทศไทย ระหว่างปี 2566 ถึง 2570
“ผมไม่ได้เป็นโปรแกรมเมอร์คอมพิวเตอร์ หรือมีทักษะเฉพาะเช่นคนด้าน ICT แต่ก็มุ่งมั่นที่จะทำให้ดีที่สุดในตำแหน่งรัฐมนตรีผ่านระเบียบวิธีของการทำงานเป็นทีมที่ปรึกษา ฝ่ายบริหารของกระทรวงดีอีเอสและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ผมมีประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการยาวนานุทั้งในด้านธุรกิจ หน่วยงานของรัฐ และการเมือง เนื่องจากเขาได้รับเลือกให้เป็น ส.ส.ในจังหวัดนครราชสีมาผ่านการเลือกตั้งครั้งใหญ่ในประเทศถึง 6 ครั้ง”
